22 พฤษภาคม 2547 12:03 น.

Lovely มาเฟีย 2

หมูก้อย

ก๊อกๆๆ เป็นเสียงเคาะประตูที่เร็วที่สุด ตามมาด้วยเสียงเปิดและปิดประตูดังสนั่น! 
ข่าวด่วน จ๊ะพี่ พร้อมกันนั้นร่างของอายะกะก็พุ่งพรวดมานั่งบนเตียงยูเอะ 
เอ้า นี่จะพังห้องพี่รึไง ยูเอะกล่าวอย่างเอ็นดูกึ่งตำหนิ 
เมื่อเธอหันมาจึงเห็นอายะกะ ยิ้มอย่างมีเลสนัย ยูเอะมีความหวังขึ้นมาทันทีว่าข่าวที่อายะกะนำมาจะเกี่ยวข้องกับเขา! 
หลังจากวันนั้นเธอก็พยายามสืบข่าวของเขามาตลอดแต่ไม่มีความคืบหน้าเลย จึงได้แต่ฝากเจ้าของร้านที่เกิดเรื่องให้ช่วยสืบถ้าเขามาอีก แต่เป็นเดือนแล้วที่เขาไม่ไปร้านนั้น ที่สำคัญจากคำบอกเล่าของคนในร้าน เขาเองก็ไม่ใช่ลูกค้าประจำ จะมาอีกรึเปล่าก็ไม่รู้ 
ว่าแต่มีข่าวอะไรมาบอกพี่ล่ะ ยูเอะถาม 
มีข่าวที่พี่ต้องการที่สุด อายะกะกล่าว 
คำตอบของอายะกะทำให้ยูเอะตาเป็นประกายขึ้นมาทันที 
แต่ต้องมีของแลกเปลี่ยน อายะกะทำหน้าเจ้าเล่ห์จนเห็นได้ชัด 
ยูเอะต้องถอนใจในความเจ้าเล่ห์ของน้องสาว 
จะให้พี่ทำอะไรให้ล่ะจ๊ะ ยูเอะลากเสียงประชด 
อายะกะกลอกตาทำท่าคิดหนักแล้วบอกว่า 
ถือว่าติดไว้ก่อน ต้องการเมื่อไรแล้วจะบอก 
ก็ได้ แต่หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องพิเรนท์นักหลอกนะ ยูเอะกล่าว 
อายะกะไม่ตอบ นั่นแสดงว่าเธอไม่รับปาก ยูเอะได้แต่ถอนใจ 
เอาเป็นว่าพี่รับปากแล้ว ห้ามบิดพลิ้ว อายะกะมัดมือชก 
พี่ยัง.. 
งั้นไม่บอก อายะกะไม่ปล่อยให้ยูเอะปฏิเสธ 
ก็ได้พี่รับปาก ยูเอะกล่าวอย่างเอือมระอา 
 วันนี้หนูเจอกับเจ้าของร้าน เขาบอกว่านายคนนั้นชื่อ เซนจิ เป็นมือซ้ายของคาเครุที่เป็นมาเฟียใหญ่ของอีกเมือง 
ยูเอะทั้งดีใจที่ได้ข่าวเขา และเริ่มกังวลในสิ่งที่รับรู้เกี่ยวกับฐานะของเขา 
หนูว่าถ้าจะสืบต่อก็คงไม่ยากแล้วล่ะ อายะกะกล่าวต่อ 
พี่อยากรู้เรื่องของคาเครุให้ละเอียด ยูเอะกล่าวเคร่งเครียด 
อายะกะยิ้มแล้วกล่าวว่า 
แสดงว่าพี่ยังไม่ถูกรักบังตาจน 

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 
ชินโด คาเครุ 

บิดา - 
มารดา - 
อายุ ประมาณ 50 ปี 
รูปร่าง ผอมสันทัดสูงประมาณ 175 ซ.ม. 
สีผิว ขาว 
สีผม ดอกเลา 
สีตา น้ำตาล 
ที่อยู่ประจำ - 
อาวุธ - 
นิสัย ไม่ข้องเกี่ยวกับใคร 
จุดเด่น ไม่เคยมีคำว่าพลาด 
จุดด้อย - 
สถานภาพ พ่อม่าย เคยมีภรรยาชื่อ วากาบะ มีน่า แต่ตายไปแล้วมีบุตร 1 คน ชื่อ ชินโด ฟูมะ กับบุตรบุญธรรม 1 คนชื่อ อาอิโอ เซนจิ ไม่ข้องเกี่ยวกับโลกภายนอกมานาน 
ฐานะ เป็นใหญ่ในเมือง B 


