3 ธันวาคม 2544 17:45 น.
หิ่งห้อย
**หากเธอเคยวาดหวังตั้งจิตไว้
แล้วยังก้าวเดินไปไม่ถึงฝัน
จงอย่าท้อเก็บแรงรอแสงตะวัน
รุ่งเช้าพลันต่อสู้กู้ศรัทธา
**ถนนชีวิตยาวไกลใจต้องสู้
ต้องเรียนรู้ยอมรับกับปัญหา
อาจบางครั้งอ่อนแอแพ้น้ำตา
ปล่อยน้ำใสไหลมาให้สาใจ
**หากเหนื่อยนักพักผ่อนนอนหลับฝัน
เพื่อต่อเติมเพิ่มชีวันอันสดใส
เดือนและดาวพราวตาฟากฟ้าไกล
จะโอบล้อมดวงใจให้ฝันดี
**หากพุ่มพวงดวงใจนั้นอ่อนล้า
จงเหลือบมองจ้องตามาตรงนี้
เจ้าจงรู้ว่าพี่ห่วงดวงฤดี
ตราบวันนี้วันไหนไม่เสื่อมคลาย
3 ธันวาคม 2544 17:45 น.
หิ่งห้อย
**คืนเศร้า
มีเพียงเราคนเดียวดูเปลี่ยวเหงา
แสงพระจันทร์เพ็ญแขแลเป็นเงา
ล่วงรุ่งเช้าลบเลือนเหมือนลับลา
**ดวงดาว
ยามดวงเดือนส่องเงาพราวเวหา
เจ้าก็หมองค่าน้อยด้อยราคา
จวบเดือนดับลับฟ้าค่ามากมี
**หิ่งห้อย
ต้องบินคล้อยรันทดหมดศักดิ์ศรี
คราเดือนดาวพราวฟ้าบรรดามี
หมดแรงที่จะเปล่งแสงแข่งดาวเดือน
**ความฝัน
ความมุ่งมั่นของฉันนั้นเปรียบเหมือน
ดังกระต่ายหมายปองจ้องดาวเดือน
ไม่มีวันคล้อยเคลื่อนมาเยือนดิน
3 ธันวาคม 2544 17:31 น.
หิ่งห้อย
*** รู้สึกมีมือใครลูบใบหน้า
ใช้มือปาดน้ำตาให้กับฉัน
ใจคิดตรึกนึกว่าขวัญชีวัน
แต่ที่แท้มือ แม่ ฉันคนนั้นเอง
*** เผลอตัวหลับพับไปไม่รู้สึก
ก้อนสะอึกจุกใจใครข่มเหง
เพียงเพราะรักมากไปไม่กลัวเกรง
ทำเป็นเก่งเบ่งกล้ามไม่ห้ามใจ
*** ผลสุดท้ายต้องผวากลับหาแม่
หอบใจแพ้พ่ายพังเกินรั้งไหว
สู่อ้อมแขนแน่นหนาเกินกว่าใคร
อบอุ่นไอรักแท้หนอ แม่ เรา
*** ..ไม่เป็นไรลูกแม่หากแพ้พ่าย
จงพักใจพักกายให้คลายเหงา
มาหนุนตักแม่นี้ที่บ้านเรา
คลายรักเร้ารุมร้อนให้ผ่อนคลาย..
3 ธันวาคม 2544 17:31 น.
หิ่งห้อย
*** กระท่อมน้อยปลายนาคราครั้งก่อน
เคยมีเจ้าออดอ้อนก่อนหลับไหล
เคยหยอกเย้าเคยห่วงดวงฤทัย
เคยหัวเราะร้องไห้ในบางคราว
*** เคยเล่าถึงความฝันวันข้างหน้า
เคยท้อแท้เหนื่อยล้า..คว้ากันก้าว
เคยปรับทุกข์สุขเศร้าเหงาบางคราว
เคยนั่งมองดูดาวพราวนภา
*** เคยฟังเจ้าบรรเลงเพลงขับร้อง
เคยนั่งจ้องมองทุ่งรุ้งทอดฟ้า
เคยเขียนกลอนส่งเจ้าเข้านิทรา
เคยบอกเจ้าขวัญตาอย่าอ่อนแอ
*** เคยเหงาเหงามีเจ้าเข้ามาอ้อน
เคยหนาวร้อนขวัญอ่อนมาแยแส
เคยปลอบเจ้าเมื่อครั้งโดนรังแก
เคยช้ำหนักกระดักแดช่วยแก้กัน
*** กระท่อมน้อยปลายนาคราครั้งนี้
หรือจะมีเหลือแต่แค่ความฝัน
ที่น้องพี่เคยได้ใกล้ชิดกัน
ยากจะหวนคืนวันหันกลับคืน
3 ธันวาคม 2544 17:16 น.
หิ่งห้อย
*** เสียงขลุ่ยครวญบรรเลงบทเพลงเศร้า
ฟังเหงาเหงาเคล้าเสียงสำเนียงหวาน
ขลุ่ยบรรเลงเพลงเศร้าดูร้าวราน
เสียงหวานหวานผสานซึ้งตราตรึงใจ
*** นั่งเหม่อมองท้องนาและฟ้ากว้าง
ใกล้กองฟางข้างหน้าเถียงนาใหญ่
มองหมู่นกผกผินบินเรื่อยไป
มองน้ำใสในนาปลาว่ายวน
*** เอนหลังพิงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
มีตำลึงเถาวัลย์เกี่ยวพันต้น
เลื้อยลัดเลาะเกาะยื่นขึ้นเบื้องบน
ยามหน้าฝนเจริญยิ่งทั้งกิ่งใบ
*** มองควายน้อยค่อยค่อยเลาะเล็มหญ้า
มองชาวนาน้ำตาข้าจะหล่น
ทำแทบตายล้มพับยังอับจน
แต่ยังทนตรากตรำทำเรื่อยมา
*** ไม่มีหวังชาวหน้าหน้าหม่นหมอง
น้ำตานองเหม่อมองจ้องเวหา
ถึงคราวฝนฝนไม่หลั่งพรั่งลงมา
มีเพียงหยดน้ำตาร่วงรดดิน