15 กรกฎาคม 2548 11:14 น.
หมอกจาง
ฉันมองออกนอกหน้าต่าง..เห็นไม้ใหญ่
ยินเสียงใบไม้ไหว..ด้วยดวงตา
และได้กลิ่นกระไอชื้นจากรื้นฝ้า
ที่กระจกหน้าต่างทา ..รอยละออง
ฉันนั่งตรงม้านั่งในกลางสวน
ท่ามกลางอวลไอเย็น...เป็นเมืองหมอง
ทุกทุกสิ่ง สงบงาม ตามครรลอง
ในไอป้องปกคลุม...กลุ่มหมอกบาง
ฉันมองออกนอกหน้าต่างที่กางกั้น
ที่แยก..ฉัน..ลม..ใบไม้ เหมือนไกลห่าง
ไร้รอยต่อสักเพียงน้อยแม้รอยราง
แต่ไอละออง..กลับทอดจางที่หว่างใจ
ฉันนั่งตรงม้านั่งในไอหนาว
ลมโบกพัด ทุกคราว ราวร้าวไหว
แต่ไอหมอกชื้นเย็น เป็นเหตุใด
กลับอุ่นอก อุ่นใจ เมื่อได้เยือน
ไม่อาจแตะ..ไม่อาจต้อง
ไอละอองกลับพรมใจเป็นรอยเปื้อน
แม้ผ่านแดด รุ่งจวบพลบ ไม่ลบเลือน
และไม่เหมือนละอองใดที่แล้วมา
และแม้ไม่อาจสัมผัส...
ความรู้สึกกลับแจ่มชัดราวอยู่เบื้องหน้า
และถึงเหมือนจะเลือนลาง...หากตัดสินทุกอย่าง ด้วยสายตา
แต่ความรู้สึกภายในกลับบอกว่า...ทุกอย่างช่างมีคุณค่า...
...กับใจ...
11 กรกฎาคม 2548 09:55 น.
หมอกจาง
ฉันเอาดอกไม้สวยสวย..ปลูกไว้ที่หน้าบ้าน
หน้าต่างทุกบาน..ก็ล้วนทาสีใหม่
จานดินเผาใบเล็ก..มีอาหารนกใส่อยู่ทุกใบ
ทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้มสดใส..ด้วยถ้อยคำที่แสนดี
แต่เธอรู้ไหม..ผนังข้างในมีภาพแขวน
ที่ใช้น้ำตาหยดแทน..น้ำใสเพื่อละลายสี
เอาความเจ็บปวดเป็นแปรงป้าย..และความเสียใจแทนกรอบตี
แขวนไว้ตรงนั้น..ตรงนี้
ทุกฝาผนังล้วนมีแต่ภาพน้ำตา
อย่าแปลกใจถ้าฉันไม่เชื้อเชิญ
ยามเธอผ่านเดิน หยุดลง ที่ตรงหน้า
ด้วยด้านใน..นั้นไม่ใช่ที่ที่ดวงตา
ของผู้คนที่ผ่านมา..จะแวะชม
ฉันเอาดอกไม้สวยสวยแขวนไว้ที่หน้าบ้าน
แรกหนาวดอกไม้บาน ..บ้านฉันหวานดอกไม้ห่ม
ห่มเอาไว้ ห่อเอาไว้..ให้คนชม
เก็บเจ็บปวด..เก็บขื่นขม..ไว้อาศัย
5 กรกฎาคม 2548 07:33 น.
หมอกจาง
วันนี้เขาว่าเป็นวันร้าย
อาเพศมากมายอาจเกิดขึ้น
เค้าแมวครวญครางมาค่อนคืน
จนฉันเกินฝืนจะข่มตา
หวาดกลัวภัยพิบัติเขาทักทาย
กลัวจะมีเรื่องร้ายร้ายดังเขาว่า
ก็วันนี้คือวันที่จอมมนตรา
ถือกำเนิดเกิดมาบนโลกนี้..
ตื่นมากลับพบแต่ฟ้าใส
ใบไม้ปลิวผีเสื้อไล่จะขับขี่
น้ำค้างจากฟ้าประดามี
ก็สะท้อนแสงสีอยู่วับวาว
ดอกไม้พร้อมใจกันเบ่งบาน
ผึ้งประสานเสียงรับขับไอหนาว
ลูกเป็ด..ต่อแถวเดินกันยืดยาว
กิ๊บกั๊บเหมือนจะเล่าบรรเลงกลอน
ไหนวันนี้เขาว่าเป็นวันร้าย
แต่ฟ้าใสกลับยิ่งใสกว่าวันก่อน
โลกทั้งใบดังพร้อมใจจะอวยพร
แม่มดน้อย..เถิดตื่นนอน มารับคำ ........................ :)
1 กรกฎาคม 2548 12:26 น.
หมอกจาง
ฉันไม่ใช่ผู้ชายที่แสนหวาน
ถ้อยคารมใช่จะปานดั่งน้ำผึ้ง
เพียงอ่านกลอนแล้วอิ่มอาบด้วยซาบซึ้ง
แม้เข้าใจแค่กึ่งหนึ่งจินตนา
หากว่าฉันจะพากเพียรจะร้อยถ้อย
ก็คงเพียงฝากคนคอยเพื่อครวญว่า
ใจที่รุมสุมด้วยรักนั้นหนักหนา
จนเกินเก็บกลั่นมาเป็นบทกลอน
โอ้เอย..เจ้ารักเร่มาเห่ช้า
หรือหลงลืมตาต่อตาเมื่อวันก่อน
ลืมแล้วอกอุ่นใครหนุนนอน
เจ้าหนุนหมอนหรือละมุน กว่าหนุนแขน
หวานที่เขียนเทียบกับใจได้เพียงครึ่ง
หวังให้หวานพอเจ้าซึ้งเป็นมั่นแม่น
หวังสื่อรักสื่อช้ำด้วยคำแทน
ยึดใจเจ้าไว้หนักแน่นเช่นใจเรา
หากว่าฉันจะพากเพียรจะร้อยถ้อย
พร่ำคำพ้อเพราะรอคอยนั้นแผดเผา
ด้วยห่างรักห่างหวานมานานเนา
จึงรักเจ้า.. พ้อเจ้า.. ด้วยวจี
16 มิถุนายน 2548 20:25 น.
หมอกจาง
หากจะมีใครต่อใครเขาหยอกล้อ
เสียงหัวร่อต่อตอบกันสุขสันต์
ฉันขออยู่เพียงไกลไกลไม่แบ่งปัน
เพียงนั่งชมอย่างเงียบงันกับรอยยิ้ม
หากว่าใครต่อใครมีความรัก
เรื่อชมพูกุหลาบปักด้วยเอมอิ่ม
ฉันขอกรายมานั่งรอบที่ขอบริม
มองฟ้าใสกระพริบพริ้มด้วยดาวพราว
ฉันส่งความคิดถึงครึ่งขอบฟ้า
คะนึงหาส่งไปไม่ทิ้งเปล่า
ที่ตรงนั้นกึ่งกลางระหว่างดาว
มีถ้อยคำเธอฝากข่าวตามสัญญา
ใครต่อใครเป็นอย่างไรก็ช่างเขา
แค่ฉันเธอกับเรื่องเล่าต่างปลายฟ้า
เธอเข้าใจ ฉันเข้าใจ แม้ไกลตา
ดังเป็นอยู่และเป็นมา ก็พอแล้ว..