16 ธันวาคม 2544 15:50 น.

สวัสดีปีใหม่ (กลอน)

หิ่งห้อย

เมื่อปีเก่าวันวานพัดผ่านผัน
ก็ถึงวันปีใหม่ใสสุกศรี
เป็นวันเริ่มต้นใหม่ให้ชีวี
เป็นอย่างนี้เนิ่นนานกาลเวลา

ให้สมหวังดังจิตคิดหมายมั่น
ตามจิตฝันอันแกร่งแสวงหา
ให้ไร้ทุกข์ไร้โศกไร้โรคา
ปรารถนาสิ่งใดให้สมปอง

ให้พลังกายใจใสสุกปลั่ง
งามดุจดังเดือนเพ็ญที่เย็นผ่อง
ประกายก่องแสงกล้าฟ้าสีทอง
ไล่ความหมองหม่นหมางให้จางไป

ให้ (มี) ดวงตาทอดสายประกายกล้า
ดั่งดาราวับวาวสกาวใส
แววระยิบวิบวับจับฟ้าไกล
เพื่อจะได้มองเห็นเรื่องเป็นจริง

แม้ว่าวันปีเดือนจะเคลื่อนหมุน
จงทำคุณค่าตนให้คงยิ่ง
จะปีเก่าปีใหม่ในความจริง
ก็คือสิ่งกำหนดของกฏเกณฑ์ (ของกาลเวลา)				
16 ธันวาคม 2544 15:36 น.

สวัสดีปีใหม่ (โคลง)

หิ่งห้อย

สวัสดีปีเก่าพ้น                       ผ่านล่วง
สรรพสิ่งทิ้งทั้งปวง                   อยู่หลัง
ทุกข์เศร้าเคล้าสิ่งลวง               ทิ้งเถิด   ท่านเฮย
ดีจึ่งซึ่งควรตั้ง                        รั้งไว้    ใจงาม

ด้วยคุณรัตนตรัย                    โปรดดล
ให้สบสิ่งมงคล                         สมหวัง
เกียรติ์ยศชื่อเสียงล้น                กึกก้อง  ไกลนา
อีกทั้งภัยพลาดพลั้ง                   อย่าได้   พบพาน

การเรียนพากเพียรไว้               ต่อสู้
สุ  จุ  ปุ  ลิ  ครู                          สั่งสอน
ต่อเติมเพิ่มความรู้                    ควบตริ  ตรองแฮ
บัณฑิตไม่คิดย้อน                    ศิษย์ล้าง  อาจารย์

จง           คิดจงสรรสร้าง            รักชาติ
ทำ           นุรักษาศาสน์            กษัตริย์ไว้
กรรม       กิจการงานสะอาด       ปราชญ์ท่าน  เชยชม
ดี             เด่นเป็นคุณได้          ด้วยรู้  จักดี

ใน           จิตคิดต่อสู้                      ไม่ถอย
วัน            คืนคืบคลานลอย            ลับหาย
ปี              เดือนคงเคลื่อนคลอ้ย      ล่วงแล้ว  เพลา
ใหม่          ครั้งยังบ่สาย                   ก่อร่าง   สร้างตัว ฯ				
15 ธันวาคม 2544 16:33 น.

ด้วยแรงรักแรงหวังกำลังใจ

หิ่งห้อย

ด้วยแรงรักแรงหวังยังสดชื่น
จึงลุกยืนขึ้นก้าวเท้ายังไหว
ด้วยแรงรักแรงหวังกำลังใจ
จึงมุ่งเท้าก้าวไปในเส้นทาง

ด้วยแรงรักแรงหวังยังมีให้
จะใกล้ไกลหัวใจไม่อ้างว้าง
ด้วยแรงรักแรงหวังยังนำทาง
สิ่งกีดขวางอันใดไม่หวั่นเกรง

ด้วยแรงรักแรงหวังยังนำจิต
จะชุบชูกู้ชีวิตคิดรีบเร่ง
ด้วยแรงรักแรงหวังยังบรรเลง
จะครื้นเครงเพลงรักสมัครใจ

ด้วยแรงรักแรงหวังยังเพียบพร้อม
จะไม่ยอมอ่อนแอแพ้ร้องไห้
ด้วยแรงรักแรงหวังดุจดั่งไฟ
จะโหมให้ใจนี้มีพลัง				
15 ธันวาคม 2544 01:26 น.

