11 ธันวาคม 2544 21:07 น.
หิ่งห้อย
...เหนื่อยล้ามาทั้งวัน
โอ้จอมขวัญพลันพักผ่อน
หลับตาอย่าอาวรณ์
โอ้ขวัญอ่อน....นอนฝันดี..
(29 ธ.ค 42)
..น้องสาวเจ้าอ่อนล้า
เหนื่อยกายามาทั้งวัน
หลับเถิดน้องจอมขวัญ
จงหลับฝันถึงสิ่งดี..
(30 ธ.ค. 42)
..ขอฝากใจใส่เดือนเป็นเพื่อนหาว
ก่องสกาวกล่อมหล้าคราหลับไหล
ดาษดาวร้อยพร้อยเกลื่อนเป็นเพื่อนใจ
เร้าเรไรหริ่งพร้อม...กล่อมน้องนอน..
(11 ม.ค. 43)
...ขอคุณพระดลใจให้น้องพี่
หลับฝันดีมีสุขอย่าทุกข์เข็ญ
ตื่นเช้ามาอุราชื่นฉ่ำเย็น
เจ้ายังเป็นน้องคนดีของพี่เอย...
(12 ม.ค. 24543)
...ดาวในใจไม่ไร้แสง
ยังคงแรงและแกร่งกล้า
ดาวเดือนเกลื่อนนภา
ยังด้อยค่ากว่าดวงดาว...ในใจเธอ..
###
..ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว
โอ้น้องแก้วยังไม่นอน
จงหลับแล้วพักผ่อน
อย่าอาวรณ์เลยน้องนาง...
(19 ธ.ค. 2542)
...หลับเถิดน้องจอมขวัญ
จงหลับฝันถึงสิ่งดี
หลับเถิดขวัญฤดี
พี่คนนี้จะกล่อมนอน...
(20 ธ.ค. 2542)
...ส่งกลอนอันอ่อนหวาน
ข้ามลำธารผ่านหุบเขา
กล่อมน้องนอนนานเนา
ส่งน้องสาวให้เข้านอน...
(21 ธ.ค. 2542)
...หลับเถิดนะคนดีพี่จะกล่อม
จะเก็บดาวมาล้อมรอบจอมขวัญ
ให้เจ้าหลับฝันดีทุกคืนวัน
หลับตาฝันเถิดเจ้าหลับฝันดี...
23 ธ.ค. 2542
11 ธันวาคม 2544 20:38 น.
หิ่งห้อย
เมื่อไม่มีมิ่งมิตรคอยคิดฝัน
ทุกคืนวันที่อยู่ดูเหงาหงอย
ก็สมแล้วที่เราเฝ้าแต่คอย
หวังเพริดพร้อย...หนอยใจใยไม่เจียม
อยู่อย่างดินค่าเพียงดินบนถิ่นนี้
ค่าอย่างดีที่รู้เคียงคู่เสียม
ก็แค่ดินดิ้นไป..ใยไม่เจียม
ควรค่าเสียมสับเจาะ...เพราะเพียงดิน
11 ธันวาคม 2544 20:09 น.
หิ่งห้อย
หิ่งห้อยตัวน้อยนิด เจ้าลิขิตชีวิตได้
บินไกลเจ้าบินไป บินสุดใจไม่ระอา
เปรียบดังวิหคเหิน เที่ยวเพลิดเพลินเหินสู่ฟ้า
บินไปทั่วนภา สุขอุราเหนืออื่นใด
อิสระและเสรี มุ่งสู่ดีที่ฝันใฝ่
มุ่งไปและก้าวไป ด้วยหัวใจทระนง
แสงแดดแผดเผาไหม้ แต่หัวใจไม่พะวง
ตั้งกายอย่างอาจอง ตั้งใจตรงคงฝ่าฟัน
จุดหมายที่วางไว้ เกิดขึ้นได้เพราะสร้างสรรค์
อุปสรรคหลากร้อยพัน ไม่เคยหวั่นเลยสักครา
ยังคงโบกโบยบิน โผผกผินบินแสวงหา
ไม่เคยเลยสักครา ที่น้ำตาข้าจะนอง
ถึงท้อแต่ไม่ถอย และไม่คอยโชคสนอง
สู้ไปตามครรลอง สิ่งที่ปองต้องได้มา
หิ่งห้อยตัวน้อยนิด สู้อีกนิดสู้เถิดหนา
สู้ไปให้ยิบตา ใบปริญญารออยู่เอย
11 ธันวาคม 2544 18:28 น.
