18 ธันวาคม 2544 15:07 น.
หิ่งห้อย
เมื่อวันที่ฉันเดินทาง บากหน้ามุ่งสร้าง
ทุกทิศทั่วแคว้นแดนสยาม
โดดเดี่ยวอ้างว้างทุกยาม คิดถึงเขตคาม
ที่ฉันนั้นพรากจากมา
บางครั้งนั่งนองน้ำตา คิดถึงพ่อข้า
อุราพะว้าพะวง
เดือนคล้อยลอยลับดับลง ป่านนี้พ่อคง
ใจลอยคอยทางลูกยา
พรุ่งนี้รุ่งรางทาบทา หนทางข้างหน้า
ลูกยาจะฝ่าฟันไป
หมอกมัวเกลือกลั้วด้วยไฟ แม้หนักเพียงใด
จะใฝ่จะฝ่าประลอง
จวบจนขอบฟ้าสีทอง รุ่งรางเรืองรอง
จะร้องจะรำนำชัย
ด้วยเดชด้วยคุณพระตรัย รัตน์จงคุ้มภัย
ปกป้องคุ้มครองเมตตาฯ
18 ธันวาคม 2544 11:45 น.
หิ่งห้อย
ในเรือนกายมีทุกข์เข้าคลุกเคล้า
ดวงตาเจ้าทอดไปไร้จุดหมาย
ไร้ผ้าผ่อนร้อนหนาวเข้าคลุมกาย
มีความตายกรายกร่ำล้ำเข้ามา
แม้น้ำนมมารดามาเหือดแห้ง
เนตรกล่ำแดงแฝงไว้ไม่ประสา
ไร้ความหวังถั่งโถมโหมดวงตา
ไร้แม้ว่ากระทั่งใครให้ปราณี
ทุกคำกลืนทุกมื้อคือชีวิต
ทุกชีวิตที่เรียงรายในโลกนี้
คือเด็กน้อยคอยดูผู้ปราณี
คือเด็กที่ยากไร้ในดินเดียว
ริ้วแขนเจ้าริ้วนี้ซี่โครงเว้า
ไร้แรงเร้ารุกไปในโลกเขียว
ขาของเจ้าขานี้ใช่ขาเพรียว
ที่ยาวเรียวเที่ยวอวดประกวดกัน
โอ้ดินเอ๋ยดินนี้ที่ก่อเกิด
ดูล้ำเลิศร่ำรวยด้วยสีสัน
ขอได้โปรดร่วมด้วยช่วยแบ่งปัน
ให้น้องนั้นมีแรงแข่งทุกข์ภัย
แด่เด็กน้อยน้องหนูผู้หิวโหย
เพียงท่านโปรยเมตตาอัชฌาศัย
น้อยหนึ่งซึ่งกรุณาและอาลัย
เพื่อจักได้ต่อชีวาตาดำดำ
18 ธันวาคม 2544 02:24 น.
หิ่งห้อย
ฟังสำเนียงเสียงเพรียกเรียก พ่อจ๋า
เมื่อไหร่หนอพ่อจะมาหาลูกขวัญ
มารับส่งลูกนี้ทุกวี่วัน
มารับขวัญลูกชายไปโรงเรียน
มีเพียงปู่และย่ามาพร้อมพักตร์
บ่มความรักประจักษ์ใจให้อ่านเขียน
เพื่อนฝูงเขาหัวร่อเขาล้อเลียน
อยู่โรงเรียนลูกชายอายพ่อจ๋า
โอ้..ลูกจ๋าอย่าอ้อนตัดรอนพ่อ
อดทนรอพ่อนะ..นะลูกจ๋า
จะชดเชยความรักหนักอุรา
ให้สมดั่งลูกยาตั้งตารอ
โอ้.ลูกจ๋าอย่าร้องอย่าหมองเศร้า
หยุดน้ำตาของเจ้าหยุดเศร้าหนอ
เช็ดน้ำตาลูกรักหักใจรอ
วันที่พ่อกลับมาพาก้าวไกล
ด้วยมือสองของพ่อจะก่อร่าง
สืบสานทางของลูกให้สุกใส
สองมือพ่อขอนำเจ้าเดินก้าวไป
จะคว้าไขว่ร่วมฝันวันรุ่งราง
ย้อนถึงฝันสีทองของแม่เจ้า
ครอบครัวเราพร้อมใจไม่เคยห่าง
สองดวงใจแม่พ่อถักทอทาง
หวังสล้างทางใสให้ลูกยา
บัดนี้ฝันวันเก่ายังเร้าจิต
ให้พ่อคิดติดตรึงคะนึงหา
แม้แม่เจ้าจากไปไร้กายา
แต่ลูกจ๋าจงรอพ่ออยู่เคียง
โอ้ดวงใจใสพิสุทธิ์หยุดเถิดหนา
หยุดร้องเถิดลูกยาอย่ามีเสียง
ใจพ่อเจ็บจุกจนล้นพะเนียง
ยามยินเสียงเว้าวอนว่อนดังมา
โอ้ลูกจ๋าอย่าอ้อนวิงวอนพ่อ
ไม่นานหนอรอก่อนนะลูกจ๋า
ด้วยสองแขนโอบกระชับซับน้ำตา
พ่ออาสาพาไปไม่เดียวดาย
18 ธันวาคม 2544 00:43 น.