โรครู้

หิ่งห้อย

อันคนรู้รู้จริงเขานิ่งเงียบ
ไม่ยกเทียบเปรียบใครให้ตนเด่น
สงบเสงี่ยมเจียมใจไม่จำเป็น
ที่จะต้องทำเด่นดวลท้าใคร

อันกลกลอนกานท์กาพย์พอทราบว่า
ดึกดำบรรพ์นานมาท่านว่าไว้
มีหลากหลายแนวคิดผลิตออกไป
สื่อถึงใจให้เห็นประเด็นความ

จึงขอวอนด้วยอักษรก่อนจะสาย
อย่าทำลายด้วยทำเล่นเป็นคำถาม
สุนทรภู่ผู้ประดิษฐ์คิดถ้อยความ
ท่านไม่เห็นวางกล้ามทำเด่นดัง

ที่แต่งถ้อยร้อยสำเนียงเพียงเพราะรัก
เพียงใจภักดิ์ประจักษ์ไปในความหวัง
ปัญญาชนคนไทยหากได้ฟัง
เพียงแค่หวังฟังด้วยช่วยแนะนำ

หาใช่มาท้าดวลควรแล้วหรือ
เพียงฝึกปรือไม่หือให้ใครขำ
เพียงใจรักร้อยเรียงสำเนียงคำ
เป็นลำนำบทกลอนอักษรไทย

หากหวังดีมีใจให้กันหน่อย
ก็ควรคอยแนะนำพร่ำสอนให้
อย่าหยามเหยียดดูแคลนแค้นในใจ
จะหมองไหม้ใจป่นหม่นมลาย

รู้เพื่อหวังเอาชนะกะผู้อื่น
อย่าได้ฝืนผิดหลักจักเสียหาย
รู้แล้วพร่ำสอนตนให้พ้นภัย
ปราชญ์ทั้งหลายเตือนไว้ให้รู้ตัว

รู้อะไรรู้มากมายรู้ไปเถิด
ที่ประเสริฐรู้ใจไม่คิดชั่ว
ยอดความรู้ท่านว่ารู้ที่ตัว
รู้ท่วมหัวยังคิดชั่วโง่อยู่ดี

บ้างเข้าหมู่เพื่ออวดรู้มีอยู่มาก
ใจคิดอยากติเตียนเพื่อนเหมือนบัดสี
เอ่ยโอฐอวดอ้างตนมาว่าข้าดี
บ้างรู้ดีไม่คำนับเข้ากับใคร

โรคความรู้มีอยู่ทุกมุมโลก
มันเป็นโรคร้ายแรงแห่งสมัย
มันดื้อยาดื้อหมอต่อต่อไป
อาจเป็นภัยเพราะโรครู้หนอหมู่ชน				
14 ธันวาคม 2544 22:19 น.

พี่มาทีหลัง

หิ่งห้อย

เพราะพี่มาทีหลังจึงพังเพียบ 
ดอกดินหรือจะเทียบดอกฟ้าได้ 
พี่ต้อยต่ำจึงต้องชอกช้ำใจ 
รักน้องมากแค่ไหนใจ (ยิ่ง) ทรมาน 

เพราะพี่มาทีหลังหวังจึงสิ้น 
โอ้ยุพิน (พี่) แทบสิ้นใจร้าวฉาน 
เจ้ามีคนหมายหมั้นกั้นตั้งนาน 
พี่เหมือนถูกไฟผลาญราญหัวใจ 

รักน้องเพียงข้างเดียวเหมือนเกลียวเชือก 
แต่เจ้ารักเผื่อเลือกหารู้ไม่ 
ดังตาบอดทอดรักจนหมดใจ 
อกหักคือกำไรได้จากทุน 

เพราะพี่มาทีหลังหวังลอยล่อง 
อกกลัดหนองหวังต้องมาดับสูญ 
น่าอนาถพี่ขาดซึ่งผลบุญ 
รักเจ้าไม่เสื่อมสูญบุญน้อยไป				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อย
Lovings  หิ่งห้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อย
Lovings  หิ่งห้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อย
Lovings  หิ่งห้อย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงหิ่งห้อย