23 ตุลาคม 2550 20:39 น.
หวานใจปลายปากกา
ฉากสุดท้ายใกล้เข้ามาไม่ช้านี้
คงไม่มีสิ่งใดทันจะสรรหา
ถ้อยคำใดไหนเล่าเฝ้าพรรณา
ร้อยคำลาแทนค่าความอาวรณ์
อยากจะกอดออดน้องอ้อนก่อนแรมร้าง
ใกล้ฟ้าสางอกยังอุ่นหนุนแทนหมอน
"รัก" คำท้ายยังฝังใจไม่คลายคลอน
ฝากไว้ก่อนคืนร้างก่อนห่างไกล
แต่อย่างไรก็ขอให้ได้รู้ว่า
ที่ผ่านมาพี่แคร์มากแค่ไหน
ถ้อยคำรักฝากกันสัญญาใจ
นานเท่าไหร่ให้รอรับพี่กลับมา
16 ตุลาคม 2550 12:40 น.
หวานใจปลายปากกา
เปรียบดวงเทียน ดังเช่น เมื่อเริ่มรัก
จุดไฝปัก เรืองรอง ส่องสว่าง
สีเหลืองนวล แสงสีทอง ส่องนำทาง
ชีวาวาง ชื่นจิต คิดถึงกัน
เมื่อเริ่มรัก เทียนจัก ยังรุ่งโจน์
ลืมทุกข์โกรธ โทษทั้งหลาย ใจคอยฝัน
ความหอมหวาน คิดว่านาน ผ่านคืนวัน
แต่ฉัยพลัน วันเทียนดับ ลับจากใจ
น้ำตาเทียน ไหลย้อย เป็นรอยด่าง
น้ำตาความ อ้างว้าง พรางรินไหล
พร้อมกับวัน เทียนดับ ลับจากไป
พร้อมดวงใจ แห่งสองเรา เผามอดลง . . . . . .
13 ตุลาคม 2550 13:06 น.
หวานใจปลายปากกา
ตั้งแต่เราไม่เคยรักสมัครมั่น
ยามใกลักันแค่พบหน้าพูดปราศรัย
ครั้นเมื่อเห็น เมื่อรู้ ได้ดูใจ
เนิ่นนานไปกลับมีจิตคิดผูกพัน
คนรักแท้แต่อยู่ไกลไร้โอกาส
ก็มิอาจได้อยู่คู่เคียงขวัญ
มิได้คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
ความรักนั้นจึงแห้งโหยค่อยโรยรา
คนอยู่ห่างถึง รักแท้ แพ้ใกล้ชิด
มีแต่จิตคิดถึงคนึงหา
คนอยู่ใกล้ได้เห็นความเป็นมา
คนห่างตาห่างตัวเศร้าหัวใจ
เมื่อห่างตัวห่างตาพาใจห่าง
จะเสริมสร้างสัมพันธ์กันแบบไหน
อีกนานหน่อยคงจืดจางราร้างไป
เพราะคนใกล้อยู่เฝ้าคอยเคล้าคลอ
เมื่อใกล้กันพลันสร้างหนทางรัก
ต่างประจักษ์ทอจิตสานติดต่อ
คนอยู่ไกลได้แต่แค่เฝ้ารอ
เมื่อไหร่หนอจะได้พบประสบกัน . . . . . .
11 ตุลาคม 2550 16:01 น.
หวานใจปลายปากกา
หมอกสีขาว โรยสาย ปลายรางน้ำ
ตะวันร่ำ สอดแสง แย่งปลายฟ้า
วันนี้เช้า จำพราก จำจากลา
ทิ้งท้องนา ผองเพื่อน ดวงเดือนจันทร์
หอมจาง จาง ทางถิ่น กลิ่นดอกไม้
ยามที่ไกล คงได้ชื่น แค่คืนฝัน
ลูกหมาน้อย คอยเห่าปลุก อยู่ทุกวัน
เช้านี้ฉัน คงต้องห่าง แรมร้างรัง
วาดนิ้วเขียน ลงลาย ปลายขอบฟ้า
หมึกน้ำตา ต่างใจ ค่อยไหลหลั่ง
มองแม่พ่อ คงเดียวดาย คล้ายลำพัง
กอดอีกครั้ง แทนทบทวน หวนอุ่นไอ
โอบน้องรัก อาลัย ดวงใจพี่
อุปสรรคมี ต้องยิ้มสู้ น้องรู้ไหม
เรายังจน คงต้องห่าง ร้างกันไป
อย่าร้องไห้ เด็กดี ของพี่ชาย
ตั้งใจเรียน หมั่นฝึกฝน อย่าบ่นท้อ
สิ่งพี่ขอ อย่านอนรื่น จนตื่นสาย
เรื่องผู้หญิง อย่าพันธะ มาประปราย
ฟังตายาย แม่พ่อ ให้พอดี
หักใจเดิน ลงบันได ไหล่แบกเป้
ทั้งไขว้เขว ตาเลือน เลือน เหมือนบอดสี
ก้าวขึ้นรถ หยดน้ำตา ก็มาที
ลาหมื่นลี้ สุดดินแดน แสนเศร้าใจ
8 ตุลาคม 2550 21:43 น.
หวานใจปลายปากกา
คงไม่ขอ พูดอะไร มากมายนัก
เพราะคำ "รัก" เพียงลมปาก ยากยึดถือ
หากไม่ไหว เพียงประคอง ด้วยสองมือ
ก็หมดสื่อ สารส่ง ให้ลงเอย
คงไม่เอ่ย อ้อนอาลัย ไปกว่านี้
วันแสนดี เก็บในใจ ไว้เฉย - เฉย
แยกทางกัน วันวาน ให้ผ่านเลย
สิ่งเก่าเคย เชยชื่น มอบคืนกัน
และหากวัน หนึ่งใด ใจเริ่มท้อ
ก็เพียงขอ ยืมหน้า มาเข้าฝัน
กล่อมเพลงเพราะ เสนาะหู เคียงคู่จันทร์
ปีเดือนวัน ล่วงเข้า เศร้าคงคลาย
ให้ความพ่าย เตือนตรอง ความหมองหม่น
ให้ความจน ย้ำใจรุด สู่จุดหมาย
ให้ความเจ็บ ความช้ำ ที่กล้ำกลาย
มาละลาย ปรับใจทุกข์ ให้ลุกยืน
จากความช้ำ ระกำทรวง ที่หน่วงหนัก
จากความรัก ที่ทุกข์เข็ญ กลายเป็นอื่น
จากชีวิต ที่แสนจน ทนกล้ำกลืน
จากความขื่น สู่ความฝัน ก่อนฉันมา
สู่อ้อมอก ฟู้ตั้น( Fudan ) ผันชีวิต
หมายลิขิต ป.ตรี ให้มีค่า
ถึงลำบาก จะทนฝืน กลืนน้ำตา
คว้าวันหน้า ที่สดใส มาหมายมอง