14 ธันวาคม 2544 22:04 น.
หิ่งห้อย
คำว่าแม่คำนี้มีค่านัก
แม่ฟูมฟักปกปักษ์และรักษา
แม่ รักลูกแม่นั้นดั่งแก้วตา
แม่ ผวาคราลูกนั้นทุกข์ตรม
แม่ คือผู้ก่อเกิดกำเนิดลูก
แม่ พันธ์ผูกรักลูกให้สุขสม
แม่กลั่นเลือดออกเห็นเป็นน้ำนม
แม่ ประคบประหงมชมลูกยา
แม่ สอนลูกบินไปในโลกกว้าง
แม่ เมื่อลูกอ้างว้างกลางเวหา
แม่ เมื่อลูกแม่นี้มีน้ำตา
แม่ รีบพาลูกน้อยลอยพ้นภัย
14 ธันวาคม 2544 14:24 น.
หิ่งห้อย
ทะเลใจไหลเดือดไม่เหือดแห้ง
ลงออกแรงแหวกว่ายตั้งหลายหน
เคยหมดแรงอ้างว้างกลางสายชล
เคยสับสนชลธีมีคลื่นลม
ทะเลใจไหลหลั่งยังเดือดพล่าน
กระแสธารเล็กใหญ่ไหลผสม
กระแสใจไหลเปลืองเรื่องสังคม
ขยะถมทับทั่วทะเลใจ
เราแหวกว่ายสายธารคงผ่านยาก
จะข้ามฟากถึงฝั่งยังหวั่นไหว
ทะเลเดือดเลือดฉีดขีดหัวใจ
กว่าจะข้ามฝั่งได้ไร้เรี่ยวแรง
กระแสธารม่านหมอกหลอกให้หลง
คลื่นซัดลงหลอกใจให้ไกวแกว่ง
ทะเลกว้างกางรอบขอบฟ้าแดง
ทะเลแห่งกระแสใจไหลวกวน
กระแสใจไหลวนคนทั้งโลก
กระแสโศกไหลทับให้สับสน
กระแสสุขไหลเข้าเคล้าระคน
กระแสคนวนว่ายสายนที
ทะเลใจสายเลือดไม่เดือดดับ
วกไหลกลับกลิ้งกลอกระลอกถี่
จะข้ามฟากให้พ้นชลธี
แม้จะมีคลื่นซัด.กัดฟันทน
อุปสรรคมากมีที่เราพบ
หากสยบยอมแพ้ตั้งแต่ต้น
ไฉนเลยเงยหน้ากล้าสู้คน
สุดท้ายวนเวียนพ่ายทะเลใจ
14 ธันวาคม 2544 12:00 น.
หิ่งห้อย
หยิบภาพเก่าเอามาดูเห็นปู่หลาน
ออกจากบ้านอีสานแล้งแสวงหา
มุ่งจุดหมายปลายสุดอยุธยา
แสวงหาทางใหม่ให้หลานชาย
หมั่นศึกษาวิชาการนะหลานปู่
จงต่อสู้อยู่ที่นี่อย่าหนีหาย
ไม่ต้องห่วงครอบครัวหรือวัวควาย
ลูกผู้ชายต้องใจกล้าอย่าอ่อนแอ
เออ...ห่อนั่นพันสองเงินของปู่
มันเหลืออยู่ปู่ให้จากใจแท้
ปู่กลับไปใครเล่าเขาดูแล
ไม่มีแม่แต่มีปู่อยู่ทั้งคน
หลานปู่อยู่ที่นี่ต้องดีกว่า
ได้ศึกษาเพิ่มเติมจุดเริ่มต้น
เมื่อเติบโตหวังได้เป็นนายคน
จงตั้งต้นศึกษาอย่าโลเล
หลานปู่ผู้นี้มีภาพเก่า
เป็นภาพเงามองเห็นเป็นเสน่ห์
เป็นภาพเก่าเร้าใจให้รวนเร
ดูว้าเหว่วังเวงเกรงภาพจาง
บรรจงกราบภาพปู่อยู่ข้างฝา
ขอบูชาภาพเก่าเอาเยี่ยงอย่าง
ขอน้อมนึกกตัญญูผู้เบิกทาง
ได้แสงสว่างก็เพราะปู่เป็นผู้นำ
14 ธันวาคม 2544 11:16 น.