ชินโด ฟูมะ 
บิดา ชินโด คาเครุ 
มารดา วากาบะ มีน่า 
อายุ 18 ปี 
รูปร่าง สันทัดสูงประมาณ 180 ซ.ม. 
สีผิว ขาว 
สีผม น้ำตาลเข้ม 
สีตา น้ำตาลอ่อน 
ที่อยู่ประจำ คฤหาสน์ชินโด ถ. B 6 ในเมือง B 
อาวุธ - 
นิสัย ค่อนข้างร่าเริง 
จุดเด่น ไม่เคยมีคำว่าพลาด ด้วยลักษณะที่แสดงออกทำให้คู่ต่อสู้ประมาท 
จุดด้อย - 
สถานภาพ โสด 
ฐานะ เป็นบุตรชายของเจ้าพ่อแห่งเมือง B มีพี่น้องบุญธรรมชื่อ อาอิโอ เซนจิ 


อาอิโอ เซนจิ 

บิดา ชินโด คาเครุ (บิดาบุญธรรม) 
มารดา วากาบะ มีน่า 
อายุ 18 ปี 
รูปร่าง สันทัดสูงประมาณ 180 ซ.ม. 
สีผิว ขาว 
สีผม ดำ 
สีตา ดำ 
ที่อยู่ประจำ - 
อาวุธ - 
นิสัย เย็นชา หยิ่ง 
จุดเด่น ไม่มีคำว่าพลาด ลงมือรวดเร็ว 
จุดด้อย - 
สถานภาพ โสด 
ฐานะ เป็นบุตรบุญธรรมของเจ้าพ่อแห่งเมือง B 


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 


เฮ้อ ที่แท้เขาก็มีประวัติอยู่ในหนังสือเล่มนี้ของพ่อนี่เอง ทีนี้รู้ละเอียดรึยังค่ะ อายะกะกล่าวทีเล่นทีจริงกับยูเอะ 
เมื่อเขามีชื่ออยู่ในนี้แสดงว่าอันตรายใช่ย่อยเลยนะ อายะกะกล่าวพรางสังเกตความรู้สึกยูเอะ 
ยูเอะยิ้มให้อายะกะอย่างสุดฝืน 
ใช่ อันตรายมาก แล้วทางเราเองก็ไม่รู้เรื่องของเขามากนักยิ่งน่ากลัว แล้วที่สำคัญตามที่กล่าวมาพวกนี้ไม่ค่อยยุ่งกับใคร แต่คราวนี้เขามาทำอะไรกัน? ยูเอะกล่าวอย่างหนักใจ 
อายะกะเองก็มีท่าทีเคร่งเครียดลง เธอเองก็คิดอย่างยูเอะ 
ทั้งสองจมอยู่ในความคิดของตนอยู่นาน 
ถ้าทางนั้นปะทะกับเราจริงพี่จะอยู่ฝั่งไหน ในที่สุดอายะกะก็ทำลายความเงียบขึ้น 
ประกายตาของยูเอะหม่นหมองลงจนเห็นได้ชัด 
พี่ต้องอยู่ฝั่งเราสิ ยูเอะพยายามปั้นยิ้ม 
อายะกะเองก็พยายามปั้นยิ้มให้ยูเอะเช่นกัน เธอเองก็หนักใจอยู่ใช่น้อย ประกายตาที่สดใสก็ไม่สดใสเหมือนเคยแล้ว ในตอนนี้เธอคิดเรื่องที่จะขอยูเอะไว้ได้แล้ว เธอเชื่อว่ายูเอะต้องรักษาสัญญา! เธอรักพี่สาวเธอมาก เธอไม่อยากให้ยูเอะเสียใจแต่มันก็อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้! ทั้งสองได้แต่หวังว่าอย่าให้เรื่องที่คิดเป็นจริง! 


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 


(โปรดติดตามตอนต่อไป)				
22 พฤษภาคม 2547 11:57 น.

