23 พฤศจิกายน 2547 12:14 น.

รัก

หิ่งห้อย เพียงดิน

รักร้างห่างไกลรัก..........................ร้อนรุ่มนักหนอรักลวง
รักเราเฝ้าห่วงหวง.........................แต่พุ่มพวงลวงรักเรา
รักเอยเคยฉ่ำหวาน.......................ต้องร้าวรานพาลให้เศร้า
รักเอ๋ยหนอรักเรา..........................ต้องอับเฉาเพราะเขาลวง
รักร้างเพราะนางไกล.....................ดูหรือใจใยไม่ห่วง
รักร้างเพราะนางลวง.....................เจ็บช้ำทรวงดวงฤทัย
รักแรกแปลกใจนัก......................รักดุจจักกลืนกินได้
รักหนอพอนานไป........................แล้วรักใยไม่ยั่งยืน
รักใครให้ชั่งจิต............................พักสักนิดอย่าคิดฝืน
รักช้ำและกล้ำกลืน........................รักขมขื่นหากฝืนใจ
รักเอ๋ยหนอรักร้าง........................กว่าจะสร้างขึ้นมาได้
รักหนอรอรักใคร.........................ที่จริงใจให้รักเรา
รักแท้คือแม่รัก............................ได้ซบตักพักคลายเหงา
รักแท้คือแม่เรา...........................ยามลูกเศร้าเข้าปลอบโยน
รักแท้แม่ยอมได้..........................เพื่อลูกสบายไม่สับสน
รักแท้แม่ยอมทน.........................แม้ยากจนไม่บ่นคำ
รักหนอพ่ออีกหนึ่ง........................สุดซาบซึ้งตรึงจิตหนำ
รักหนอพ่อจึงพร่ำ.........................เอ่ยเป็นคำจำนรรจา
รักหนอพ่อสอนลูก........................สิ่งผิดถูกลูกรู้ว่า
รักหนอพ่อเมตตา.........................พ่ออุตส่าห์พาก้าวไกล
รักแกร่งเพราะแรงพ่อ..................ยามลูกท้อพ่อยื่นให้
รักทั้งกำลังใจ................................ส่งลูกให้ได้เป็นคน
รักหนอพ่อแม่จ๋า...........................ลูกจะฝ่าแม้ห่าฝน
รักหนอขอดั้นด้น..........................แม้อับจนหนทางไป
รักนี้มีแม่พ่อ................................ก็เพียงพอต่อสู้ได้
รักเอยเคยไหมใคร.....................เทียบท่านได้ไม่เห็นมี
รักจริงหนอหญิงใด......................มอบใจให้ได้สุขี
รักอย่างที่ท่านมี...........................คงสุขีและปรีย์เปรม
รักร้าวขอก้าวไป..........................แม้ดวงใจไม่เกษม
รักปริ่มคงอิ่มเอม.........................คงเกษมเข้าสักวัน				
23 พฤศจิกายน 2547 12:01 น.

เหนื่อย

หิ่งห้อย เพียงดิน

โอ้เหนื่อยหนักนักแล้วแก้วตาพี่
ไร้ฤดีแรงดลเกินทนไหว
ระทดทรวงดวงจิตคิดถอดใจ
ทำไฉนไฟส่องไม่ผ่องพา

ก้าวเหยียบย่างทางฝันอันยาวเหยียด
รักโกรธเกลียดเคียดชังประดังหา
ทั้งสุขเศร้าเคล้ากล่นปนน้ำตา
สุดจะฝ่าคว้าไขว่ได้เจียนตาย

อยากจะหยุดฉุดฝันมันเท่านี้
เส้นทางมีทุกข์ทนหม่นแสงฉาย
ไร้ตะวันจันทราดาราราย
ส่องประกายฉายช่วงดวงฤดี

อยากพักผ่อนหย่อนกายคลายเหน็ดเหนื่อย
ริมธารเอื่อยเรื่อยรางหว่างวิถี
เก็บแรงเราเท้าย่างกลางราตรี
เพื่อพรุ่งนี้มีแรงเร้าเข้าระดม				
23 พฤศจิกายน 2547 11:57 น.

