13 ตุลาคม 2548 14:46 น.
หยกสีหม่น
ฉันล้มตัวลงนอนบนพื้นทราย
นกทะเลเริงร่ายปลายขอบฟ้า
เจ้าโผผินกลับฝั่งจากรังมา
ให้หวนหาความอบอุ่นที่คุ้นเคย
ณ สุดหล้าฟ้ารอบขอบฝั่งนั่น
คงมีฝันรอเจ้าเล่าเฉลย
เส้นสายใยสานผูกพันอันงอกเงย
สายลมพัดรำเพยพริ้วแผ่วพรม
ร้อยรวงรังฝังรากจากความรัก
อ้อมกอดปีกปกปักษ์พิทักษ์ห่ม
เหน็ดเหนื่อยล้าจากแดนไกลให้ซานซม
อภิรมย์ชมชื่นคืนรังนอน
แล้วตัวฉันจะกลับไปที่ใดเล่า
มีเพียงเงาเหงาเศร้าคอยเฝ้าหลอน
อวลอบอุ่นที่คุ้นเคยเลยจากจร
ยากจะกล่าวคำอ้อนขอวอนคืน
ฉันลุกจากผืนทรายที่รายล้อม
ยิ้มเพื่อย้อมดวงหทัยให้จำฝืน
แม้นเดียวดายอยู่ลำพังหากยังยืน
สู้กล้ำกลืนคืนเหงาที่เร้ารุม
เดินกลับสู่รวงรังเพื่อฝังร่าง
ก้าวเข้าอยู่ท่ามกลางมรสุม
ความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเปล่าเข้าครอบคลุม
พร้อมก้อนกลุ่มเมฆหมอกที่หมองมัว
6 กันยายน 2548 11:48 น.
หยกสีหม่น
มุ่งมั่นสร้างสิ่งหมายในชีวิต
ด้วยดวงจิตแน่วแน่มิแพ้พ่าย
ความใฝ่ฝันเพริศแพร้วพรรณราย
ต้องมีวันกลับกลายให้เป็นจริง
อุปสรรคหนักหนาที่มาเยือน
เป็นเสมือนสมอซ้ำให้ดำดิ่ง
กดดันทับถมนอนจมนิ่ง
หวังให้เราละทิ้งสิ่งตั้งใจ
ด้วยสัญชาตินักสู้ผู้บุกบั่น
มิหวาดหวั่นพรั่นพรึงต่อหน้าไหน
หาญกล้าองอาจคว้าธงชัย
ก้าวต่อไปข้างหน้าหาขลาดกลัว
แม้ร่างกายทรุดโทรมยามโหมหัก
เหน็ดเหนื่อยนักฟ้ามืดหม่นสลัว
มองทางไหนให้เห็นแต่หมองมัว
สุดท้ายแล้วมันจะชั่วหรือจะดี
แต่หัวใจมิไหวหวั่นยังมั่นคง
มิทำให้ไหลหลงพะวงหนี
สิ่งยั่วยุมุมานะระราคี
ความฝันนี้ .. สักวัน .. มันต้องจริง ..
เคยสงสัยในสิ่งที่ใครบางคนทำ .. มาตลอดชีวิต ..
ว่า .. ทำเพื่ออะไร? .. แต่ไม่เคยได้รับคำอธิบาย ..
.. แม้เฝ้าถามไถ่สักแค่ไหน ..
จนวันนี้ .. วันที่หัวใจหาญกล้าดวงเดิม ..
แม้จะอยู่ในร่างกายทรุดโทรมเหนื่อยล้ายิ่งนัก ..
หัวใจดวงเดิมดวงนั้น .. ยังมั่นคงในสิ่งที่เคยทำ ..
จุดมุ่งหมายไม่เคยเปลี่ยน .. เข็มทิศไม่เคยเบน ..
เขายังคงพุ่งสายตาไปข้างหน้า .. ล็อคหางเสือ .. ลุย ..
เสือไม่ทิ้งลาย ..
แม้จะชราภาพเป็นไปตามสังขาร .. หากแต่มันก็เป็นเสือ ..
และแม้จะอยู่ปลายแถว .. หากแต่เลือดเนื้อในตัว .. มันคือเลือดเสือ ..
เมื่อพ่อเป็นเสือ .. จะให้ลูกเป็นหมาได้อย่างไร ..
เราจะ .. ลุย .. ด้วยกัน ..
หากชีวิตนี้จะไม่มีอะไรดี ..
ขอให้รู้ไว้เถิด .. ภูมิใจเสมอที่เกิดมาเป็นลูกเสือ ..
ด้วยศรัทธาในดวงใจดวงนั้น ..
27 กรกฎาคม 2548 01:40 น.
หยกสีหม่น
สายน้ำไหลไปไม่รู้ฝั่งฟาก
คนเราเดินจากจุดหนึ่งไปถึงไหน
ปล่อยกระแสธารชีวิตลอยล่องไป
ได้แต่หวังสิ่งฝันใฝ่จะเป็นจริง ..