Lovely มาเฟีย

หมูก้อย

  คนคู่หนึ่งแต่งกายมิดชิดด้วยเสื้อแขนยาวสีเทาตัวโคร่ง ทั้งสองสวมฮู้ดปิดหน้าคล้ายกลัวคนพบเห็นจะรู้ว่าตนเป็นใคร ทั้งสองมีความสูงต่างกันจนเห็นได้ชัดเพราะคนตัวเล็กสูงแค่ไหล่ของอีกคนเท่านั้น 
      ทั้งคู่เดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยแสงสีและผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจในยามค่ำคืน สถานที่นี้ดูไม่เหมาะอย่างยิ่งกับเด็ก! 
เราจะไปไหนดีค่ะคนตัวเล็กถาม เสียงของเธอกังวานใสน่าฟัง 
พี่ว่าเรารีบกลับจะดีที่สุด ที่แบบนี้ไม่เหมาะกับเราเลยนะคนตัวสูงตอบ น้ำเสียงเป็นกังวน แต่ก็ยังนุ่มนวลน่าฟัง 
       คนตัวเล็กท่าทางไม่สนใจที่คนตัวสูงกล่าว เธอกวาดสายตาไปรอบๆอย่างสนใจใคร่รู้ ในที่สุดก็ดึงมือคนตัวสูงเข้าไปในร้านหนึ่งที่มีคนแน่นขนัด 
       เมื่อเข้ามาในร้านเจ้าตัวเล็กก็กวาดสายตาหาที่นั่งในที่สุดก็ได้ที่ในมุมๆหนึ่งที่ดูจะเงียบที่สุดในร้าน เพราะถึงอย่างไรก็ดูจะไม่มีที่นั่งอื่นเหลืออีกแล้ว 
ไม่นานบริกรก็เดินเข้ามาท่าทางลุกลี้ลุกลน 
เออโต๊ะนี้นั่งไม่ได้นะครับ ในที่สุดบริกรหนุ่มก็กล่าวออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ 
ทำไมล่ะ เจ้าตัวเล็กขมวดคิ้ว 
คือโต๊ะนี้มีเจ้าประจำครับ ทางที่ดีคุณรีบเปลี่ยนโต๊ะดีกว่าครับ บริกรหนุ่มอึกอักอยู่ครู่ใหญ่จึงกล่าวมา 
แล้วถ้าไม่ย้ายล่ะ เจ้าตัวเล็กถาม 
ย้ายเถอะครับ คือคือว่าแขกโต๊ะนี้เป็นอันธพาลใหญ่ในแถบนี้นะครับ ถ้าไม่รีบย้ายน่ากลัวจะเกิดเรื่องแล้วครับ บริกรหนุ่มละล่ำละลัก 
เรา-ไม่-กลัว เจ้าตัวเล็กเน้นทีละคำ 
เมื่อบริกรหนุ่มได้ยินถึงกับตาเหลือก 
แต่แต่คนที่ลองดีกับพวกมันเจ็บตัวทุกรายนะครับ บางรายถึงตายเชียว เจ้าบริกรหนุ่มพยายามอธิบายถึงความน่ากลัว 
นั่นเป็นเรื่องของเรา ตอนนี้เอาน้ำมะนาวกับน้ำส้มมาอย่างละแก้วแล้วกัน เจ้าตัวเล็กกลอกตา เธอกำลังนึกอะไรบ้างอย่างที่เธอคิดว่าสนุก! 
บริกรหนุมลังเลอยู่ครู่จึงจากไป 
คนตัวสูงทอดถอนใจอย่างเป็นกังวนแล้วกล่าวว่า 
อายะกะ.กลับกันเถอะ อย่ามีเรื่องเลย 
เจ้าตัวเล็กหัวเราะเสียงใสกล่าวว่า 
โถ่ พี่ก็ นานๆทีน่า เรื่องสนุกอย่างนี้พลาดได้ไง 
คนตัวสูงถอนใจอย่างกึ่งเอ็นดู กึ่งเหนื่อยใจ กับพฤติกรรมของน้องสาวตัวแสบ 
ที่แท้คนตัวสูงคือยูเอะและคนตัวเล็กอายะกะลูกสาวของนายยูกิ เจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ในแถบนี้ และเขาก็มีธุรกิจบังหน้าอยู่หลายแห่ง ปีนี้ยูเอะมีอายุ 18 ปีแล้ว ส่วนอายากะอายุ 14 ปี ที่จริงวันนี้ยูเอะไม่ได้คิดจะมาที่นี่เลยแต่เป็นเพราะอายะกะน้องสาวของเธออยากจะมา เธอไม่อาจปล่อยให้อายากะมาคนเดียวได้จึงต้องติดตามมาด้วย 
ยูเอะไม่อยากให้เกิดเรื่องที่นี่เลย แต่ตอนนี้คงหลีกเลี่ยงได้ยาก เธอได้แต่ภาวนาให้อายะกะเชื่อตนบ้าง หรือไม่ก็อย่าให้คู่กรณีมาที่นี่เลย แต่ยูเอะก็รู้ว่าคงได้แค่หวัง 


