19 พฤษภาคม 2549 15:41 น.
หลักไม้เลื้อย
เมื่อปีพุทธศักราช 2527 ได้ไปแข่งขันกีฬาที่กรุงเทพฯ ได้รู้จักเพื่อนมากมาย
จากไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อยู่กันคนละภาคของประเทศไทย แต่ความเป็นมิตรภาพก็สามารถสร้างกันได้อย่างรวดเร็ว ในสนามเราอาจเป็นคู่ต่อสู้ที่หวังจะเอาแต่ชนะ แต่เมื่อนอกสนามเราคือมิตรภาพที่เหนียวแน่น เราไม่พูดถึงเรื่องการแข่งขัน เราคือเพื่อน พี่และน้อง ที่เกริ่นมาทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวกับบุคคลที่จะพูดถึงเลย ขอเริ่มเรื่องของผู้ชายคนนี้ก็แล้วกัน เขาเป็นคนสตูล รู้จักกันได้อย่างงัยเหรอ ก็เราเป็นนักกีฬายอดเยี่ยมระดับภาค ก็เลยได้ลงในหนังสือโฟกัสออน
เขาก็เลยเขียนจดหมายติดต่อมาตลอด ส่งรูปมาให้ดูมั่ง ส่งรูปภาพของสตูลมาให้ดูมั่ง รูปทะเลมั่ง แต่ก็ติดต่อกันมาเรื่อย ๆ โดยทางจดหมาย คุยถูกคอกันดี (จดหมาย) พูดหยิกแกมหยอก "ตาลอยากมาเที่ยวใต้มั๊ย" "อยากไปแต่ไม่มีโอกาสหรอกจะไปแข่งกีฬาก็ไม่เคยไปใต้สักทีความฝันเชียวนะนั้นภาคใต้น่ะ"
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เก็บจดหมายเขาไว้เป็นปี๊บขนมปังอันใหญ่กองยังกับจะจับฉลากชิงโชค ถ้าสะสมแสตมป์ตอนนั้นคงได้เยอะน่าดู เพราะไม่ใช่มีเขาคนเดียวที่มีความรู้สึกที่ดีให้กับเรา มีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ หรือวัยเดียวกัน น่าปลื้มมั๋ยหล่ะ ที่มีคนมาชื่นชมเยอะแยะขนาดนั้น เฮ่อ! คิดแล้วอยากกลับไปในเวลานั้นอีกจังเลย
ชีวิตผ่านวัยเยาว์มาเรื่อยๆ ก็ยังได้รับ ส.ค.ส. ทุกปี แต่จดหมายกลับน้อยลงๆ ก็ไม่ว่าหรอกเพราะชีวิตคนเรามีสิ่งเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ไม่ว่าด้านใดก็ตาม แต่ความทรงจำที่ผ่านมากับเรื่องฝังใจมันก็ยังคงฝังใจอยู่อย่างนั้น ถามว่า น้อยใจไหม ก็คงตอบว่า ไม่นะ มันไม่ใช่ความรัก มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากกว่า ที่มีใครคนหนึ่งให้ความรู้สึกที่ดีกับเรามาตลอดและทุกวันนี้ก็ยังมีเหมือนเดิม แต่อาจจะไม่เท่าเดิมเท่านั้นเอง ยังได้รับ ส.ค.ส. ทุกปีเหมือนเดิม ที่ประทับใจก็คือ เขาเก็บภาพเราไปทำเป็นกรอบรูปนาฬิกาแล้วส่งมาให้ และเขียนที่หน้ากรอบรูปว่า "เมื่อครั้งยังเยาว์วัย (ก็ชื่อเรื่องนี่แหล่ะ) อยากบอกเขานะว่า "ยังคิดถึงอยู่เสมอนะไม่เคยลืมกับ ความรู้สึกที่พี่มีให้มาตลอดจะเก็บในความทรงจำไปจนตาย"
เด็กน้อยเมื่อยังเยาว์วัยคนนี้ ก็ยังเก็บสิ่งดี ดี ที่มีพี่มีให้ไว้เสมอและจะตลอดไป สำหรับพี่ชายที่แสนดีมาตลอด