หิ่งห้อย
เสียงแคนแว่วแผ่วไหวใกล้เย็นย่ำ
แทนถ้อยคำน้ำเสียงเผดียงหวาน
แทนน้ำใสไหลบ่าชลาธาร
โอบอุ้มมาลย์นฤมลคนทุกข์ตรม
เสียงแคนหวิวพลิ้วไหวใกล้เย็นย่ำ
เนตรน้องช้ำน้ำตาพาขื่นขม
นองน้ำตาบ่าเซาะเพราะระทม
มิชื่นชมเฉกเช่นที่เป็นมา
เสียงแคนอ้ายคล้ายเพียงเสียงเพลงขับ
จะกู่รับขับขวัญให้หรรษา
มาเถิดหนอขวัญเอยขวัญจงมา
อย่าโรยราแรมร้างห่างดวงใจ
เสียงแคนเพรียกเรียกกู่มาสู่ขวัญ
เมื่อตะวันลาลับดับฟ้าใส
หลับเถิดนะแก้วตาอย่าอาลัย
เช้าวันใหม่พรุ่งนี้ฟ้าสีทอง
เสียงแคนแว่วเว้าวอนมิห่อนหาย
มิเสื่อมคลายหายห่างให้หมางหมอง
ตราบขอบฟ้ารุ้งผ่านม่านสีทอง
ตราบดาวจ้องเดือนจ้ามาประโลม
เสียงแคนหวิวพลิ้วไหวให้น้องหลับ
ในห้วงหับทับทิพยโสม
แคนไหวหวิวพลิ้วล้อมกล่อมประโคม
เป็นแสงโสมส่องหล้าพาเธอไป
เสียงแคนหวิวพลิ้วไปไร้คำร้อง
แทนมือสองของพี่นี้ส่งให้
เกาะกุมแขนแน่นหนาพาก้าวไป
เข้าสู่ไฟความหวังที่พรั่งพราย
เสียงแคนดังพรั่งมาราตรีนี้
ปลอบฤดีเคล้าคลุกทุกข์เหือดหาย
หยุดระทมทดท้อรอวันตาย
เหมือนฝนปรายฉายฉ่ำดิ่งด่ำทรวง
17 ธันวาคม 2544 21:07 น.
หิ่งห้อย
เจ้าของที่คนเก่าเขาไปไหน
เจ้าของที่คนใหม่นั่นใครหว่า
มาถมที่ห้วยหนองของชาวนา
หุ่นพ่อค้าหน้าตาดียืนชี้มือ
เจ้าของเดิมโดนปลดหมดความหมาย
เพราะใจง่ายหลงลมเขาข่มซื้อ
ขาดผู้มีเมตตาช่วยหารือ
ความเซ่อเซ่อซื่อซื่อคือชาวนา
มีปริศนามาเฉลยเอ่ยเรื่องเก่า
จะขอนำมาเล่าเป็นปริศนา
นิทานเศร้าเรื่องงูเห่ากับชาวนา
เป็นปัญหาชวนพินิจสะกิดเกา
เพียงประสบงูเห่านิ่งหนาวสั่น
ก็กระสันเปลื้องทุกข์รีบคุกเข่า
ประคองแขนอำนวยช่วยบรรเทา
ด้วยความเขลาสุดท้ายวายชีวา
ต้นอารีย์ต้นนี้ที่ปลูกไว้
ออกดอกเป็นภัยช่างไร้ค่า
ต้นรักหักร้าวหนอชาวนา
คงเหลือเพียงน้ำตาชโลมดิน
เจ้างูเห่าก่อคดีที่ทุ่งนา
พิพากษามิกล้ามาตัดสิน
ฆาตกรงูเห่าเจ้าทมิฬ
มันแลบลิ้นแผ่พังพานผลาญชาวนา
ขอได้โปรดเถิดศาลอ่านสำนวน
ให้ครบถ้วนกระทงความตามภาษา
อย่าเพียงสรุปเพียงย่อรออาญา
พิพากษารีบสะสางล้างมลทิน
หากชักช้าชาวนาไทยไร้สงบ
ต้องอพยพวุ่นวายต้องย้ายถิ่น
ถูกฉ้อฉนป่นปี้ที่ทำกิน
มันแลบลิ้นปลิ้นปล้อนบ่อนทำลาย