หิ่งห้อย
ฅ. ฅนชาวนา ค้าขายไม่คล่อง
ระแหงระหอง หมองหม่นล้นปรี่
อยู่อย่างกลัดกลุ้ม ตกหลุมหลายที
ลำบากคลุกคลี อยู่ที่ไร่นา
งานหนักรับเอา งานเบารับได้
เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย อยู่ที่ชายป่า
ชีวิตแสนเศร้า นอนเฝ้าโรงนา
ได้ผลิตผลมา ฅนคว้าไปกิน
ทำนาเลี้ยงฅน ทุกข์ทนลำบาก
ฅนกินมีมาก ลำบากหนี้สิน
ทำนากับมือ แต่ซื้อข้าวกิน
ไม่จบไม่สิ้น ฅนกินแรงฅน
บางครั้งฅนเบ่ง ข่มเหงใจกัน
แบ่งฅนชนชั้น เผ่าพันธุ์สับสน
ฅนฉวยโอกาส ฉลาดโกงเหนือฅน
ไปไหนไม่พ้น ชีวิตฅนชาวนา
โปรดเถิด ฅ. ฅน ขอคนเปิดใจ
ขอฅนได้ไหม หัวใจชาวนา
ฅ. ฅนผู้ดี ไม่มีปัญหา
ฅ. ฅนชาวนา ปัญหามากมี ฯ
** อาจมีต่อภาค 2 ครับ ^___^
13 ธันวาคม 2544 23:45 น.
หิ่งห้อย
ตะวันลัดอัสดงลับลงแล้ว
ดวงจันทร์แพรวพริบพราวสกาวฟ้า
ดาวดวงน้อยลอยรอบขอบนภา
เบิกม่านฟ้าสง่างามตามพฤกษ์ไพร
เสียงหรีดหริ่งเรไรกล่อมไพรพฤกษ์
จึงเรียงร้อยถ้อยสำนึกที่นึกได้
ถึงห้วงหนึ่งแห่งชีวีที่กล้ำกราย
ถึงจุดหมายที่ฉันนั้นหมายปอง
เดือนเคลื่อนคล้อยลอยไหลไปเรื่อยเรื่อย
ฉันแสนเหนื่อยแสนเหงาแสนเศร้าหมอง
บางครั้งฉันต้องหลั่งน้ำตานอง
บางครั้งต้องแอบฝืนสะอื้นดัง
หยาดน้ำค้างหลั่งหยดรดใบหญ้า
ดุจน้ำตาข้าหลั่งครั้งผิดหวัง
ครั้งที่ฉันนั้นอ่อนผ่อนกำลัง
ครั้งฉันยังโง่เขลาเบาปัญญา
จวบวันนี้เดือนปีที่ผันผ่าน
เรียนรู้กาลยามแพ้แก้ปัญหา
ทางชีวิตอันยาวเราก้าวมา
มีน้ำตาหลั่งรินให้ดินดี
เปรียบดั่งคนหาบน้ำนำมาใช้
ด้วยอาศัยบ่าไปในวิถี
ถังข้างหนึ่งซึ่งใหม่ยังใช้ดี
ข้างหนึ่งมีรูรั่วซ้ำน้ำกระเด็น
แต่ดอกไม้ข้างทางระหว่างนั้น
งามสีสันชูไสวให้ได้เห็น
เพราะได้รับน้ำดีที่กระเซ็น
จึงได้เห็นเป็นดอกไม้ให้ชื่นชม