รำพึงฝากจากพ่อแม่

หิ่งห้อย เพียงดิน

หรือว่าลืมตำนานม่านฟ้าสาง
หรือว่าลืมหนทางจึงจางหาย
หรือว่าลืมแดนดินถิ่นเกิดกาย
หรือว่าลืมความหมายสายสัมพันธ์

หรือสิ้นแล้วสายใยใต้สำนึก
หรือมัวตรึกนึกถึงซึ่งความฝัน
หรือเจอหลากขวากหนองต้องฝ่าฟัน
หรือไหวหวั่นอันใดไม่ย้อนมา

หรือว่ามัวหลีกเลี่ยงคิดเบี่ยงบ่าย
หรือแหนงหน่ายทรนงในวงศาย์
หรือผูกเหน็บเจ็บแสบแปลบอุรา
หรือเหว่ว้าระอาใจในกมล

หรือว่านึกย้อนรอยแล้วน้อยจิต
หรือชีวิตตกอับคิดสับสน
หรือชีวิตขัดข้องต้องอดทน
หรือเกลือกกล่นกลัดกลุ้มร้อนรุ่มใจ

หรือตกอับทรัพย์จ่ายรายได้น้อย
หรือท้อถอยคอยแต่แค่อาศัย
หรือต่อสู้อยู่ย้ำระกำใจ
หรือปล่อยกายปล่อยใจให้เป็นพาล

หรือปกปิดชีวิตเศร้า..เอาใจสู้
หรือเพียงอยู่อยู่ไปไร้หลักฐาน
หรือหมกมุ่นชีวิตด้วยกิจการ
หรือจุ้นจ้านจับเจ่าเมากามา

หรือวางแผนพัฒนาอนาคต
หรือเก็บกดกัดฟันหมั่นศึกษา
หรือชอกช้ำน้ำใจใยไม่มา
หรือลืมว่าข้านี้มีแม่พ่อ

สิ้นกระแสสื่อสารมานานแล้ว
สิ้นวี่แววแนวคิดการติดต่อ
สิ้นกระแสสายใยกลั้นใจรอ
อกแม่พ่อขอเพียงเห็นก็เป็นสุข

กลับมาบ้านสานใยให้เหนียวแน่น
กลับมาแคว้นแดนเราเร้าปลอบปลุก
กลับมาดูพ่อแม่แก่เป็นทุกข์
กลับมาปลุกความรักรักบ้านเรา				
23 พฤศจิกายน 2547 03:26 น.

มุมมองของแม่

หิ่งห้อย เพียงดิน

ครรภ์มารดาคือที่มาของชีวิต
โรงงานผลิตเส้นเอ็นเป็นแขนขา
อันเนื้อหนังทั้งหลายที่ได้มา
ด้วยบิดามารดาท่านปราณี

โลกแห่งครรภ์มารดาเคยอาศัย
จำได้ไหมในโรงงานสถานที่
เราอาศัยโรงงานนานนับปี
ได้อยู่ดีกินดีที่โรงงาน

อันวงจรการผลิตชีวิตนี้
สารเคมีแม่พ่อก่อพื้นฐาน
ท่านผู้ให้กำเนิดเกิดรูปปราณ
ดวงวิญญาณสิงสู่เป็นผู้คน

อันเลือดเนื้อทั้งหลายได้มานั้น
ท่านแบ่งปันให้มาค่ามากล้น
กว่าจะเห็นเป็นร่างตั้งตัวตน
ท่านอดทนอุ้มท้องประคองกาย

โอ้..พระคุณมารดาผู้กล้าหาญ
ทรมานเสี่ยงภัยไม่หันหาย
ขอให้ลูกในครรภ์นั้นสุขสบาย
แม่ยอมตายแน่แท้แผ่เมตตา

ขอให้ลูกปลอดภัยใจจดจ่อ
แม่เฝ้ารอเช้าเย็นอยากเห็นหน้า
ครั้นเมื่อลูกแม่คลอดรอดออกมา
แม่อาสาเสี้ยมสอนป้อนนมเนย

อันสายตาทั้งสองของคุณแม่
ชำเลืองแลสายเปลเห่ระเหย
แม่เอื้อนเอ่ยเสียงอ้อน นอนเถิดเอย
เอ้อระเหยเอ่ยเพียงเสียงแผ่วเบา

แม่ปวดเมื่อยเหนื่อยกายแต่ใจสุข
เพียงเพื่อลูกสดใสใช่หรือเปล่า
แม่แผ่รักไปให้ไม่หวังเอา
แม่ให้เปล่าเข้าใจไหมให้ตรองดู

แม่ไม่เคยลำเอียงเอ่ยเสียงบ่น
แม่อดทนกัดฟันหมั่นต่อสู้
แม่ให้ความมั่งคั่งเป็นทั้งครู
แม่คือผู้ประเสริฐบังเกิดเรา

