15 มกราคม 2555 11:15 น.
หมอกจาง
ฉันได้พบกับกวี และเขายังไม่ตาย
เราสนทนาด้วยถ้อยคำน้อย ในมากหลายเรื่องราว
เขาบอกฉันว่า การดูแลความรักนั้นไม่ใช่ความรัก
แม้ว่ามันจะใกล้ชิดกันมากก็ตามที
และบางคน กว่าจะรู้ตัว
ความรักก็ได้เหือดแห้งไปจากใจเสียแล้ว แม้เขาจะดูแลมันอย่างดีก็ตาม
เขาบอกฉันว่า จงอย่าได้หวาดกลัวความว่างเปล่า
และจงอย่าถมความว่างเปล่าด้วยสิ่งใดๆ
จงอยู่กับความว่างเปล่า และปล่อยให้มันเอ่อท้นขึ้นทีละน้อยด้วยตัวของมันเอง
การเพียรถมความว่างเปล่านั้น มีแต่จะขุดหลุมให้ลึกลง ลึกลงไปทุกที
เขาบอกฉันว่า จงอย่าฉลาด
อย่าฉลาดและอย่าได้อยู่ในหมู่ผู้ฉลาด
จงโง่เขลาเพียงลำพัง กับการนิ่งเงียบและพิจารณา
เพราะปัญญาไม่เคยเบ่งบานจากคำพูด และสิ่งที่ถูกต้องไม่ได้วัดจากจำนวนคนที่เห็นด้วยกับมัน
เขาบอกฉันว่า จงอย่ายืนบนจุดยืนของคนอื่น
อย่ารับความคิดสำเร็จรูปจากใคร แม้ว่ามันจะดูสวยงามน่าเชื่อถือเพียงใดก็ตามที
จงยืนอยู่บนจุดยืนที่ขีดวงขึ้นเอง และหากเราไม่สามารถหาจุดยืนเองได้ ก็จงนั่งลงเสีย
เขาบอกฉันว่า จงอย่าหลงลืมความเศร้า
แม้มันจะเจ็บปวด แต่มันคือเครื่องแสดงว่าเรายังคงอ่อนโยน
หัวใจที่แข็งกระด้างย่อมไม่มีความรู้สึก
ความปวดร้าวนั้นมีโลกของมันเอง จองหองและครุ่นคิด
เขาบอกว่า ความรักกับสิ่งที่เราคิดว่ารักนั้นไม่เหมือนกัน
สิ่งที่คิดว่าอยากได้นั้นเราก็อาจไม่ได้อยากได้มันจริงๆ
ยิ่งคิดน้อยลง ความวุ่นวายก็น้อยลง
การพลาดโอกาสมากหลาย อาจมีความสุขกว่าการได้คว้าไว้ทุกโอกาส
เขาบอกฉันว่า จงน้อยแต่มาก
เราอาจสามารถดมดอกไม้นับร้อยดอกในท้องทุ่ง แต่ทุกดอกนั้นย่อมมีกลิ่นเดียว
ดอกไม้เพียงดอกเดียว หากเราค่อยๆดม แช่มช้า
เราอาจได้กลิ่นนับร้อยกลิ่นของท้องทุ่งทั้งท้องทุ่ง
เขาบอกฉัน
ว่าจงออกเดินทาง
ไปยังสถานที่ใดก็ได้ หรือแม้กระทั่งในความคิดของตน ในหัวใจของตน
เพราะทุกการเดินทางคือความสดใหม่
เราไม่อาจหลีกเลี่ยงความตาย แต่เราอาจเกิดใหม่ได้ตลอดเวลา