26 สิงหาคม 2555 17:52 น.
หอมดอกลำดวน
ร้อยอาลัยรำลึกคุณสุนทร
อันขจรขจายวิสุทธิวิเศษไพศาล
ลำนำกวีค่าแท้มากล้นพ้นประมาณ
คือ "ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์" มิ่งมงคล
รังสรรค์ศิลปศาสตร์ไสวประดิษฐ์
นิรมิตคุณค่าเป็นประจักษ์ทุกแห่งหน
จิตรกรรมงามตาสู่สากล
มากล้นงานวรรณศิลป์สืบยั่งยืน
"ปณิธานกวี" วิจิตรบรรเจิด
ประเสริฐมิ่งขวัญหล้าทุกภพผืน
แจ่มแจ้งเป็นปณิธานชัดทุกหยัดยืน
หวังชนตื่นตาเกื้อเอื้อสรรพชีวัน
ท่านเป็นมิ่งเป็นขวัญหล้าฟ้ามหาสมุทร
ประดุจมาประดับภพให้สว่างสร้างสรรค์
ขอท่านลุสู่โลกวิมุกติวิโมกข์นิรันดร์
ตามปรารถนาอันตั้งมั่นใจ
ข้าน้อยผู้ขอตามรอยสุนทรท่าน
สืบสานวรรณกรรมให้สว่างไสว
สนองตอบแทนรักสุดฤทัย
รำลึกในเอกกวีศรีแผ่นดิน
30 กันยายน 2554 10:10 น.
หอมดอกลำดวน
ในวันนั้น
เป็นวันที่โลกปรากฏความสดใส
สรรพสิ่งรอบข้างต่างเปลี่ยนไป
ผืนฟ้าใหม่เข้ามาเผยท่าที
ล้วนแต่ภาพงดงามความเป็นอยู่
ยิ่งนึกดูยิ่งประจักษ์เป็นสักขี
หนึ่งชีวิตหยุดลงกลางพงพี
หนึ่งมณีสุกสว่างอยู่กลางใจ
เห็นดอกไม้เบ่งบานตระการทุ่ง
มีเคียวรุ้งบรรจบภพแจ่มใส
สายลมอุ่นพัดมาในคราใด
ก็ขับไล่หมอกหม่นให้พ้นทาง
ละอองเกสรกระจายไปทั่วถิ่น
ผีเสื้อบินเสาะหามาแนบข้าง
เหล่าต้นกล้าแตกกิ่งทิ้งใบบาง
ก่อนจะสร้างนิคมอันสมบูรณ์
หลากธาราหลั่งไหลไม่สิ้นช่วง
พฤกษาปวงเติบใหญ่ไม่สิ้นสูญ
น้ำใจของวารีที่เกื้อกูล
จะเพิ่มพูนคุณค่าให้ตราตรึง
งามที่เอ่ยภาพพจน์ทั้งหมดสิ้น
ใช่เยือนถิ่นหฤทัยที่ใฝ่ถึง
เพียงภาพงามชุ่มฉ่ำแห่งคำนึง
แลลึกซึ้งเยื่อใยสายสัมพันธ์
วันนั้นหรือคือวันอันสดชื่น
ความรมย์รื่นทุกอย่างได้สร้างสรรค์
เพียบพร้อมความสุนทรีย์มีอนันต์
เพราะรักฉันก่อตัวเต็มหัวใจ
31 มีนาคม 2552 13:49 น.
หอมดอกลำดวน
จันทร์ฉายประกายแสง
จรัสแจ้งกลางฟ้าไกล
อีกพื้นนภาลัย
ยังแสนเด่นด้วยแสนดาว
สั่งสมความรมย์รื่น
ตราบค่ำคืนยังยืนยาว
รอยเจ็บจากเหน็บหนาว
ก็แพ้พ่ายก็หน่ายหนี
จักจั่นพลันลุกตื่น
ระเริงรื่นรับราตรี
ทีท่าบ่งท่าที
คอยขับขานคำคมคาย
หรีดหริ่งระงมร้อง
แซ่เสียงซ้องส่งทักทาย
ไม้ดอกเล่าออกลาย
ระบัดช่อลออรวง
กลกลีบจะบีบกลิ่น
โปรยประทิ่นประดับปวง
หอมห้อมดั่งอ้อมสรวง
และหอมให้หทัยหา
ลมโบกสะบัดลำ
ไล่บอบช้ำจนลับลา
ชีวีแช่มชีวา
รึจะว่าเพราะลมวน
หญ้าทำระบำใบ
ระริกไหวยั่วให้ยล
เผ่าพฤกษ์ผลิตผล
เติบโตต้นอยู่เต็มตา
แตกกอแล้วต่อกิ่ง
ไม่หยุดนิ่งในเวลา
โยงใยสายใยมา
พลอยนำพาชีพสุขสันต์
เนื่องในวิสัยนี้
สร้างโสภีสืบไพรวัน
บ่มซับซึ่งสัมพันธ์
อันเหนียวแน่นอยู่เนิ่นนาน
ชื่นฉ่ำกับธรรมชาติ
ทุกบทบาทล้วนเบิกบาน
อบอุ่นอ้อมอกธาร
เสน่หาเจ้าการุญ
ผืนป่าสร้างผืนป่า
อันสูงค่าและทรงคุณ
หลากชีพต่างเกื้อหนุน
ต่างมวลเนื้ออณูเดียว
พงพีที่ปกปัก
ดลจิตรักทุกส่วนเสี้ยว
จริงแท้แน่แท้เชียว
รักสุดหล้าขอบฟ้าใด
จันทร์ฉายประกายแสง
จรัสแจ้งอยู่กลางใจ
ครรลองที่ครรไล
ไสวทางสว่างทา.
..............................
22 มิถุนายน 2551 00:55 น.
หอมดอกลำดวน
-เดี๋ยวมา
3 พฤศจิกายน 2550 22:17 น.
หอมดอกลำดวน
เมื่อยามรัตติกาลนั้นผ่านคล้อย
ลำดับสร้อยแสงแรกก็แทรกสู่
ผืนพนาฟ้าดินทั้งสินธู
ให้รับรู้รสหวานซ่านทรวงแล้ว
น้ำค้างหมอกหยอกเอินกับเนินหญ้า
ไอแดดทาริ้วทองทุกถิ่นแถว
รายระลอกลมเหลื่อมกระเพื่อมแวว
ปลาบประกายเกล็ดแก้วกำจรไกล
รังสีทอง
เจ้าเรืองรองระยิบระย้าไหว
ปลุกโลกตื่นพร้อมหวังทุกครั้งไป
เคยเหน็ดเหนื่อยหรือไม่ช่วยไขที
น้ำค้างเอย
เจ้านั้นเคยท้อใจบ้างไหมนี่
ชื่นเชยช่วงเสน่หาแห่งมาลี
เพียงรวีขยับก็ลับเลือน
เจ้านกน้อย
ประชันถ้อยทำนองทั่วท้องเถื่อน
เตรียมกระพือปีกร่อนจากรังเรือน
จะคลาเคลื่อนออกไปทำไมกัน
แล้วใครเล่า
ยังมัวเฝ้าแต่เพ้อละเมอฝัน
อิงอารมณ์แช่มชื่นกับคืนจันทร์
ตื่นอีกทีนี่มันสิ้นวันแล้ว