27 เมษายน 2549 22:54 น.
หยาดอรุณ
ใบไม้ใบหนึ่ง
เคยพึ่งกิ่งก้าน
ปลิดร่วงบนลาน
ปลิวร่อนตามลม
ถวิลทางไป
หลุดขั้วลมห่ม
น้ำค้างพร่างพรม
ดินถมทลาย
สละเพื่ออะไร
ค้นหาความหมาย
ใบไม้เรียงราย
สลายพลีตน
ต้นไม้ใหญ่กว้าง
สละทางสร้างผล
หรือใบสลายตน
เพื่อต้นสร้างใบ.
27 เมษายน 2549 16:24 น.
หยาดอรุณ
ฉันเฝ้ามองใบไม้
ที่กวักไกวเรียกสายลม
น้ำค้างพร่างประพรม
ฝนโปรยชมชุ่มชื่นใจ
ใบอ่อนแทงก้านออก
เหมือนบ่งบอกการเกิดใหม่
ชีวิตยามเยาว์วัย
มีหัวใจไว้เบิกบาน
ค่อยเติบตามเวลา
รู้คุณค่าสายลมผ่าน
ตะวันเล่าตำนาน
รับซึ้งหวานน้ำค้างพรม
เข้มเขียวเกี่ยวพันรัก
เติมต้นหลักเต็มไม้ร่ม
ต้านฝนทนแดดลม
รับสั่งสมประสบการณ์
เวลามาผ่านเลย
ค่อยผลิเผยแต้มน้ำตาล
ใบไม้เขียวเคยหวาน
กลับซมซานมาร่วงโรย
ปลิดใบใต้ร่มเกิด
แล้วระเหิดแห้งระโหย
สลายใบปลิวโชย
เป็นปุ๋ยโปรยอาหารดิน
สละเพื่อก่อเกิด
ใบใหม่เปิดรับหยาดริน
เพลงลมพรมพร่างพิณ
ผลิใบกล้าท้าชีวิต
วัฎจักรจักเวียนหมุน
ธรรมชาติสร้างประดิษฐ์
เกินกว่าสมองคิด
เหนือความหมายลมหายใจ
ฉันมองปรากฏการณ์
เบิกนิทานเล่าขานไข
วงจรของใบไม้
เกิด - สลายความหมายมี.
25 เมษายน 2549 08:09 น.
หยาดอรุณ
รักที่มีกายใกล้
กับหัวใจที่ใฝ่หา
เป็นรักต้องมนตรา
ขวนขวายคว้าความผูกพัน
หัวใจหรือไรเล่า
ที่กายเฝ้าคำนึงฝัน
แค่คล้องเกี่ยวกายกัน
สืบตำนานสานรักแท้
ด้วยกายหมายใกล้ชิด
ผูกมัดติดคิดดูแล
เยียวยาคราเจ็บแผล
เห่กล่อมเอยเคยรับฟัง
รักคือวางใจไว้
หรือใส่ใจให้ความหวัง
ระแวงฤๅระวัง
เฝ้าตรวจสอบระบอบการ
ฤๅมีที่ช่องว่าง
ระยะห่างระหว่างวาร
เสรีที่รักหวาน
จักซึ้งซ่านเมื่อรักตรึง
ผูกพันฤๅผูกมัด
อ้อมกอดรัดหรือกรงกรึง
เกณฑ์กรอบครอบหวงหึง
หรือผ่อนคลายในนิยาม
รักเอยประสานค่า
ใจกายมาเชื่อมงดงาม
หนึ่งเดียวโยงโมงยาม
ไร้คำถามไร้ครอบครอง
รักที่มีกายใกล้
คล้องดวงใจได้สมปอง
รวมหนึ่งจากกายสอง
เชื่อมใจคล้องสมานเกลียว.
อ่านเรื่อง "ความรักของไซคี" ได้ที่นี่ค่ะ : )
http://web.rmut.ac.th/larts/Classroom%20%20Online/Psychology/_notes/Psychy.html
22 เมษายน 2549 09:38 น.
