6 เมษายน 2548 22:08 น.
หยกสีหม่น
ขุดดินด้วยเสียมเตรียมเอาไว้
หยิบหัวใจวางลง ณ ก้นหลุม
กอบโกยดินถมทับเพื่อปกคลุม
ปักป้ายหลุม...ชื่อ ..ศพของหัวใจ...
ท่องนะโมนำไปสักสามจบ
เพื่อเจ้าพบหนทางสว่างใส
จงไปแล้วไปลับไปให้ไกล
หลงเหลือไว้เพียงซากจากความจำ
ช่อดอกไม้สีขาวพราวพิสุทธิ์
ขอจงหยุดโศกาลัยไร้ความช้ำ
หมดเสียทีเจ็บร้าวคราวกลืนกล้ำ
เคยตอกย้ำย่ำเจ้าให้เศร้าตรม
จงสู่สุคติ ...
เจ้าอย่าริมีรักให้ปักขม
เกิดชาติหน้าขอให้ไร้ซึ่งระทม
อยู่ในตมจมปลักเพราะรักลวง...
3 เมษายน 2548 15:40 น.
หยกสีหม่น
กลีบบางซ้อนซ่อนรักปักเกสร
กลิ่นกำจรกำจายฟุ้งจรุงฝัน
ดอกสีขาวราวฝ้ายแย้มพรายพรรณ
ยิ่งนับวันยิ่งฝันใฝ่ได้ดมดอม
มะลิเอยมะลิซ้อนซ่อนใดไว้
ดวงหทัยแอบลุ่มหลงดงกลิ่นหอม
แค่ได้ชิดเคียงใกล้ใจข้าฯ ยอม
จะถนอมเจ้าไว้ไม่สร่างซา
เจ้าซ่อนรักซ้อนกลมนต์ดำหรือ
เสียงเล่าลือขานกล่าวข้าฯ เฝ้าหา
อยากติดตามถามข่าวเจ้าทุกครา
ในอุราตกหลุมรักให้ปักใจ
เจ้ามะลิซ้อน...เจ้าเอย ...
โปรดจงเผยวาจาข้าฯ ฝันใฝ่
อยากได้ยินเสียงเพรียกเรียกจากใจ
เจ้ามีใครครอบครองจองดวงมาลย์
1 เมษายน 2548 23:51 น.
หยกสีหม่น
ชวนเอ๋ย ... เจ้าชวนชม
กลีบระบมระทมช้ำ
เจ้าถูกใครยีย่ำ
ดอกงามขำย้ำเคยงาม
ชวนเอ๋ย ... เคยชูช่อ
ลิ่วลมล้อใต้ฟ้าคราม
เจ้าถูกใครเหยียดหยาม
คร่าคุกคามเจ้าทรามวัย
ชวนเอ๋ย ... เคยสดชื่น
ต้องขมขื่นฝีนสดใส
ถูกริดรอนก้านใบ
แล้วผลักไสไว้บนดิน
ชวนเอ๋ย ... เคยชวนชม
ลิ้มรสขมจนแหว่งวิ่น
ทุกข์จับทับชีวิน
ระรวยรินสิ้นชวนชม...
1 เมษายน 2548 14:08 น.
หยกสีหม่น
... เมาชีวิต ...
ฉันเดินลำพังบนหนทาง...
ทุกก้าวย่างว่างเปล่าราวเพ้อฝัน
บนถนนชีวิตคิดฝ่าฟัน
กี่นานวันจะถึงซึ่งบั้นปลาย
แสงทองส่องสว่างกระจ่างหล้า
เคยตกต้องพสุธามาเลือนหาย
ให้เหม่อลอยคอยเก้อละเมอดาย
เปล่าเปลี่ยวกายอ้างว้างกลางทางเดิน
ดวงหทัยมัวหมองยามมองฟ้า
ภาวนาอย่ากลั่นแกล้งตัดแรงเหิน
ด้วยอ่อนด้อยน้อยกำลังเสียเหลือเกิน
อย่ามองเมินหันหลังไม่ฟังกัน
แสงเจ้าเอย...
ที่เจ้าเคยส่องหล้ามาปลอบขวัญ
ให้มองเห็นเส้นทางแห่งชีวัน
เหตุใดกันเจ้าจึงดับพาอับปาง
หรือตัวฉันยังมัวเมาชีวิต?
พาให้จิตหม่นหมองต้องรอยหมาง
เมาชีวิต...เมารัก...ชักหลงทาง
แสงเลือนลางแห่งความหวังพลันดับลง ...
หยกสีหม่น
เมษายน 2548
... เหมือนเรือ เร่ร่อน ลอยอยู่ในท้องทะเล
ไม่มีวันเหหัน ไปเทียบท่า
ที่มุ่งที่หมาย ห่างหายลับตา
ดั่งสกุณา ที่พลัดรวงรัง ...
คุณทมยันตี
30 มีนาคม 2548 19:57 น.
หยกสีหม่น
ลอมฟาง
ลอมเอ๋ยลอมฟาง
ตะคุ่มกองอ้างว้างกลางหุบเขา
ยามค่ำหม่นแสงมัวสลัวเงา
ดั่งคนนั่งกอดเข่าเฝ้าแผ่นดิน
ถึงเป็นแค่ลอมฟางร้างเม็ดข้าว
มอบรวงพราวให้เขาจ้วงเกี่ยวรวงสิ้น
ก็ยังเหลือฟางไว้ให้ควายกิน
เพื่อมีแรงพลิกถิ่นแผ่นดินเอยฯ
พิบูลย์ศักดิ์ ละครพล
กันยายน 2529
คน
คนเอ๋ยคนเรา
จะโง่เขลาฉลาดเลิศประเสริฐศรี
จะดีงามเลวร้ายปลายธุลี
มากศักดิ์ศรีล้นคุณค่าจักหาไหน
ก็แค่คอมีหยักสักเป็นคน
จะเสกฝนสร้างเมฆฤาไฉน
จะปลุกปั้นสรรค์สร้างประการใด
เพื่อผู้อื่น..เพื่อให้..หาไหนฤา?
แม้ลอมฟางร้างรวงโดนควงเคียว
ให้เขาเกี่ยวเก็บข้าวเอาเปล่าหรือ?
ท้ายสุดทิ้งฟางไว้เพื่อปรนปรือ
ให้กระบือสร้างข้าวเพื่อชาวโลก...
หยกสีหม่น
มีนาคม 2548