23 มกราคม 2552 00:13 น.
หนุ่มอุบล
@ ฉันจะผลิดอกแย้ม.....ผลิบาน
อวดกลีบอวดใบก้าน.....กลีบเลี้ยง
อวดเกษรอวดบาน.........จวบจรด เช้า-บ่าย
อวดเบ่งเบื้องต่ำเพี้ยง.....จรดฟ้านภาดาว
@ ถึงคราวสิ้นอวดแล้ว...ร่วงโรย
ดอกกลีบเกษรโปรย........ร่วงร้าง
เหลือเพียงตอก้านโชย..... ลมพัด พายโบก
สิ้นกลิ่นสิ้นอวดอ้าง.........สู่พื้นแดนดง
@ คงบ่แตกต่างแท้.......... มนุษย์เรา
เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย-เนา........แน่นิ่ง
แรกรุ่นละมุนเฉลา............ พริ้งเพริศ
นานเหี่ยวหย่อนยานยิ่ง......ยากยื้อหยัดดึง
@ ถึงที่สุดบ่หลีกพ้น........อนิจจัง
ตึงเหี่ยวหย่อนยับพัง.........สืบต้น
นิ่งแน่นิพพานัง.............แท้เที่ยง แท้นา
เพียรก่อช่อบุญพ้น..........ชดใช้ชดเชยกรรม
22 มกราคม 2552 01:02 น.
หนุ่มอุบล
@ ณ...ห้องแคบกลางพนาป่าคอนกรีด
จรดลงบรรจงรีดกรีดคลังเก่า
ที่สะสมสั่งสมโคมคำเรา
มาร้อยเรียงเรื่องราวไซร้ใน เมืองกรุง
@ นับเพลากว่าเดือนที่เคลื่อนคล้อย
ฉันนั่งหงอยคอยนับพับเก็บถุง
ที่ฉันหิ้วถือจากร้านค้าของป้าลุง
ที่จากทุ่งมุ่งเมืองฟ้ามาหาเงิน
@ มาขายลาบส้มตำตำแซบแซบ!
ร้องเสียงแหบแสบหูผู้ผ่านเผิน
เสียงจากจิตของลุงป้าว่าเชื้อเชิญ
แม่จำรักพ่อจำเริญเชิญเข้ามา
@ กลิ่นปลาแดกไหเก่าเย้าหยอกแหย่
มิผันแปรยังกลิ่นเดิมเพิ่มยิ่งกว่า
คอยเล่าเรื่องเมืองอิสานผ่าน ป.ปลา
ที่เขาหมักด้วยอุราปลาร้าใจ
@ ดั่งหยาดทิพย์หยดฟ้ามาพรมโอถส์
ผัสสะโสตสุขจุติปรีดิ์เปรมใฝ่
เป็นกำลังขับอัตตาพาพุ่งไป
สู่โลกอันสิวิไลส์ใน เมืองกรุง