25 กันยายน 2548 22:35 น.
หัวใจพี่ณรงค์
รั้งมานาน....เกินพอ
ขอเลยขอ...ครั้งสุดท้าย
สุดหนทาง..หมดปัญญา..บีบคลาย
เพราะวิธีมากมาย..ก็ดึงเธอไม่ได้สักทาง
งั้นก็ไป...ตามใจ
ถึงรักมากเท่าไหร่..คงปล่อยวาง
ทนอยู่แล้วเตรียมพร้อมยอมอ้างว้าง
ให้มันจบที่ปลายทาง
รวมถึงความรู้สึกหลายๆอย่าง
...ให้จบลง...
25 กันยายน 2548 22:31 น.
หัวใจพี่ณรงค์
ที่สุดของเราก็เท่านี้
เห็นมีเพียงกายกับจิตสถิตอยู่
จิตเป็นนายคอยกำกับการรับรู้
ผ่านตาหูจมูกลิ้นและผิวกาย
ความรู้สึกสวย-ทรามยามตาเห็น
หอมหรือเหม็นกระทบถูกจมูกหมาย
เพราะ ไม่เห็นสัมผัสหูมิรู้คลาย
ลิ้นน้ำลายรับรสโอชโอชา
กายกระทบเย็นร้อนอ่อนหรือแข็ง
ล้วนปรุงแต่งจากจิตคิดสรรหา
เป็นรักโลภโกรธหลงล้วนมายา
จิตจึงพาเวียนว่ายในบ่วงมาร
ให้หลงไหลในรูปรสกลิ่นเสียง
คิดว่าเที่ยงลวงให้เห็นเป็นแก่นสาร
ชอบก็เสาะแสวงไว้ครองให้นาน
ชังก็ต้านผลักไสไม่อยากชิด
จะดับเหตุแห่งทุกข์หรือสุขสิ้น
ต้องดับถิ่นกำเนิดเกิดจากจิต
มิให้ฟุ้งปรุงแต่งเป็นแรงพิษ
คุมความคิดความเห็นไว้เป็นกลาง
เมื่อจิตนิ่งผ่องใสใจสงบ
ก็จะพบความสะอาด ความว่าง
ทุกสิ่งสรรพพลันกระทบก็ปล่อยวาง
เหมือนน้ำค้างกลิ้งหล่นบนใบบัว
จะทำจิตอิสระประภัสสร
ละนิวรณ์ละกามละความชั่ว
ต้องคุมจิตเอาไว้ภายในตัว
อย่าเผลอมัวหลงใหลในอบาย
หมั่นคุมจิตเอาไว้ให้รวมศูนย์
เพียรเพิ่มพูนสติมั่นสำคัญหมาย
เจริญศีล สมาธิ มิให้คลาย
ดวงปัญญาก็จะฉายแววเรืองรอง
จนเกิดเป็นปัญญาจ้ากระจ่าง
จะพบทางสัจธรรมชี้นำส่อง
ดับความมืดอวิชชาที่คร่าครอง
ความถูกต้องนำจิตสู่ทิศทาง
จิตจะละความโลภความโกรธหลง
จะปลดปลงทุกข์สุขสิ้นทุกอย่าง
ดับกิเลสดับเชื้อที่เจือจาง
สู่ความว่างเป็นทิพย์สู่นิพพาน
25 กันยายน 2548 22:29 น.
หัวใจพี่ณรงค์
กล่าวถึงเมืองเรืองนามเขตคามนั่น
คือวิหารเชตวัน-สาวัตถี
ร้อยยี่สิบโยชน์ห่างจากฝั่งนที
ซึ่งเป็นที่ประทับของพระศาสดา
ทุกเช้ามืดพระองค์ทรงพระจริยวัตร
ทรงตรวจดูเวไนยสัตว์ในโลกหล้า
หากสัตว์ใดเข้าข่ายพระญาณมา
พระพุทธองค์ทรงเมตตาพาพบชัย
ราตรีนั้นพระเจ้ากัปปินะพร้อมบริวาร
เข้าข้องข่ายพระญาณพระองค์ไซร้
พระพุทธองค์ทรงรู้แจ้งแห่งเวไนย
ว่าจักได้บรรลุถึงซึ่ง...อรหันต์
พระดำริควรออกไปต้อนรับ
เมื่อเสด็จถึงจึ่งประทับ ณ ไพรสัณฑ์
ใต้ต้นนิโครธใกล้ฝั่งแม่น้ำนั้น
ทรงแผ่พระรัศมีวิลาวัณย์อันอำไพ
-------------------------------------------
ครั้นพระราชาเสด็จมาถึงยังที่
ทอดพระเนตรเห็นรัศมีสว่างไสว
ทรงดำริว่าแสงนี้มิใช่ใคร
แน่นอนไซร้คือแสงแห่ง...พระศาสดา
จึ่งเสด็จลงจากหลังม้านั่น
เหล่าอำมาตย์ทั้งพันทำตามหนา
จากนั้นเดินตามหลังพระราชา
เข้าเฝ้าองค์พระศาสดาตามต้องการ
เมื่อพระราชาถวายบังคมแล้ว
ทรงประทับนั่งแถวหน้าสถาน
ซึ่งเป็นที่อันควรพร้อมบริวาร
พระพุทธเจ้าโปรดประทานพระวาจา
-------------------------------------------
พระพุทธองค์ทรงตรัสตามวาระ
ด้วยธรรมะ...อนุปุพพิกถา...
คือไล่ลำดับจากขั้นต่ำเรื่อยขึ้นมา
เพราะปัญญาแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ครั้นพระองค์ทรงจบพระเทศนา
พระราชาและอำมาตย์เกษมสันต์
บรรลุถึงซึ่งพระโสดาบัน
พร้อมกันนั้นทูลขอบวชในทันที
---------------------------------------
.....เอหิภิกขุอุปสัมปทา.....
