3 ธันวาคม 2544 17:16 น.
หิ่งห้อย
*** เสียงขลุ่ยครวญบรรเลงบทเพลงเศร้า
ฟังเหงาเหงาเคล้าเสียงสำเนียงหวาน
ขลุ่ยบรรเลงเพลงเศร้าดูร้าวราน
เสียงหวานหวานผสานซึ้งตราตรึงใจ
*** นั่งเหม่อมองท้องนาและฟ้ากว้าง
ใกล้กองฟางข้างหน้าเถียงนาใหญ่
มองหมู่นกผกผินบินเรื่อยไป
มองน้ำใสในนาปลาว่ายวน
*** เอนหลังพิงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
มีตำลึงเถาวัลย์เกี่ยวพันต้น
เลื้อยลัดเลาะเกาะยื่นขึ้นเบื้องบน
ยามหน้าฝนเจริญยิ่งทั้งกิ่งใบ
*** มองควายน้อยค่อยค่อยเลาะเล็มหญ้า
มองชาวนาน้ำตาข้าจะหล่น
ทำแทบตายล้มพับยังอับจน
แต่ยังทนตรากตรำทำเรื่อยมา
*** ไม่มีหวังชาวหน้าหน้าหม่นหมอง
น้ำตานองเหม่อมองจ้องเวหา
ถึงคราวฝนฝนไม่หลั่งพรั่งลงมา
มีเพียงหยดน้ำตาร่วงรดดิน
3 ธันวาคม 2544 10:48 น.
หิ่งห้อย
รักร้างห่างไกลรัก ร้อนรุ่มนักหนอรักลวง
รักเราเฝ้าห่วงหวง แต่พุ่มพวงลวงรักเรา
รักเอยเคยฉ่ำหวาน ต้องร้าวรานพาลให้เศร้า
รักเอ๋ยหนอรักเรา ต้องอับเฉาเพราะเขาลวง
รักร้างเพราะนางไกล ดูหรือใจใยไม่ห่วง
รักร้างเพราะนางลวง เจ็บช้ำทรวงดวงฤทัย
รักแรกแปลกใจนัก รักดุจจักกลืนกินได้
รักหนอพอนานไป แล้วรักใยไม่ยั่งยืน
รักใครให้ชั่งจิต พักสักนิดอย่าคิดฝืน
รักช้ำและกล้ำกลืน รักขมขื่นหากฝืนใจ
รักเอ๋ยหนอรักร้าง กว่าจะสร้างขึ้นมาได้
รักหนอรอรักใคร ที่จริงใจให้รักเรา
รักแท้คือแม่รัก ได้ซบตักพักคลายเหงา
รักแท้คือแม่เรา ยามลูกเศร้าเข้าปลอบโยน
รักแท้แม่ยอมได้ เพื่อลูกสบายไม่สับสน
รักแท้แม่ยอมทน แม้ยากจนไม่บ่นคำ
รักหนอพ่ออีกหนึ่ง สุดซาบซึ้งตรึงจิตหนำ
รักหนอพ่อจึงพร่ำ เอ่ยเป็นคำจำนรรจา
รักหนอพ่อสอนลูก สิ่งผิดถูกลูกรู้ว่า
รักหนอพ่อเมตตา พ่ออุตส่าห์พาก้าวไกล
รักแกร่งเพราะแรงพ่อ ยามลูกท้อพ่อยื่นให้
รักทั้งกำลังใจ ส่งลูกให้ได้เป็นคน
รักหนอพ่อแม่จ๋า ลูกจะฝ่าแม้ห่าฝน
รักหนอขอดั้นด้น แม้อับจนหนทางไป
รักนี้มีแม่พ่อ ก็เพียงพอต่อสู้ได้
รักเอยเคยไหมใคร เทียบท่านได้ไม่เห็นมี
รักจริงหนอหญิงใด มอบใจให้ได้สุขี
รักอย่างที่ท่านมี คงสุขีและปรีย์เปรม
รักร้าวขอก้าวไป แม้ดวงใจไม่เกษม
รักปริ่มคงอิ่มเอม คงเกษมเข้าสักวัน
3 ธันวาคม 2544 00:00 น.
