18 กุมภาพันธ์ 2551 11:52 น.
หยาดเพชร...มณีพลอย
เคยระกำช้ำรักหนักดวงจิต
เธอเลือกให้ชีวิตใหม่กับฉัน
เคยเสียใจร้องให้ไม่เว้นวัน
เธอยังอยู่เคียงข้างกันยามอ่อนแอ
เป็นดังแสงตะวันยามอ่อนล้า
คอยปลอบซับน้ำตาคราพ่ายแพ้
เหนื่อยและท้อมีเธอคอยดูแล
แม้ในยามพ่ายแพ้ไม่เห็นใคร
จะหาใครมีน้ำใจเท่าคนนี้
ยามทนท้อไม่หลบลี้ไม่ไปไหน
อยู่เคียงข้างยามความทุกข์รุมล้อมใจ
บอกจากใจใช่แน่คนที่รอ
เธอเป็นเหมือนเพื่อนใจในวันเหงา
ให้ลืมความโศกเศร้าระทมท้อ
แค่มีเธอข้างใจก็เกินพอ
เจ็บและท้อมีเธอเป็นแรงใจ
8 กุมภาพันธ์ 2551 10:26 น.
หยาดเพชร...มณีพลอย
เหมือนความหวังพังลงที่ตรงหน้า
โชคชะตาเหมือนแกล้งกันให้ขวัญหาย
สิ่งที่หวังที่ฝันพลันมลาย
สู้แทบตายเหตุใดต้องพ่ายพัง
นับเวลาจากวันวานถึงวันนี้
สิบกว่าปีเวลาของความหวัง
ทุกนาทีทนสู้แม้ถูกชัง
แต่ความหวังพังสลายไปกับกาล
หนักแค่ไหนสู้ไปไม่บ่นว่า
แต่ผลนั้นออกมาน่าสงสาร
หยาดน้ำตารินหลั่งดั่งสายธาร
เจ็บลึกถึงดวงมาลย์แต่ทนทำ
เพียงคำหวานสักคำไม้เคยได้
มีแค่คำร้าย-ร้ายกรีดใจช้ำ
ต้องถูกด่าว่ากล่าวอยู่ประจำ
ทุกถ้อยคำต้องกล้ำกลืนฝืนใจฟัง
ขอสักคนเพียงหนึ่งคนรับฟังฉัน
เติมพลังให้ความฝันฉันมีหวัง
ให้ชีวิตได้ต่อสู้ไม่พ่ายพัง
ใครสักคนเป็นความหวังให้สู้ไป
6 กุมภาพันธ์ 2551 09:51 น.
หยาดเพชร...มณีพลอย
ยามนิทราหลับไปไม่อยากตื่น
ไม่อยากฟื้นลืมตาจากความฝัน
ฝันว่ามีเธออยู่เคียงข้างกัน
ในความฝันเธอโอบกอดไว้เคียงกาย
อ้ออมกอดเธออบอุ่นสุดแสนหวาน
นานแสนนานมิอยากจากลาหาย
คำสัญญาจะรักกันจนวันตาย
ลมหายใจมลายมิสิ้นรัก
เปรียบเธอเป็นชีวิตจิตใจฉัน
เคียงคู่กันด้วยใจที่แน่นหนัก
คำสัญญาบอกไปด้วยใจภักดิ์
รักเธอนักรักหมดใจไม่เปลี่ยนไป
แต่เธอเป็นดวงใจในความฝัน
เพราะรักเธอตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
เก็บเธอไว้จนเอ่อล้นพ้นดวงใจ
แม้บรรลัยมิเปลี่ยนใจไปจากกัน
จนยามเช้าไก่ขันพลันสะดุ้ง
ใจหมายมุ่งคิดถึงแต่ความฝัน
โลกความจริงรู้ดีไม่มีวัน
เพราะเขานั้นคั่กลางระหว่างเรา
โลกความจริงโดดเดี่ยวเปลี่ยวเวิ้งว้าง
ทุกเส้นทางมีเพียงความเงียบเหงา
แต่สุขล้นแม้มองได้แค่เพียงเงา
คำรักเราคงบอกได้เพียงในฝัน
1 กุมภาพันธ์ 2551 11:11 น.
หยาดเพชร...มณีพลอย
ร้อยอักษรเป็นกานต์กลอนสุนทรสาร
เล่านิทานชีวิตคนช่างฝัน
บางคราวทุกข์สุขเศร้าเคล้าปนกัน
ดุจตำนานล่าฝันแห่งกวี
บอกดวงใจไม่หวั่นไหวแม้กายท้อ
ลุกขึ้นยืนสู้ต่อไม่หน่ายหนี
แม้จะล้มลุกบ้างในบางที
ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหนต้องทนไป
ยืนเดียวดายบนถนนคนช่างฝัน
จันทร์เจ้าเอ๋ยรู้ใจข้าบ้างไหม
ดังเศษฟางต้องลมพันผ่านมาไกล
ต้องเดียวดายถึงไหนไม่รู้เลย
1 กุมภาพันธ์ 2551 11:05 น.
หยาดเพชร...มณีพลอย
17/07/51
นิราลัยไกลบ้านยามตีห้า
นั่งรถมาแสนไกลใต้ลมหนาว
เย็นหมอกห่มพรมน้ำค้างกลางแสงดาว
สายลมหนาวพัดพรมห่มดวงใจ
จากมาไกลด้วยดวงใจและใฝ่ฝัน
ด้วยศรัทธามุ่งมั่นไม่หวั่นไหว
สอบภาษาอังกฤษไม่กลัวใคร
แต่ทำไมกลับแพ้พ่ายเหตุใดกัน
18/01/51
ชาติทหารรักชาติและศาสตร์ศรี
ชาติกวีรักบทกลอนแลความฝัน
ในวันนี้ต้องดีกว่าในวานวัน
ขอทุกสิ่งเป็นดังฝันไม่ผันพัง
แต่งกลอนจบใจจดจ่อรอฟังผล
ขอฟ้าจงบันดาลดลให้สมหวัง
เพื่อเติมแรงชีวิตมีพลัง
ขอทุกอย่างสมหวังดังตั้งใจ
สี่โมงเย็นผ่านไปผลไม่ออก
เขาจะบอกผลแต่งกลอนในวันไหน
ในพรุ่งนี้ปีหน้าหรือว่าไร
คอยนานไปผลไม่ออกเลยสักที
ห้าโมงเย็นเห็นต้องรีบกลับบ้าน
เพราะว่านานเกินไปแล้วเหลือที่
มาขึ้นรถนึกหวั่นไหวอยู่เต็มที
ผลออกมาไม่ดีทำอย่างไร
นั่งเบียดเสียดกลับบ้านผ่านลมหนาว
น้ำค้างกราวหมอกพรมลมพลิ้วไหว
เบียดเสียดกันเกือบไม่ได้หายใจ
ทางแสนไกลต้องทนไปในราตรี
21/01/51
ริ้วตะวันส่องทิวาคราวันใหม่
รู้ด้วยใจจะทราบผลในวันนี้
ครูประกาศหน้าเสาธงแสนยินดี
สุดเปรมปรีด์เรานี้ได้เหรียญเงิน
ทุ่มเทไปเท่าไรไม่เคยว่า
กรรมการตัดสินข้าแต่ผิวเผิน
แต่ผลแข่งน่าดีใจเสียเหลือเกิน
เพียงเหรียญเงินก็ภูมิใจหาใดปาน