พระศาสดาทรงพระญาณสานวิถี
ทรงทราบว่าบาตรจีวรในที่นี้
ได้มาจากกรรมดีที่ทำไว้
ดั่งนั้นแล้วทรงเหยียดพระหัตถ์ขวา
ทรงตรัสว่ามาเถิดเป็นภิกษุไซร้
จงประพฤติพรหมจรรย์ทุกวันไป
เพื่อจักได้สิ้นสุดแห่ง...เวทนา
บริขารแปดพึงได้แก่ภิกษุนั้น
หากเปรียบกันคล้ายเถระหลายพรรษา
ภิกษุเหล่านั้นเหาะสู่ท้องนภา
กลับลงมาถวายบังคมพระพุทธองค์๚
25 กันยายน 2548 22:25 น.
หัวใจพี่ณรงค์
รัก..หรือหลง คงต้องแทรก แยกให้ออก
รัก..กลับกลอก หลอกลวง ปวงผู้หญิง
รัก..ปอกลอก ไอ้หอกหัก รักไม่จริง
รัก..แล้วทิ้ง ยิงมันเลย เขยเฮงซวย
รัก..ตาบอด ลอดหน้าต่าง อย่างขุนแผน-
รัก..เป็นแฟน ไม่ได้หนอ พ่อเล่นหวย
รัก..ขุนช้าง อาจได้ล้าน งานร่ำรวย
รัก..กันด้วย ความใสซื่อ คือสิ่งดี
รัก..นานๆ มันก็ดี สตรีชอบ
รัก..แล้วหอบ กอบความสุข จุกแน่ๆ
รัก..กับใคร่ ให้แบ่งหนอ อย่าตอแย
รัก..ของแม่ สำคัญกว่า อย่าหลงกล
รัก..แล้วรบ ตบตี ไม่ดีนะ
รัก..แล้วละ ร่วมเตียง เสี่ยงเผาขน
รัก..ของเพื่อน เตือนเอาไว้ ไม่อับจน
รัก..ของคน ช่างสับสน วกวนเวียน
แอบรักชาย หมายข้างเดียว เกี่ยวก้อยปล่าว
เป็นมะนาว ไม่มีรส หมดศักดิ์ศรี
เกิดเป็นหญิง หยิ่งเข้าไว้ ไม่เสียที
อย่าชกตี ชกลม ตรมอุรา
อันผู้ชาย กายปลาไหล ไม่ต้องคบ
ชายพูดปด จดเอาไว้ ไม่อาสา
ชายพนัน รั้นขวดเหล้า เมาสุรา
อย่านำมา เป็นสามี หนีให้ไกล
จะรักใคร ให้ตรวจสอบ รอบคอบไว้
อันผู้ชาย หลายล้านเกวียน เสี้ยนทั้งนั้น
ใช้เวลา ศึกษาใจ ให้รู้ทัน
อย่าตะบั้น ใฝ่หา มันน่ากลัว
มันก็ดี หากมีคู่ อยู่เคียงข้าง
ลดรอยด่าง หัวใจ หายสลัว
หากกงจักร ลักเข้าไป ใส่ในตัว
จิตดอกบัว คงชอกช้ำ ระกำใจ
อย่า..เพ้อเจ้อ ได้มั้ย ไอจะบอก
อย่า..ได้ตอก ลอกปัญหา น่าปวดหมอง
อย่า..แอบรัก นักเจ้าชู้ กูไม่มอง
อย่า..แอบย่อง ล่องไปหา น่าอับอาย
อย่า..ลิ้มลอง ความรัก ที่สับปด
อย่า..ได้ลด ศักดิ์ศรี นารีขาย
อย่า..มัวเมา ยกย่อง ผองผู้ชาย
อย่า..ทำลาย กายหมองเศร้า เขาไม่แล
ขออีหยัง ขอสมหวัง ขอสุขสม
น้องหน้ามล คนดี ที่หอมหวล
จะขอใจ ชายหลายใจ เดี๋ยวได้ครวญ
ถ้าขอ ชวน หลีกภัย เอาไปเลย
อย่าไปหมก ไปมุ่น ลุ้นความรัก
รู้จักหัก จักห้าม บ้างเธอเอ๋ย
ชายอย่างนี้ หลีกให้ห่าง นะทรามเชย
คบกระเทย ดีกว่านะ สะบายจาย
15 กันยายน 2548 16:16 น.
หัวใจพี่ณรงค์
ทางที่ยังทอดไกลสู่ปลายฟ้างาม
อยากถามว่าเธอจะไปกับฉันหรือเปล่า
บนทางฝันเปลี่ยวเหงา
บางคราวฉันหวั่นไหว
จะไปกับฉันได้ไหม...เพื่อนเอย
เหนื่อยในใจอ่อนล้ามานานเหลือเกิน
ดุ่มเดินโดยลำพังบนทางมืดมน
หากวันนี้โชคดี อาจมีใครสักคน
ก่อกองไฟให้หัวใจอุ่น
ก็สุดแต่ทางฝัน ของใครจะเป็นเช่นไร
สุดแต่ใจของใครจะไขว่คว้าเอา
ชีวิตนี้ยังเยาว์
หากวันใดเปลี่ยวเหงา ฝังใจในความเศร้า
มาเถิดไป...กับฉัน
จะคอยเป็นดวงดาวในยามค่ำคืน
จะเป็นฟืนคอยเติมไฟให้เธอ
จะเป็นฝนฉ่ำชื่น
จะคอยยืนเคียงข้างเธอ
หากว่าวันนั้นเธอ...ร้าวราน