หิ่งห้อย
กาลเวลาล่าไล่ไม่หยุดนิ่ง
สรรพสิ่งแปรปรวนล้วนไม่เที่ยง
แม้ภูผาว่าแกร่นยังแอ่นเอียง
ตั้งอยู่เพียงสักพักหักทลาย
กาลเวลากลืนกินไม่สิ้นสุด
เริ่มชำรุดสิ้นไปในสุดท้าย
แม้คฤหาสน์ราชวังพังทลาย
ในบั้นปลายกลายธาตุขาดตัวตน
กาลเวลากินบ่อยย่อยสลาย
อันร่างกายเกิดแก่แต่เริ่มต้น
คนเราแก่ตั้งแต่กำเนิดตน
เราทุกคนเป็นอาหารกาลเวลา
กาลเวลากลืนไปแล้วถ่ายออก
เป็นผมหงอกหนังย่นบนใบหน้า
เป็นหนังยานย่ำแย่แก่ชรา
เป็นหูตาพร่ามัวทั่วเรือนกาย
กาลเวลากลืนไปแล้วถ่ายซาก
ให้เห็นรากฝากเศษเตือนเหตุร้าย
กาลเวลากลืนไปใกล้ความตาย
กลืนแล้วถ่ายให้เห็นเป็นวงจร
ชีวิตคนทนสู้อยู่มานี้
ทุกนาทีมีภัยไม่ผันผ่อน
อย่าอวดดีหนีได้ตายแน่นอน
รู้ไว้ก่อนล่วงหน้า....อย่าคะนอง
2 ธันวาคม 2544 23:31 น.
หิ่งห้อย
ลุงป้ากำพร้าลูกถูกทอดทิ้ง
เห็นเป็นจริงทั่วไทยให้ขื่นขม
สถาบันพื้นฐานด้านสังคม
ครอบครัวจมล้มหายใต้ธารา
วัฒนธรรมไทยไหลตามคลื่น
ไร้จุดยืนพื้นฐานการศึกษา
สื่อธรรมประเพณีที่ดีมา
ถูกพัดพาน่าเศร้าเขามองเมิน
ผู้ผลิตสื่อหรือก็เอียงเพียงค้าขาย
บ่อนทำลายจิตใจให้ห่างเหิน
วัฒนธรรมไทยไม่จำเริญ
มอมเมาเกินเหินห่างทางศีลธรรม
โปรดไตร่ตรองมองไกลให้ก้าวหน้า
นิยมค่าของไทยไม่ตกต่ำ
ขอกระซิบข้างหูท่านผู้นำ
วัฒนธรรมไทยเรา...เอาคืนมา
2 ธันวาคม 2544 21:21 น.
หิ่งห้อย
วัฒนธรรมของไทยฝากไว้ด้วย
ขอจงช่วยชูเชิดกันเถิดหนา
เยาวชนของชาติร่วมพัฒนา
เห็นคุณค่าอย่าข้ามความเป็นไทย
วัฒนธรรมของไทยในมือน้อง
ช่วยประคองป้องกันสถาบันไว้
ประเทศชาติศาสน์กษัตริย์สมบัติไทย
อยู่ที่ใจเยาวชนร่วมพลนำ
ตัวเป็นไทยใจเป็นฝรั่งหวังพินาศ
ประเทศชาติศาสน์กษัตริย์วิบัติต่ำ
ตัวเป็นไทยใจพิทักษ์รักษาธรรม
จึงจะนำชาติไทยให้ยั่งยืน
ความเป็นไทยอยู่ที่ใจให้ฝึกฝน
เยาวชนเชิดชูช่วยฟูฟื้น
นิยมไทยใจรักเป็นหลักยืน
ไม่เมาคลื่นตื่นสมัยหมิ่นไทยเรา
ครอบครัวไทยสมัยนี้มีปัญหา
เห็นลุงป้าผิดหวังนั่งกุมเข่า
เหล่าลูกหลานหลีกไปไม่เห็นเงา
ทิ้งผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน..สงสารเกิน
วัฒนธรรมของไทยให้เห็นค่า
คุณบิดามารดาน่าสรรเสริญ
ควรตอบแทนคุณท่านนั้นเหลือเกิน
จึงได้เกริ่นกลอนยาวฝากเยาวชน