หิ่งห้อย
สุรีย์แจ้งแสงอร่ามยามอรุณ
โลกได้หมุนทิศทางสว่างแล้ว
ลมสะบัดพัดลิ่วพริ้วพราวแพรว
หมู่นกแก้วนกขุนทองร้องกรีดมา
เที่ยวเพลิดเพลินเดินดงพงป่าไม้
มีต้นไทรร่มเย็นเป็นหนักหนา
มีไม้เต็งไม่รังกระดังงา
มีเฟื่องฟ้ามีมะกอกดอกพิกุล
มีไม้ยางต้นยูงสูงเสียดฟ้า
มีไม้ค่าไม้สนต้นขนุน
มีดอกจานบานแย้มแซมดอกคูณ
ผักอีนูนผลดกปกไม้แดง
ตะแบกบานหวานเศร้าเคล้าดอกรัก
กอไผ่ป่าหนานักช่วยพักแสง
ยามลมพัดขจัดพลังช่วยบังแรง
ช่วยปั้นแต่งต่อเติมเสริมป่าไทย
มะตูมตาลต้นโตโพธิ์ตระหง่าน
ริมละหานผ่านเอื่อยเรื่อยรินไหล
ดอกกระถินกลิ่นโหยโชยชื่นใจ
เนินไศลไม้กระโดนโนนงิ้วดำ
เสียงลมโบกใบไม้ไหวหวือหวา
หมู่นกกาบินร่อนตอนใกล้ค่ำ
ยลทิวทัศน์สงัดเย็นเน้นจดจำ
เพื่อฝากย้ำสำนึกลึกในทรวง
หมดเวลาเพลินลมชมไพรพฤกษ์
กลัวจะดึกเกินไปให้คิดห่วง
ฟ้าเริ่มหม่นหมอกมัวกลัวหลงลวง
จึงรีบจ้วงก้าวลับกลับจากไพร
อันต้นไม้นานามีค่ามาก
ทั้งใบรากดอกผลคนอาศัย
ตั้งแต่เกิดจนตายใช้ก่อไฟ
แม่อยู่ไฟปู่ตายไปใช้ไม้ฟืน
ใช้ทำสีย้อมผ้ายาแก้โรค
ช่วยชาวโลกทั่วไปให้ร่มรื่น
การหุงต้มทั่วไปอาศัยฟืน
กระดานพื้นกระดานฝาค่ามากมาย
พวกโต๊ะเตียงทั้งหลายไม้ทั้งนั้น
ไม้พัวพันธ์กับคนจนสุดท้าย
ใช้ทำโลงได้หามยามเราตาย
คุณของไม้มากมายแท้เหมือนแม่เรา
ถ้าขาดไม้คล้ายขาดแม่คอยแลเหลียว
มันเปล่าเปลี่ยวอ้างว้างอย่างอับเฉา
ไม้เหมือนแม่ป้องกันไฟให้ร่มเงา
ช่วยบรรเทาทุกข์ร้อนให้ผ่อนเย็น
ไม้เหมือนแม่มีแต่ให้กับให้
ช่วยปลอบใจให้กิ่งก้านทั้งหวานขม
ใจไม่สบายดมดอกไม้คลายอารมณ์
ร้อนแดดลมเข้าต้นไม้สบายอุรา
อันป่าไม้คล้ายวิมานตระการจิต
ทุกชีวิตสัตว์ทั้งหลายได้หรรษา
ธรรมชาติมอบให้ได้พึ่งพา
ไม้นานาล้วนมีค่าน่าคำนึง
ผู้ตัดไม้ทำลายป่าหาประโยชน์
เป็นนักโทษอำมหิตคิดไม่ถึง
เป็นผู้ร้ายทำลายชาติขาดคำนึง
คิดไม่ถึงคุณค่าป่าเมืองไทย
11 ธันวาคม 2544 15:50 น.
หิ่งห้อย
โอ้เหนื่อยหนักนักแล้วแก้วตาพี่
ไร้ฤดีแรงดลเกินทนไหว
ระทดทรวงดวงจิตคิดถอดใจ
ทำไฉนไฟส่องไม่ผ่องพา
ก้าวเหยียบย่างทางฝันอันยาวเหยียด
รักโกรธเกลียดเคียดชังประดังหา
ทั้งสุขเศร้าเคล้ากล่นปนน้ำตา
สุดจะฝ่าคว้าไขว่ได้เจียนตาย
อยากจะหยุดฉุดฝันมันเท่านี้
เส้นทางมีทุกข์ทนหม่นแสงฉาย
ไร้ตะวันจันทราดาราราย
ส่องประกายฉายช่วงดวงฤดี
อยากพักผ่อนหย่อนกายคลายเหน็ดเหนื่อย
ริมธารเอื่อยเรื่อยรางหว่างวิถี
เก็บแรงเราเท้าย่างกลางราตรี
เพื่อพรุ่งนี้มีแรงเร้าเข้าระดม