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 


      เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ยังไม่มีวี่แววว่าใครจะมาทวงที่ ยูเอะเริ่มใจชื้นขึ้น หวังว่าอายะกะจะเบื่อที่ต้องรอจนกลับไปเอง แต่แล้วความหวังของยูเอะก็ดับวูบ เมื่อมีเสียงโวยวายดังขึ้นใกล้ๆ 
      ยูเอะเห็นชายฉกรรจ์ท่าทางเอาเรื่อง 5 คน เดินเข้ามาใกล้ 
เฮ้ย! เจ้า 2 คนนั่น ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะถ้าไม่อยากเจ็บตัว เจ้าอันธพาลตัวโตกล่าวพรางหักนิ้ว 
ที่ตรงนี้เรานั่งก่อน และก่อนนั่งเราก็ดูดีแล้วว่าไม่มีป้ายจอง อายะกะกล่าว เล่นเอาพวกอัธพาลฉุนกึก 
ยูเอะส่งสายตาวิงวอนอายะกะเต็มที่ แต่อายะกะไม่มีท่าว่าจะรับรู้ ยูเอะจึงต้องเอ่ยปากเอง 
คือพวกเราไม่รู้ว่ามีเจ้าของก็เลยมานั่งโดยพลการต้องขอโทษด้วยนะค่ะ 
พวกอัธพาลมองหน้ากันอย่างชั่งใจ 
ก็ได้ น้องสาวเราปล่อยเธอไป แต่! เจ้าคนปากดีต้องอยู่ ในที่สุดอัธพาลคนหนึ่งก็กล่าวออกมา 
ยูเอะเริ่มกระสับกระส่ายจนเห็นได้ชัด 
พี่จะไปก็ได้ อายะกะกล่าว 
ถ้าเธอไม่ไปพี่ก็ไม่ไป! ยูเอะเน้นเสียง 
เป็นพี่น้องที่รักกันดีนี่ แต่ว่าก็ว่าเหอะสาวๆจะไม่เปิดหน้าให้พวกพี่ชมเลยเหรอ..เพื่อบางทีพวกพี่อาจใจอ่อนก็ได้ เจ้าอันธพาลกล่าว แล้วพวกมันก็พากันหัวเราะ 
แต่เสียงหัวเราะยังไม่ทันขาดอายะกะก็เหวี่ยงหมัดใส่เจ้าคนที่พูดเต็มแรง! เจ้าอันธพาลผู้นั้นถึงกับลงไปกองแน่นิ่งกับพื้น 
คนที่เหลือนิ่งไปครู่เพราะไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงอย่างอายะกะจะร้ายกาจอย่างนี้ พวกมันมองอายะกะอย่างเหี้ยมเกรียม พวกมันค่อยๆย่างสามขุมเข้าหาอายะกะ ยูเอะเองก็นั่งเฉยต่อไม่ได้ ถึงไม่อยากมีเรื่อง แต่คราวนี้คงเลี่ยงไม่ได้แล้ว 
ผู้คนภายในร้านเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ บางคนเดินออกจากร้านไป บางคนใจกล้ายังอยู่ดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในจำนวนนั้นยังมีชายหนุ่มในมุมมืดที่ตั้งตาดูอย่างสนใจ 
เจ้าอันธพาลทั้งหมดเข้ารุมยูเอะและอายะกะอย่างบ้าครั่งแต่ก็ทำอะไรทั้งคู่ไม่ได้ แถมพวกมันยังเป็นฝ่ายเจ็บตัวเอง 
ไงล่ะ ทีนี้รู้รึยังว่าถูกรังแกเป็นอย่างไร ต่อไปอย่าให้เรารู้นะว่าพวกแกยังทำตัวเป็นอันธพาลอยู่ อายะกะกล่าว แล้วหันหลังจะเดินออกจากร้านไป ทั้งคู่ไม่รับรู้เลยว่าเจ้าอันธพาลคนหนึ่งคว้ามีดหั่นเนื้อจากโต๊ะใกล้ๆ และพุ่งตัวตรงมายังร่างของยูเอะซึ่งเดินรั้งท้ายอย่างรวดเร็ว! 


