13 สิงหาคม 2551 21:38 น.
หมอกจาง
เดียวดาย
จนดูเหมือนจะเลือนหายกับฟ้ากว้าง
เรือนร่างรูปเงาดูเบาบาง
ดังจันทร์เสี้ยวแขวนค้างในคืนฝน
ผู้คนดูมากมาย
แต่ก็คล้ายเหมือนไม่มีใครสักคน
ลำพังกับความคิดอันสับสน
รำพึงหมองหม่นอยู่คนเดียว
ความทรงจำกับความฝัน
และก็เหมือนว่าเธอนั้นไม่ข้องเกี่ยว
ในเรื่องราวที่สีซีดดูซีดเซียว
มีเพียงฉันที่ยังเที่ยวยังท่องเดิน
เดียวดาย
ห่างเหินก็คล้ายไม่ห่างเหิน
คืนวันนานแต่คิดถึงนั้นนานเกิน
เดียวดายหมางเมินวันเวลา
6 สิงหาคม 2551 20:22 น.
หมอกจาง
หวานอะไรไหวหวามตามสายลม
หนาวคิดถึงพอห่มก็หายหนาว
หวานอะไรหวานชื่นเมื่อตื่นเช้า
หรือหวานคำจากดาวคืนข้างแรม
อุ่นอะไรไม่รู้อยู่ในอก
หรืออุ่นในเพลงนกวันฟ้าแจ่ม
แววตาก็เหมือนปริ่มจะยิ้มแย้ม
ความคิดถึงใครมาแซมตรงกลางใจ
ฉันเป็นอะไรไปก็ไม่รู้
เหมือนจู่จู่โลกก็กลับมาสดใส
เหมือนกิ่งไม้แห้งปริมาผลิใบ
แล้วดอกไม้ดอกใหม่ก็จะบาน
หวานอะไรไหวหวามตามสายลม
ขมกี่ขมเคยขมก็มองผ่าน
ร้าวกี่ร้าวก็ลืมเคยร้าวราน
ด้วยวันนี้โลกฉันหวาน..เสียเหลือเกิน
1 สิงหาคม 2551 09:38 น.
หมอกจาง
ปวดร้าว
แล้วดาวก็ร่วงสู่พื้น
ฉันร้องไห้อยู่ค่อนคืน
ยินเสียงสะอื้นแม้หลับตา
โทษฝน
ที่สาดซัดดาวจนหม่นจนอ่อนล้า
โทษวันและเวลา
ที่ทำให้ท้องฟ้าหลงลืมดาว
มองไม่เห็น
แม้ว่าเคยจะชัดเจนในลมหนาว
ยิ่งเงียบยิ่งดึกยิ่งพรึกพราว
แต่เมื่อถึงรุ่งเช้าก็ลืมมอง
คือฉัน
ก็สมแล้วกับวันอันเศร้าหมอง
สมแล้วปวดร้าวตามครรลอง
ของผู้ไม่จดจ้องไม่จับตา
ลาดาว
บางที่แรกเช้าเธอมีค่า
บางคนมีเธอทุกเวลา
ฉันร้องไห้ที่ผ่านมาก็สมแล้ว