เปรียบใบไม้ปลิดปลิวตามสายลม
จนร่วงหล่นทับถมลงนอนนิ่ง
ใต้ร่มไม้หญ้าสูงซุกแอบอิง
กลายเป็นสิ่งสูญสลายในบัดดล ..
เหล่ามัจฉาว่ายทวนกระแสน้ำ
อาศัยความพยายามจนเกิดผล
วางไข่ขยายพันธุ์เพิ่มกองพล
ด้วยอดทนฟันฝ่าแรงต้านทาน ..
เปรียบอุปสรรคหนักหนาล้าแค่ไหน
กำลังใจก้าวไปให้พ้นผ่าน
เกิดมาเพียงหนึ่งชาติใช่ช้านาน
คู่ควรคำเรียกขาน .. ความเป็นคน ..
ก่อนชีวิตดับดิ้นสิ้นชาตินี้ ..
คนอย่างเรา .. หวังจะสร้างสิ่งหนึ่งซึ่งสมดั่งใจหมาย ..
แต่หากปล่อยกระแสธารแห่งชีวิตลอยล่องไปเพียงวัน ..
ด้วยมิอยากทนทานต่ออุปสรรคแรงกดดัน ..
ชีวิตก็คงไหลวนไปตามยถากรรม .. อย่างไม่รู้จะจบลง ณ ตรงไหน ..
ก่อนจะชีวิตดับดิ้นสิ้นชาตินี้ ..
คนอย่างเรา .. หวังจะสร้างสิ่งหนึ่งซึ่งสมดังใจหมาย ..
จะไม่ยอมปล่อยให้ชีวิตไหลตามกระแสธาร ..
จะยอมอดทนต้านทานอุปสรรคและแรงกดดันทั้งปวง ..
เพื่อวันสุดท้ายแห่งชีวิต .. จักภูมิใจที่ได้เกิดมาคู่ควรค่า ..
.. ความเป็นคน ..
14 มิถุนายน 2548 23:54 น.
หยกสีหม่น
สู้มุ่งมั่นบากบั่นสู่จุดหมาย
สุดยอดปลายภูสูงโค้งรุ้งพาด
อันตรายสักเพียงไหนมิหวั่นหวาด
ให้แคล้วคลาดด้วยพลังความตั้งใจ
แต่ละก้าวที่เท้าเดินดั่งเหินเหาะ
รอยยิ้มเยาะยั่วเย้าเคล้าฝันใฝ่
ข้าคือผู้พิชิตจากถิ่นไกล
หนึ่งสมองสองมือไขว่ให้จดจำ
จุดสูงสุดบนนั้นมันต้องถึง
เพื่อตราตรึงฝังหทัยใช่เพียงพร่ำ
ข้านี้แน่ด้วยหัวใจใช่น้ำคำ
เหนื่อยแค่ไหนแม้นกลืนกล้ำทำให้จริง ..
ในที่สุดความภูมิใจของการเป็นผู้พิชิตได้หายไปจากความรู้สึก ..
เมื่อมองเห็นว่าสองข้างทางเดินนั้น ..
มีเรื่องราวมากมายให้ได้เรียนรู้ .. ให้ได้ทำความรู้จัก ..
ถึงได้เข้าใจว่า .. แท้จริงแล้วสาระสำคัญของธรรมชาตินั้น ..
มิได้อยู่ที่ปลายทาง .. หากแต่อยู่ระหว่างทาง ..
ยอดดอยสอดสูงเสียดฟ้า
ยอดหญ้ายังสูงเสียดกว่า
สอนมนุษย์ให้รู้ดูว่า
เหนือฟ้ามีฟ้ากว่ากัน
2 มิถุนายน 2548 01:28 น.
หยกสีหม่น
ความเปลี่ยนแปลงเป็นสัจธรรม
จะมีใครอาจหาญย่ำอยู่กับที่
กระแสน้ำลำธารหานนที
ยังไหลรี่ผ่านเลยเคยรอใคร
ความเปลี่ยนแปลงคือนิจนิรันดร์
ก้าวเข้ามาล่วงผ่านผันจากกันได้
พบแล้วพรากจากจนเศร้าเข้าออกใคร
เคยมาใกล้แล้วลาลับกลับทุกข์ทน
ความเปลี่ยนแปลงเป็นจริงสิ่งที่เกิด
ยอมรับเถิดว่าโลกนั้นมันสับสน
มนุษย์ที่เกิดมาทุกผู้คน
จะรวยจนชีวิตมีพลิกแพลง
หากยังขืนฝืนตนไม่พ้นเจ็บ
มันจะเหน็บเข้าเนื้อให้เหนื่อยแหนง
ล่ารุกล้ำชีวิตจนสำแดง
ความเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร์ที่มั่นคง