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 


แต่ก่อนที่มีดจะสัมผัสตัวยูเอะก็มีมือมือหนึ่งคว้ามือที่จับมีดเอาไว้ได้ ตามมาด้วยเสียงกระดูกหัก และก่อนที่มีดจะหล่นชายหนุ่มลึกลับก็คว้ามันไว้ได้ 
เจ้าอันธพาลคนนั้นสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ส่วนคนอื่นมีแววทึ่งระคนหวาดกลัวอย่างที่สุด 
พวกแกยังไม่ไปอีกรึ หรือว่าจะฉันลงมืออีก! ชายหนุ่มลึกลับถามเสียงเข้ม 
ชายหนุ่มกล่าวยังไม่ทันจบพวกอันธพาลก็พากันลนลานจากไป 
ชายหนุ่มลึกลับหันมามองยูเอะและอายะกะ ทำให้ยูเอะได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน ผมสีดำและนัยตาสีนิลที่คมเป็นประกาย คิ้วดกหนา จมูกที่โด่งเป็นสันชวนมองและบุคลิกอันสง่างามของเขาประกอบกับวีรกรรมที่เขาได้กระทำ ส่งผลให้เขากลายคนที่จะประทับอยู่ในดวงใจของยูเอะไปชั่วนิรันดร์ 
คนบางจำพวกก็ไม่ควรหันหลังให้ โดยเฉพาะเมื่อเราทำให้มันเจ็บ ชายหนุ่มกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกก่อนเดินจากไป 
ยูเอะยังเหม่อมองจนลับสายตา มารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อสังเกตเห็นดวงตาอีกคู่หนึ่งจ้องมองตนอย่างเจ้าเล่ห์ ถึงอายะกะไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่จากสายตาทำให้ยูเอะรู้ว่ายายตัวแสบเดาความรู้สึกของตนได้แล้ว ยูเอะหน้าแดงขึ้นมาทันตา 
เอ่อเดี๋ยวเรื่องค่าเสียหายพรุ่งนี้เราจะมาจัดการให้นะค่ะ ยูเอะหันไปบอกเจ้าของร้านพร้อมยื่นนามบัตรให้ เป็นการเปลี่ยนเรื่อง 
เมื่อเจ้าของร้านเห็นนามบัตรก็ละล่ำละลักกล่าวว่า 
ไม่ไม่เป็นไรล่ะครับค่าเสียหายผมจัดการเอง 
แต่ยูเอะและอายะกะยังคะยั้ยคะยอที่จะรับผิดชอบ จนในที่สุดเจ้าของร้านก็จำต้องรับไว้ 
อ้อแล้วขอร้องนะค่ะ เรื่องนี้คุณช่วยปิดทีอย่าให้ใครรู้ว่าเราเป็นใครโดยเฉพาะคุณพ่อ อายะกะกล่าวขอร้อง 
นาฬิกาส่งเสียงบอกเวลาตี 3 แล้ว 
เราก็กลับกันได้แล้วนะ ยูเอะกล่าวชวนอายะกะ 
เดินออกจากร้านสักพักอายะกะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วบอกว่า 
ศรรักปักอกเหรอค่ะ! 
ยูเอะหน้าแดงไม่รู้จะตอบอย่างไร 
ตอนนั้นทำไมพี่ไม่วิ่งตามไปนะ ถามชื่อไว้ก็ยังดี หรือไม่ก็อายะกะยังพูดไม่ทันจบก็โดนมะเหงกเข้าอย่างจัง 
หยุดพูดถึงเขาได้แล้วแม่คนรู้ดี จะถึงบ้านแล้ว ยูเอะทำเสียงดุ แต่ฟังดูก็รู้ว่าเป็นเพียงการแก้เขิน 



>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 



[โปรดติดตามตอนต่อไป]				
27 พฤษภาคม 2546 22:21 น.

