31 ตุลาคม 2548 19:48 น.
หมอกจาง
ละเลียดฟองล่องลอยแห่งฝอยฝัน
สะท้อนแสงร้อยพันสีสดใส
ระลึกรอยยิ้มรื่นเคยชื่นใจ
ครั้งที่พาฝันไปจนสุดฟ้า
หวนถึงหอมดอกไม้กรุ่นในคืนหนาว
บางหอมนั้นดอกไม้ขาวยังด้อยกว่า
ถ้อยคำหวานที่พาใจไกวชิงช้า
และแววตาที่ซึ้งกว่าดวงตาดาว
ก็แค่หนึ่งคืนฝันอันสดใส
ให้อุ่นใจอาบใจในคืนหนาว
เหลือเพียงรอยน้ำค้างชื้นเมื่อตื่นเช้า
แต้มเป็นรอยน้ำตาพราวตรงปลายตา
ละเลียดฟองล่องลอยแห่งฝอยฝัน
แห่งคืนหนึ่งคืนนั้นที่มีค่า
ความทรงจำไม่เคยเลยจะเอ่ยลา
ตาที่ต่อแววตายังติดใจ
29 ตุลาคม 2548 07:13 น.
หมอกจาง
แผลในหัวใจ
คล้ายจะหาย
แต่แตะ..ก็กลับเจ็บ
สะกิด..ยังปวดแปลบ
น้ำตา..
เหือดแห้งไปนานแล้ว
ความทรงจำ
มิได้แห้งเหือดกับน้ำตา
ร่องรอย
ถูกทิ้งไว้มากมายเท่าไร
จากคราวนั้น..
แววตาที่เปลี่ยนไป
รอยยิ้มที่แปลกไป
หัวใจที่แตกไป
วันนี้..รอยยิ้มฉันดูไม่แปลกอีกต่อไป
มิใช่..ว่ามันกลับไปเหมือนเดิม
หากเป็นแค่เพียง..ความคุ้นเคย
วันนี้..แววตาฉันไม่เปลี่ยนอีกต่อไป
ยังคงหม่นเศร้า..
ยังคงอ้างว้าง..
หัวใจ..
รอยแผลในหัวใจ
หากมิใช่เพราะความเจ็บปวดในยามใครสะกิด
ฉันยังเคยนึก..
ว่าฉันคงไม่มีเหลือหัวใจ
26 ตุลาคม 2548 08:35 น.
หมอกจาง
ค่ำคืนที่หวั่นไหว
ฉันนั่งนับใบไม้ร่วง
เอาความคิดถึงมาถามทวง
กับความว่างเปล่า..
หนึ่งใบ..สองใบ
จะเหลือติดต้นไหมเมื่อรุ่งเช้า
น้ำค้างจากดวงดาว
ร่วงหล่นจากห้วงหาว แต้มอยู่ตรงปลายตา
กับอ้างว้าง..
เถิดพักผ่อนบ้างความเหว่ว้า
วันคืนที่เย็นชืด..ยืดเวลา
และก็ทอนคุณค่า ไปพร้อมกัน
ค่ำคืนที่หวั่นไหว
ดวงจันทร์อยู่ไกล ใช่เพียงใบไม้กั้น
ร่วงหล่นอีกกี่ใบ ก็ไม่ได้ทำให้เราใกล้กัน
แค่ชัดเจนขึ้นว่าความฝัน..
..นั้นห่างไกล
7 ตุลาคม 2548 21:42 น.
หมอกจาง
ฉันเขียนกลอนนี้ให้เธอ..
-----------------------------------
คืนเหงา
คืนที่ไม่มีดาวสักดวงหนึ่ง
กลับยังมีความอ่อนโยนที่ลึกซึ้ง
เยือกเย็นกว่าความคิดถึง เงียบงันกว่าโหยหา
ผ่านกระจก ผ่านหน้าต่าง
ล่องลอยอยู่บางบางในแววตา
นุ่มนวลกว่าท้องฟ้า
ค่อยคืบค่อยเคลื่อนมา..ค่อยโอบล้อม
คืนเหงายังมีฝัน
มีห่วงใยให้กันแทนเพลงกล่อม
มีกลิ่นกรุ่นในหัวใจให้ดมดอม
มีบางสิ่งให้ถนอม ให้หวงแหน
คืนนี้มีความฝัน
มีอบอุ่นตรงนั้นมาทดแทน
หนาวเหน็บในอ้อมแขน
ต่อกี่หมื่นกี่แสนก็ยอมทน
------------------------------------------------
5 ตุลาคม 2548 13:22 น.
หมอกจาง
เทาเทา
ฉันจูงมือกับความเหงา เดินไปในความฝัน
สวมรองเท้าแตะ เดินตามโพล้เพล้แห่งแสงตะวัน
ไปได้ไกลเท่าไหร่ก็เท่านั้น..
เท่าที่เท้าจะมีแรงพาไป
ดำดำ
ฉันเคยเดินดุ่มในความมืดคล้ำ ไม่รู้จะเดินไปทางไหน
ปิดตัวเอง ปิดตา ที่หนักยิ่งกว่าคือปิดใจ
ปิดประตูเอาไว้..
ไม่ยอมออกไป และไม่ให้ใครเข้ามา
ขาวขาว
และครั้งหนึ่ง ฉันเคยสดใสราวกับท้องฟ้า
บังคับตัว บังคับใจ พยายามให้และให้เสมอมา
แต่ในแสงตะวันที่ส่องหน้า
ก็มีเงาสะท้อนหยดน้ำตาเสมอไป
เทาเทา
ฉันก็ยังคงมีหัวใจดวงเก่า ที่อ่อนที่ไหว
แต่ไม่ปิด ไม่เปิด อะไรจะเกิดก็ปล่อยไป..
รับ เมื่ออยากให้..
วันนี้ฉันอยู่ในโลกสดใส ที่เป็นสีเทา