16 มกราคม 2547 11:14 น.
หมอกจาง
องุ่นลูกสีแดง ใส..
ฉันนอนหงายอยู่บนหลังคารถเก่าผุ
ในมือ ถือไม้สอยองุ่น
ท้องฟ้าสีฟ้า เข้ม
ดูฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำ ละอองไอ
หากแต่ใส และลึก
ดูเหมือนผืนสมุทรที่สุกใส มากกว่าที่จะเป็นฟากฟ้า
ฉันนอนหงายอยู่อย่างนั้น
สอยองุ่นแดง ใส พวงนั้นพวงนี้
สีของพวงองุ่น ตัดกับสีของแผ่นฟ้า
แม่ยืนมองอยู่ด้านล่าง
พ่อยืนยิ้มไม่ไกลนัก
สอยให้ได้สักหลายพวงหน่อย
พ่อจะเอาไปทำบุญที่วัด
พวงองุ่นสีแดง สดใส
ท้องฟ้า เข้ม ใส ลึกล้ำ
พ่อออกก้าวเดิน ฉันเอ่ยคำอำลา
พ่อบอกไม่จำเป็น..
พ่อไม่ได้ไปไหนไกล
12 มกราคม 2547 16:42 น.
หมอกจาง
ขอโทษ..
ที่ฉันทำมันได้แค่นี้
รู้ ไม่พอทดแทนกับความรู้สึกดีดี
รู้ ว่าแค่นี้มันไม่มีความหมาย
เมื่อความรู้สึกที่เคยดีนั้นเปล่าค่า
ต่อให้เหตุผลเท่าดาวทั้งฟ้าก็เปล่าดาย
ยิ่งให้เหตุผล ยิ่งถม ยิ่งจมหาย
เหมือนทิ้งเม็ดทราย ลงเหวที่เงียบงัน..
ตื่นก็เจ็บ ก็เหน็บหนาว
นอน ก็ยังร้าวถึงในฝัน
พยายามเข้าใจตัวเองให้ได้ แต่ว่าใจไม่เคยเท่าทัน
ไม่มีขอบทำนบกั้น ระหว่างไหวหวั่นกับน้ำตา
ขอโทษ..
อย่าโกรธ หากเธอว่าเธอนั้นเศร้ากว่า
ไม่มีใครเข้าใจใคร ความเศร้าแทนไม่ได้ด้วยน้ำตา
เธอเศร้า ฉันเศร้า ใครเศร้ากว่า..
ที่สุด เราก็ต่างเสียน้ำตาด้วยกันทั้งสองคน..
2 มกราคม 2547 12:18 น.
หมอกจาง
โยกเอยโยกเยก..
เอกเขนกนั่งเล่นบนผืนหญ้า
ตั้งคำถามเล่นเล่นกับฟากฟ้า
รอคำตอบตอบกลับมาในแดดใส
โยกเอยโยกเยก
นั่งเอกเขนกในสายลมไหวไกว
สายลมพัดคำตอบโยกไปไหน
เห็นโบกโบยอยู่ไหวไหวให้ไขว่คว้า
โยกเอยโยกเยก
มีคาถาฉันจะเสกให้โยกกว่า
ให้โยกเยกโยกเยกทุกเวลา
เผื่อโยกไปเยกมาจะลืมเธอ
23 ธันวาคม 2546 09:35 น.
หมอกจาง
หนาวไหม
ยามสายลมพัดไกว
ยามหัวใจไหว เหว่ว้า
มาบอก มาเล่า
ไม่ใช่ว่าแค่เหงา แต่เหงากว่า
ไม่ใช่แค่คิดถึง แต่คิดถึงทุกเวลา
ไม่ใช่แค่อยากเห็นหน้า แต่อยากเห็นหน้าทุกนาที
แดดอ่อนตอนเช้าเช้า
สายลมเล่าเรื่องราว แต่เก่าแต่ก่อนนี้
ครั้งดอกไม้ไว้ทีท่า เมื่อสายลมเกี้ยวพาในท่าที
วันนี้ความรักยังล้นปรี่ แต่สิ่งเดียวที่ยังมีคือสายลม
ถามใจ หนาวไหมเล่า
ยามคิดถึงเรื่องเก่าเก่า ปล่อยให้ความเหงาค่อยๆมาทับถม
อยากคิดถึง คิดถึงไป อยากหวั่นไหว ก็ไหวไปตามลม
น้ำค้างอาจหนาวบ้าง ก็จะปล่อยน้ำค้างให้พร่างให้พรม
หัวใจจะขื่นจะขม จะตรอมจะตรม ก็ปล่อยใจ
16 ธันวาคม 2546 11:39 น.
หมอกจาง
ไม่หวั่น ไม่ไหว
หัวใจเป็นเหมือนเศษผ้า
ปลิวไป ตามแต่สายลมพัดพา
ปลิวมา ด้วยสายลมที่พัดไกว
ไม่ไหว ไม่หวั่น
จะมั่นคงอยู่อย่างนั้นได้นานไหม
บอกว่าไม่หวั่น แม้ว่าทางจะยาวไกล
อาจกลับเปลี่ยนเป็นไม่ไหว เมื่อเวลานั้นยาวนาน
ไม่หวั่น ไม่ไหว
ถ้าว่าวคือใจ ที่โยงไว้คือสายป่าน
ยิ่งลมกรรโชกแรง ก็ดึงแรงเพื่อต้านทาน
ที่หลงเหลือจากวันวาน อาจมีเพียงสายป่านที่ไร้ใจ