เรื่อง เด็กหญิงปริศนา2

หมูก้อย

ณ  โรงเรียนที่โดเรมีอยู่
           นี่วันนี้มีนักเรียนเข้ามาใหม่ด้วยล่ะ ไอโกะเริ่มพูดก่อน
           เฮอนี่ผ่านมา1ปีแล้วสินะอนปุแทรกขึ้นมา
           อะไรเหรอ?โดเรมีถาม
           ก็จะอะไรซะอีก  ก็เรื่องของมายะจังน่ะสินะฮาสึกิพูดขึ้นบ้าง
!!!กริ๊ง!!!  !!!กริ๊ง!!!
          อ้าว!ต้องเข้าเรียนแล้วเหรอไอโกะพูดออกมา
         เอ้า  นักเรียนทุกคนเลิกคุยได้แล้ว  วันนี้เรามีเพื่อนใหม่นะเงียบๆหน่อยได้มั้ย  เอาล่ะ  เด็กคนนี้มีชื่อว่าชิคางิ  เซรุมิ จะมาเป็นสมาชิกในห้องเรานะคุณครูเซกิเข้ามาในห้องหลังกริ่งเซรุมิ
          เซรุมิค่ะ  ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะเซรุมิพูดขึ้น
          เอาล่ะนั่งไหนดี เอาตรงนั้นแลวหายไปไหนเนื่ยครูเซกิพูดในขณะที่เซรุมิเดินไปที่นั่งของมายะ
          หวัดดีเซรุมิพูดกับโดเรมีขณะขยับเก้าอี้
          อืมเออ  หวัดดี  แต่นั่นโต๊ะของมายะจังนี่โดเรมีพูดเชิงค้าน
          ช่างมันปะไร  ไหนๆก็ไหนๆไม่อยู่แล้วนี่เซรุมิพูด
                พวกโดเรมีจำต้องหยุดไป  เพราะเถียงไม่ขึ้น  จนกระทั่งเลิกเรียน  พวกโดเรมีก็คุยกันเรื่องเด็กนักเรียนที่ย้ายเข้ามาใหม่  เพราะแต่ละคนก็ไม่ชอบเซรุมินักเรียนใหม่  พวกเขาช่วยกันตั้งฉายาให้เป็นยัยจอมอวดดีพวกเขาคุยเรื่องนี้ไปจนถึงFlower Gardenแล้วทำงานต่อทันที
                ส่วนเซรุมิก็เดินมาหยุดที่ Flower Garden ที่โดเรมีทำงานอยู่ แล้วก็สังเกตรอบๆคิดว่าที่นี่เปลี่ยนไปมาก  แล้วเธอก็เดินสำรวจรอบๆ  จนไปเจอกับไอโกะ
          จะรับอะไรดีค่ะไอโกะถามเพราะนึกว่าเป็นลูกค้าอ้าวเมื่อเห็นเป็นเซรุมิ
          อืมที่นี่เปลี่ยนไปมากเลยเนอะ  วันนี้ฉันมาในฐานะลูกค้าจ๊ะ  ฉันขอเอาดอกไม้ไปเยี่ยมคนรู้จักน่ะเซรุมิพูด
          คิดว่านี่คงเหมาะนะไอโกะพูดพร้อมกับยื่นให้เอากี่ต้นล่ะ
          ฉันคิดว่า6ต้นนะเซรุมิพูด
                ไอโกะหยิบต้นไม้มายื่นให้6ต้น  แต่มายะหยิบไปเพียง5ต้นพร้มกับให้เงินไป
         ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าจะมาเยี่ยม  เออ.แล้วพวกที่เหลือล่ะเซรุมิพูดกับไอโกะเหมือนคนที่คุ้นกับไอโกะมานาน
          ฉันจำไม่ได้ว่าเธอเคยรู้จักฉัน  ส่วนพวกที่เหลือก็คงอยู่ข้างในกันหมด
          ขอบใจนะ  เออแล้วเข้าไปข้างในด้วย  จะแนะนำใครคนหนึ่งเซรุมิเดินเข้าไปโดยมีไอโกะเดินตาม  พอถึงในร้านเออHi  หายไปไหนหมดล่ะ  อ๋อเห็นแล้วโป้ง  โดเรมีจัง,ฮาสึกิจัง,อนปุจัง  แล้วก็มาโจริก้าด้วยเซรุมิพูดเมื่อเจอทุกคน
          เอ๋!  เธอรู้จักฉันด้วยเรอะ  โอโหดังเป็นบ้าเลยมาโจพูดอย่างแปลกใจ