หยาดอรุณ
ฉันเคยไถ่ถาม
ความงามความรัก
อยากรู้จักนัก
ใครว่าหวานซึ้ง
บางคนเร่าร้อน
ศรรักปักตรึง
บางคนหวงหึง
ดื้อดึงทุรัง
บางคนเพ้อครวญ
รัญจวนมุ่งหวัง
พลาดท่าชิงชัง
แค้นคลั่งรักร้าว
ฤๅคือสิ่งหวาน
ซึ้งซ่านพร่างพราว
คลายเจ็บเหน็บหนาว
เคียงข้างเคียงใจ
รักคือความหวัง
รับฟังเป็นไป
เสรีวางไว้
ให้พบตัวตน
ฉันเคยไถ่ถาม
ท่ามความสับสน
หากมีสักคน
ห่วงใยคงดี.
...............................................................................
เทพบุตรแห่งความรัก (คิวปิด) (จากหนังสือ เทวโลก เขียนโดย พลูหลวง)
บุตรของวีนัสคือ คิวปิด เทวดาเด็กเล็กๆ ผู้ถือศรกับลูกศร เพราะเธอเป็นเทพยดาแห่งการก่อให้เกิดความรัก เธอจึงซุกซนเที่ยวเอาศรรักปักอุราชายหญิงจำนวนมากมายให้ตกอยู่ในห้วงความรักทันที
คิวปิดแม้จะเป็นเทวดาเด็กเล็กๆ แต่ต่อมาก็เติบโตเป็นหนุ่ม (หรืออาจจะอีกภาคหนึ่งเป็นหนุ่มก็ได้) หลงรักนางมนุษย์ซึ่งมีนามว่า ไซคี นางไซคีนั้นเป็นพระธิดาองค์หนึ่งในจำนวนสามองค์ของพระราชาองค์หนึ่ง แต่ความงามของนางนั้นล้ำเลิศลือกันไปทั่วพิภพว่า แม้เทพธิดาวีนัสก็ยังเป็นรอง ทำให้วิหารของนางวีนัสว่างเปล่า ไม่มีใครไปนบไหว้บูชา ผู้คนต่างยกย่องไซคีว่าเป็นผู้ที่มีความงามเหนือกว่าวีนัสเสียแล้ว เทพธิดาวีนัสจึงใช้ให้บุตรชายของพระองค์คือ คิวปิดหรือกามเทพให้แผลงศรรักใส่นางไซคี เพื่อให้ไปหลงรักสัตว์โลกที่น่าเกลียดที่สุด
แต่คิวปิด ก่อนจะปฏิบัติตามคำสั่งของเทพมารดา จำต้องขอดูตัวนางไซคีเสียก่อน วีนัสได้จัดการให้เขาได้พบกับนางไซคีตามความประสงค์ คิวปิดเมื่อได้ยลโฉมสะคราญของนางไซคีเข้าก็เกิดรักนางไซคีขึ้นทันที เขาจึงยิงศรเข้าที่หัวใจของตนเอง
(โปรดติดตามตอนต่อไป ... ความรักของไซคี)
21 เมษายน 2549 00:06 น.
หยาดอรุณ
กล่อมเกลากาลเวลา
กลืนรอยค่าคุณความดี
แก้วกรวดอวดสดสี
กลมกลึงทั่วไม่มัวมน
ด้วยน้ำย้ำซึมลึก
กร่อนแผลสึกให้หายหม่น
ร้าวรอยค่อยคลายวน
ประสานวาวงามพราวพลอย
สะท้อนแดดอ่อนอุ่น
กลบลายขุ่นให้หายรอย
น้ำซ่านกระเซ็นผล็อย
กระทบกรวดเผยลวดลาย
กล่อมเกลาเงาลึกล้ำ
น้ำใสผ่านสร้างความหมาย
ผลิงามลบขุ่นพราย
หลอมใจสวยด้วยเวลา
ทุกกรวดย่อมต่างลาย
แต่ย่อมคล้ายในคุณค่า
หากชัดในศรัทธา
เธอย่อมกล้าให้น้ำเกลา
กลมกลึงกาลเวลา
น้ำซัดมากล้ากร่อนเขลา
สะท้อนฉายแววเงา
กรวดงามค่าศรัทธาครอง.