8 กันยายน 2551 14:48 น.
หยาดเพชร...มณีพลอย
บัวงามชูดอกออกบานไสว
ดอกโยนโอนเอนไปในสายน้ำ
กบเขียดร้องดังพี่เจ้าเฝ้าเอ่ยคำ
ดุจเอื้อนอำคำรักสุดจำนรร
ดวงตะวันชิงพลบหลบลาฟ้า
ทั่วสุธามืดลับดับสีสัน
วัวควายถูกต้อนกลับบ้านผ่านแสงจันทร์
เหลือเพียงฉันนั่งรำพึงอยู่เดียวดาย
นั่งพิงหลังเอนกายชายตลิ่ง
เพลงอ้อยอิ่งลอยจากทุ่งด้านท้าย
จิตระทึกนึกหวั่นกับเสียงชาย
ช่างไม่อายร้องเพลงออดอ้อนเรา
สำเนียงหวานร้องเพลงมาคราฟ้าหม่น
เหมือนอ้อนใครสักคนให้หลงเขา
ฝากเพลงมาหอมแก้มเราเบาเบา
เท่านี้เราก็ไหวหวั่นสะท้านอาย
ลมระโรยโชยแก้มแกมรังแก
แกล้งกันแท้รังแกไม่ห่างหาย
คืนนี้เราสุดเหงาทั้งใจกาย
อยากบอกรักผู้ชายเจ้าของเพลง
5 กันยายน 2551 09:33 น.
หยาดเพชร...มณีพลอย
เธอคือเงาที่หายไปในคืนมืด
ร่างของเธอนั่งอยู่กลางถนน
มองดูแล้วน่ากลัวพิลึกคน
ชะรอยเธอเป็นคนหรือเป็นใคร
เห็นเธอนั่งทางสามแพร่งก็แจ้งจิต
แม่มิ่งมิตรเป็นเป็นวิญญานใช่หรือไม่
ตำรวจมาแม่คุณวิ่งเร็วไว
เดี๋ยวถูกจับคดีไพ่จะเสียที
ทั้งเงินทองกองไพ่ไว้นั่นก่อน
แม่เนื้ออ่อนรีบวิ่งหนีเร็วรี่
ขืนเธอช้าอยู่ตะรางขังหลายปี
เร็วเข้าซีแม่คุณวิ่งเร็วไว
เลิกมั่วสุมการพนันกันเสียเถิด
ไม่ต้องวิ่งเตลิดหนีไปไหน
เอาเงินทองมาใช้หมดเปลืองไป
สู้เก็บไว้ใช้สอยดีกว่าเธอ
5 กันยายน 2551 09:19 น.
หยาดเพชร...มณีพลอย
กี่เดือนแล้วที่สองเรายังคงมั่น
ร่วมผูกพันสัญญาไม่ลาหาย
กี่ครั้งคราวเราบอกรักมิแคลนคลาย
ภาพความหลังยังเรียงรายไม่เลือนลา
ยังเป็นคนดีของเธออยู่หรือเปล่า
ยามเธอเหงาอยากไปเยี่ยมอยากไปหา
ฉันพาเธอมาลำบากกายา
หลายเวลาห่วงงานลืมแคร์ใจ
เคยสัญญาคราปลงใจร่วมทางฝัน
สิ่งสำคัญหลายข้ออเคยฝันใฝ่
ความหวานค่อยทยอยหล่นหายไป
หรือเพราะเธอเปลี่ยนใจไปจากกัน
รู้สึกไหมเราเผลอใจร้อนบ่อย
พลาดผิดหน่อยโมโหทำหุนหัน
คุยเรื่องงานจนลืมวันสำคัญ
อีกกี่วันจะบอกรักอีกสักครา
หวั่นเธอเหนื่อยกับงานพาลหงุดหงิด
หวั่นเธอคิดทิ้งฉันให้เหว่ว้า
ไม่ว่าฉันต้องเจ็บช้ำมีน้ำตา
จะขอร่วมชีวาไม่ห่างไกล
วันวานเหมือนวันนี้ไหมฉันไม่รู้
จะหดหู่เริงร่าสักแค่ไหน
ขอมีเธออยู่ในห้วงหทัย
ไม่ว่าเป็นวันไหนก็เหมือนกัน
รอยรักในอดีตคิดสรรค์สร้าง
ขออย่าร้างลาไปใจแปรผัน
อยากให้รักเหมือนเดิมทุกคืนวัน
ไม่ว่ารักเราพ้นผ่านกี่เดือนปี
1 กันยายน 2551 13:48 น.
หยาดเพชร...มณีพลอย
พระพุทธองค์ตรัสไว้มีบัวสี่เหล่า
จากคนเขลาจนถึงคนเลิศเลอค่า
บางคนเป็นดังบงกชพ้นธารา
แต่บางคนแม้ฝูงปลายังไม่มอง
หลงในความเง่าโง่มัวเมาผิด
หลงระเริงไล่ฆ่าคนทั้งผอง
มิมองเห็นแสงธรรมอันเรืองรอง
เห็นภาพความสยองเป็นความงาม
ไม่รู้บาปรู้บุญรู้คุณโทษ
มีแต่ความเหี้ยมโหดให้คนหยาม
มีแต่ความสามาณย์ต่ำเลวทราม
คอยเหยียดหยามคนต่ำกว่าอยู่ร่ำไป
มีรู้ว่าตนผิดคิดว่าดี
คิดว่ามีค่าเลิศกว่าใครไหน
แท้จริงแล้วเธอจะรู้อะไร
ก็แค่ซากบัวไว้ให้ปลากิน