          จะไม่รู้ได้ไงก็ฉัน คือมายะไงล่ะ  คารุอิ  มายะแต่ที่เปลี่ยนชื่อก็ไม่ได้อยากเปลี่ยนหรอก  แต่เพราะว่าครอบครัวฉันอยู่ในอนาคต  แล้วก็เปลี่ยนเพื่อจะได้เหมาะสมไงล่ะ  แล้วนี่สำหรับพวกเธอ  บายนะมายะพูดพลางส่งกระถางดอกไม้ให้  เมื่อส่งเสร็จเธอเตรียมจะไป  แต่มีคนๆหนึ่งพูดขึ้นว่า
           เธอจะไปไหนล่ะจ๊ะ  พวกเราไปด้วยไดมั้ยจ๊ะฮาสึกินั่นเอง
          ฉันก็จะไปหาแม่  แล้วก็จะกลับเซรุมิพูดเธอจะไปก็ตามใจ   
                ดังนั้นทั้งหมดจึงออกเดินทางไปที่บ้านเก่าของเขา  พลางๆพูดถึงเกี่ยวกับนิสัยเซรุมิกับมายะเหมือนกับว่าไม่ใช่คนๆเดียวกัน  จนกระทั่งเดินไปถึงหน้าบ้าน
          อ๋าฉันต้องรีบไปแล้วล่ะเซรุมิพูดในขณะที่ตัวเริ่มจางเหมือนเมื่อครั้งก่อน  แล้วจึงตัดสินใจกดกริ่งกริงก่อง
          ใครคะมีคนๆหนึ่งพูดจากข้างใน  คนๆนั้นก็คือคุณนายท้องโย้อย่กบสามี
         เออขอโทษค่ะ  คงทักผิดคนน่ะค่ะเซรุมิพูดในขณะที่เริ่มออ่นเพลียลงเออไม่ทราบว่าคนที่เคยอยู่ในห้องนี้ย้ายไปไหนค่ะ
          ไม่มีใครย้ายไปไหนหรอกจ๊ะ  น้าอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว  แล้วสามีน้าก็เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อ2อาทิตย์ก่อนนี่เอง  ว่าแต่หนูเถอะอาการแบบนี้เหมือนคนที่น้ารู้จักเลยคณนายคนนี้ก็คืออดีตแม่ของมายะ
          เอ้านี่  สำหรับคุณแม่หนูต้องไปแล้ว  แล้วหนูจะมาเยี่ยมใหมนะคะ  หนูรักแม่ค่ะ  บ๊ายบายค่ะแม่  บ๊ายบายทุกคนเซรุมิยืนต้นไม้ให้ไป  ทำให้คุณนายคนนั้นรู้ว่าเธอคือมายะ  แล้วเซรุมิก็หมดสติลง  แล้วก็จากไปในที่สุด  เหลือร่องรอยเพียงแต่การ์ดใบหนึ่ง  ที่เขียนว่า
สวัสดีทุกคน
         ฉันหวังว่าพวกเธอจะได้อ่าน จ.ม. ฉบับนี้อยู่นะ  ในตอนที่ฉันเขียนอยู่นี้เราอยู่ในอนาคตนะ  เราคิดว่าพวกเธอคงมาหาได้แต่ก็ไม่รู้เเมื่อไรเอาเป็นว่าว่างๆฉันจะไปเยี่ยมพวเธอนะ  ฉันอยู่ที่นี่ได้สัปดาห์หนึ่งฉันเบื่อมากเพี่อนสักคนก็ไม่มี  ฉันก็เลยเขียนจดหมายแก้เซ็งงะ  ฉันอยากให้พวกเธอมาหาฉันมั่งจังถึงแม้จะน่าเบี่อแต่ที่นี่นะมีแต่เทคโนโลยีไฮเทคมากเลยล่ะ  พอแค่นี่ดีกว่านะ
                                                                      หวังว่าจะเจอกันนะ
                                                                          ชิคางิ  เซรุมิ            
                                                                         (คารุอิ  มายะ)
                                                    +_+END+_+				
25 พฤษภาคม 2546 21:45 น.