ท่านให้เราเราให้ท่านนั้นมีไหม
ท่านผู้ให้ใครดูแลยามแก่เฒ่า 
ท่านยากไร้ใครดูแลแม่ของเรา
ท่านให้เปล่าเราผู้รับกลับหมางเมิน

ท่านให้เราเราให้ท่านนั้นดีแน่
จงเผื่อแผ่เทิดทูนท่านด้วยสรรเสริญ
พระคุณท่านนั้นมากล้นพ้นประเมิน
เพียงสรรเสริญยังไม่ซึ้งถึงพระคุณ				
23 พฤศจิกายน 2547 03:04 น.

คางคกสอนธรรม

หิ่งห้อย เพียงดิน

นั่งริมหนองมองคางคกหมกตัวอยู่
มันแอบดูตัวข้าเวลานี้
มันยิ้มเยาะตัวข้าทำท่าที
ดูมันมีความสุขไม่ทุกข์ใจ

เจ้าคางคกยิ้มเล่นเป็นอาวุธ
หยามมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้
มันยกย่องพวกมันปัญญาดี
ไม่เคยมีปัญหาฆ่ากันตาย

มันไม่ชอบขัดแย้งแบ่งวรรณะ
ไม่เอาชนะขู่เข็ญเห็นแก่ได้
มันติเตียนพวกมนุษย์สุดบรรยาย
มันท้าทายอวดรู้กว่าหมู่คน

มันรู้ธรรมรู้โทษไม่โกรธแค้น
มันสุขแสนสบายใจไม่สับสน
มันกินอิ่มหลับสบายได้เหมือนคน
ไม่ดิ้นรนเดือดร้อนให้อ่อนแรง

มันว่าคนกิเลสหนาปัญญาอ่อน
เห็นเดือดร้อนร้องบ่นทุกหนแห่ง
ผู้ยากจนเรียกร้องว่าของแพง
ผู้ดีแกล้งขึ้นราคาหากำไร

เจ้าคางคกยกปัญหาว่าคนโง่
ชอบทำโชว์เอาหน้าหาเครื่องใช้
อยากได้หน้าจึงเป็นทุกข์ไม่สุขใจ
ของเครื่องใช้หามาไว้เกินจำเป็น

รถเป็นล้านบ้านหลังใหญ่ไม่สิ้นสุด
ยุ่งไม่หยุดพอไม่ได้ใจมันเต้น
มีห้องแอร์อาศัยใจไม่เย็น
ต้องวิ่งเต้นไม่เป็นสุขทุกเวลา

ปัจจัยสี่เพิ่มทวีเป็นสี่ร้อย
สิ่งใช้สอยมากมายอยากได้หน้า
ต้องวุ่นวายขวยขวายให้ได้มา
สร้างปัญหาไม่เว้นเห็นแก่ตัว

เจ้าคางคกยกตนหยามคนยับ
ยืนสดับข้างตอพอเห็นหัว
มันว่าคนชอบเล่นเห็นแก่ตัว
ชอบทำชั่วทุกอย่างต่างพวกมัน

ชาติคางคกทั้งหลายไม่โลภหลง
ต่างประสงค์ส่งเสริมเพิ่มสุขสันต์
สามัคคีปรองดองพี่น้องกัน
ไม่กีดกันแก่งแย่งแข่งกันรวย

ไม่เคยทุกข์เพราะจนบ่นอยากได้
ไม่เคยจ่ายซื้อหามาเสริมสวย
ไม่เคยใช้วาจาว่าข้ารวย
แม้ยามป่วยไม่เคยขอหมอฉีดยา

ไม่เคยทุกข์เพราะรักหักใจได้
คิดถึงตายใจสลดลดตัณหา
ไม่เคยทุกข์เพราะชังหลั่งน้ำตา
ไม่เคยบ้าบนบานศาลพระภูมิ

พูดจบพลางทำท่าโดดเคลื่อนที่
เบือนหน้าหนีมุ่งตรงลงก้นหลุม
โดดจากฝั่งหันหลังเสียงดังตูม
นั่นคือภูมิลำเนาของเขาเอง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อย เพียงดิน
Lovings  หิ่งห้อย เพียงดิน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อย เพียงดิน
Lovings  หิ่งห้อย เพียงดิน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหิ่งห้อย เพียงดิน
Lovings  หิ่งห้อย เพียงดิน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงหิ่งห้อย เพียงดิน