13 ตุลาคม 2547 20:35 น.
หนุ่มเพรียกไพร
เสียเถิดเสียน้ำตาสักให้พอ
อย่ามัวรอเศร้าทุกข์ไม่สุขใส
อย่าทำเป็นหมองเศร้าเมาอาลัย
อย่าทำใจเป็นดั่งใจทรมาน
เมื่อย่อมรักมักทุกมีสุขสม
ใจดวงระทมเพราะรักปมสุดแสน
จากไปแล้วไปไกลไกลสุดแดน
หากแม้นเจอะอย่าพบพากลับมาเลย
อีกครั้งคราความรักมักบินหนี
เหมือนวาจีถ้อยรักอันฉ่ำหวาน
หลอกลวงเล่ห์เพทุบายสนุกสุขสำราญ
ดั่งนิทานเลี้ยงแกะเล่ห์หลอกกัน
ครั้งแรกรักมักพูดบ่อยว่ารัก
สุดห้ามหักรักแท้ไม่แปรผัน
ความรักพี่สุดซึ้งตรึงนิรันต์
รักไม่ผันแปรเปลี่ยนเรียงเป็นสอง
เมื่อรักจางทางยากอันใดเล่า
น้ำตาลเมาอุ้มดืมให้เสียผล
พี่จากหนีไม่รักแล้วน่ามล
นี่หรือคนว่ารักแท้แน่นิรันต์
13 ตุลาคม 2547 18:10 น.
หนุ่มเพรียกไพร
เพรียกไพรพร้องร้องก้องเรียกเสียง
ส่งสำเนียงแจ้วจาไพน่าหวาน
ส่งความสุขไปทั่งให้สำราญ
ร้องเป็นเพลงขับขานกล่อมลำเนา
ไพรนภาฟ้ากว้างร่วงใบไม้
หล่นลงหายปลิวไปกับสายฝน
โอวาสนาเป็นแค่ดั่งสายลม
ไม่มีผลปลิวหายร่างจางไป
เปรียบความรักค่ำคืนฝันละเมอ
เห็นหน้าเธอไม่จืดจางบางไปไหน
รักแรกเริ่มเมื่อวันศุกร์เป็นสุขใจ
ไม่ทันไรสามวันรักกลมเกลียว
เป็นดั่งเชื้อติดไปลุกลามไหม้
เร็วดังใจเบนซินติดไหม้ขอน
อันความรักแบบนี้เป็นสื่อซ้อน
รักปอนปอนแบบว่าหรือได้นาน
13 ตุลาคม 2547 17:52 น.
หนุ่มเพรียกไพร
เจ็บอีกคราครั้งนั้ดั่งประหาร
ใจสุดเจ็บแสบร้อนรนทรมาน
ดั่งประหารข้าเสียจนชีพวาย
โอนวลน้องเยาว์วัย
ช่างกระทำได้นี่กระไร
ใจหนอใจสั่งฆ่าจริงเสียเถิดไม่
ดีกว่าปล่อยให้ทรมาน
ครั้งสองอีกหน ไหนเล่าพี่ต้องทนน้องยา
แยกเสียดีกว่า
อย่าพบกันอีกเลย......น้องแก้ว
9 ตุลาคม 2547 10:48 น.
หนุ่มเพรียกไพร
ยืนยิ้มแย้ม...แอบฝาพาตาดู
มือไม่อยู่เกาะป่ายลายข้างฝา
หลุบโผล่มองเข้าออกอยู่เป็นครา
เพ่งสายตามองดูอยู่ผู้เดียว
หัวใจเต้นระรั่วดั่งกลองเต้น
สิ่งที่เห็นสวยสดงดงามไฉน
มีรูปร่างอ่อนบางร่างสมวัย
นึกในใจอยากเข้าไปใกล้ดู
ส่งเจรจาน่าฟังเสียงไพเราะ
ช่างเหมาะเจาะริมผิวงดงามเหลือ
แม่อนงค์เอวบางสาวนาเกลือ
โปรดเอื้อเฟื้อเผื่อใจให้ข้าบ้าง
8 ตุลาคม 2547 11:40 น.
หนุ่มเพรียกไพร
ฤตวสันต์รำพันพฤกษา
หมู่น้อยเมฆาคล้อยเคลื่อนล่องลอย
เหมันต์สันตฤดูครองอยู่ใจหมาย
อุ่นเนื้อหนาวกายใจหมายฝัน
ลมหนาวเลื่อยเฉื่อยผิวแผ่วลมสบัด
ลมโชกโบกพัดใบร่วงปลิวไสว
แสงแดดบดบังความอุ่นจางไป
เหลือแต่อุ่นให้กายอุ่นร่างจางลง