เด็ญปริศนา

หมูก้อย

เรื่อง  เด็กหญิงปริศนา
              เช้าที่สดใส  ณ  โลกแม่มด  ได้ทำมาหากินกันอย่างรวดเร็ว  ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเปิดร้าน  จนถึงปิดร้าน  ผ่านไปวันๆ   วันแล้ววันเล่าอย่างซำซาก  จนกระทั่งคืนหนึ่ง  ได้มีพาพุพัดแรงมาก  และมีช่องว่างแห่งมิติเวลาเกิดขึ้น  แล้วก็มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆราวๆ2-3ขวบโผล่ออกมาจากช่องนั้น  จนกระทั่งถึงเช้า  ได้มีคนๆหนึ่งเข้ามาเห็น  คนๆนั้นก็คือ  น้องสาวของพระราชินีแห่งโลกแม่มดได้เก็บเด็กคนนั้นไปเลี้ยงไว้ในพระชวังตั้งแต่เด็ก  จนกลายเป็นแม่ของเด็กคนนั้น  และตั้งชื่อให้เด็กคนนั้นว่า คารุอิ  มายะ หลังจานั้น5ปีมายะก็ได้กลายเป็นแม่มดฝึกหัด  และเมื่อมายะอายุ8ปีก็ได้ย้ายไปอยู่ที่โลกมนุษย์  ได้เรียนโรงเรียนเดียวกับโดเรมี ฮาสึกิ ไอโกะ  และอนปุ  และเมื่อยิ่งรู้ว่าพวกนั้นทำงานอยู่ที่ร้านบ้านเวทมนต์ก็ยิ่งรู้ว่าพวกโดเรมีเป็นแม่มดฝึกหัด  บวกกับเย็นวันนั้นที่เธอตามเข้าไปดู  เธอก็ยิ่งมั่นใจยิ่งขึ้น  เธอจึงเข้าไปทักขณะที่โดเรมีคุยกับมาโจริก้าว่า  หวัดดี,หวัดดีคุณตัวเขียว  ทั้งมาโจริก้า ทั้งโดเรมีต่างตกใจกันมาก  แต่ก็แปรกใจที่ทำไมมายะไม่ตกใจเลย  แต่ขณะนั้นมาโจริก้าก็แทรขึ้นมาว่าอย่างงั้นก็ต้องซื่อเข็มกลัดเพิ่มน่ะซี(มาโจริก้าขี้งก)
       ไม่จำเป็นหรอกค่ะมายะพูดหน้าตาเฉย
      อ้าวมาโจริก้าพูดด้วยสีหน้างุนงง
       เพราะว่าฉัน เพราะฉันก็เป็นเป็นแม่มดฝึกหัดอยู่แล้วมายะพูด้วยน้ำตาคลอ
      !!!หา!!!  ไม่จริงง่ะ ทุกคนพูดพร้อมกัน
      เอาน่ายังไง  ฉักก็เป็นฉันอยู่วันยันค่ำนะแหละน่ามายะพูดปิดบังใจตัวเอง
      แหมเธอล่ะเป็นซะอย่างงี้แหละโดเรมีพูดพร้อมตบบ่าเชิงปลอบใจ
ขณะนั้นเองพ่อของไอโกะก็มารับไอโกะ  พ่อมารับลูกน่ะ
      !หาพ่อฉันมารับแล้วไอโกะพูดออกมา
      ทำไมมารับถึงนี่ล่ะ  แถมเร็วจังฮาสึกิพูดแบบเชิงถาม
      เออคือวันนี้เป็นวันเกิดฉันน่ะ  ก็กะว่าจะไปฉลองกันร้านอาหารแถวนี้ล่ะไอโกะพูดแบบเอียงอาย
      Happy  Birthdayนะจ๊ะทุกคนพูดพร้อมกันยกเว้นมายะที่กำลังนึกถึงพ่อของตัวเอง
*_*_*_*
                หลังจากที่กลับมา  มายะก็ถามถึงพ่อของตนทันที  แต่แม่ของเธอกลับบอกว่าพ่อของลูกน่ะไปทำงานต่างประเทศตั้งแต่ตอนที่ลูกยังเล็ก  และที่ต้องไปเพราะเป็นหน้าที่  พ่อของลูกน่ะเป็นคนรวยมากจึงจำเป็นที่ต้องไปเพื่อช่วยให้แม่กับลูกไม่ต้องลำบาก  ทีนี้เข้าใจรึย้งจ๊ะ
        ค่ะ,หนูเข้าใจแล้วค่ะมายะพูดถึงกับยิ้มแก้มปริ
*_*_*_*
AM.8.00น.
        นี่ๆตั้งแต่เธอมาเรียน  เธอยังไม่ได้พูดถึงพ่อเธอเลยโดเรมีพูดลอย
        ไม่มีอะไรมากหรอก  ก็แค่ไปอยู่ต่างประเทศมายะพูดซึมๆ
        ม่มีอะไรแน่นะ  ทำไมทำหน้างั้นล่ะ?ฮาสึกิแปลกใจ
        เออ..มีไรที่ไม่เข้าใจนิดหน่อยมายะพูด
        ไม่สมเป็นเธอเลยโดเรมีพูดพร้อมตบหลังมายะ
               แล้วทั้งหมดก็ต้องตกใจ  เมื่อเห็นมายะมีสภาพเลือนลาง  แล้วทั้งหมดก็พามายะกลับบ้านโดยอ้างว่าเขาไม่สบายหนัก  พอเมื่อถึงบ้าน  แม่ก็ตกใจแถบช็อค   แล้วก็สารภาพเรื่องทั้งหมด  มายะเองก็เสียใจมากและเริ่มอ่อนเพลียตัวของมายะก็เริ่มจางลงเช่นกัน  มายะตัดสินใจบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกมา
           แม่คะ  สัญญากับหนูได้มั้ย  ห้ามลืมหนูนะ  หนูรักแม่ค่ะหนูคิดว่าคงถึงเวลาที่หนูต้องกลับไปแล้วมาพูดเสร็จก็หันไปทางที่พวกโดเรมียืน
           โดเรมี  ฮาสึกิ  ไอโกะ  แล้วก็อนปุจัง  ฉันดีใจจริงๆที่ได้พบเพื่อนอย่างพวกเธอ  ฝากแม่ฉันด้วย  แล้วฉัน..จะ..มา..เยี่ยม..พูดจบมายะก็ค่อยๆหลับตาลง  และร่างกายของมายะก็ค่อยๆเลือนลง เลื่อนลง  และจางหายไปในที่สุด  แล้วจู่ๆก็มีคนตะโกนออกมาว่าฉันจะรอเธอนะก็คือโดเรมีนั่นเอง  หลังจากนั่นมาทุกคนก็ซึมลง  และ3วันต่อมาก็ร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหมูก้อย
Lovings  หมูก้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหมูก้อย
Lovings  หมูก้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหมูก้อย
Lovings  หมูก้อย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงหมูก้อย