9 กรกฎาคม 2546 09:10 น.
หนึ่งเดียวคนนี้
ทรนงนักไม่ใช่เหรอ
เชิดหน้าเดินสิเธออย่างห้าวหาญ
ทำไมทำท่าทรมาน
ก้มหัวซมซานผ่านฉันไป
ไม่สงสารอีกแล้วนะ
เธอต้องการอิสระฉันก็ให้
ทำตามความประสงค์ของเธอแล้วไง
แล้วจะเอารอยอาลัยที่ไหนกัน
ไปเถอะไปดีดี
อย่าได้มีน้ำหน้ามาหาฉัน
ไปเลยไปไขว่คว้าจากคนอื่นหมื่นพัน
ใครทนเธอได้เท่าฉัน...จะคอยดู
9 กรกฎาคม 2546 09:06 น.
หนึ่งเดียวคนนี้
อย่าไปเห็นดีกว่า
แค่นี้ก็ปวดปร่าแทบทนไม่ไหว
ยิ่งรู้ก็ยิ่งเจ็บใจ
อยู่คนเดียวดีกว่าไหมเดี๋ยวเรื่องก็ซา
ไปเห็นภาพอย่างนั้น
อดกลั้นได้หรือสิ่งที่มันหนักหนา
อยู่อย่างนี้ดีแล้วอย่างเก่งก็เสียน้ำตา
ไม่ต้องทนฝืนกับช่วงเวลา
ที่เขาจะเอาคนใหม่กว่ามาแนะนำ
9 กรกฎาคม 2546 09:02 น.
หนึ่งเดียวคนนี้
ให้ความหวังกันมากไปหรือเปล่า
ถึงมาเติมฝันให้วันเวลาอย่างนี้
เห็นเธอทำแล้วใจคอไม่ค่อยดี
ความรู้สึกทั้งหลายแหล่ที่มีอย่าให้เกินเลยไป
เพราะความที่เป็นคนหัวอ่อน
ตะขิดตะขวงใจแน่นอนกับความเอ็นดูที่ให้
ก็ไม่รู้ว่าจริง ๆแล้วเธอคิดอะไร
จะถามเองตอบเองได้ไงเข้าข้างตัวเองจนเกิน
ไม่อยากเป็นผู้ฝันข้างเดียว
หากว่าแท้จริงเธอต้องการข้องเกี่ยวแค่เพียงผิวเผิน
ทุก ๆอย่างที่ประจวบเหมาะนั่นเพราะบังเอิญ
ความรู้สึกที่คิดว่ารักเหลือเกินคือน้ำใจ
8 กรกฎาคม 2546 08:55 น.
หนึ่งเดียวคนนี้
เธอถามหาฉัน
ในขณะที่โอบผู้หญิงคนนั้นในวงแขน
เห็นฉันเป็นอะไร..ตัวตาย..ตัวแทน
หรือเป็นแค่แฟนแสตนอิน
อยากให้ฉันยิ้มรับปราปปลื้มใจ
กับผู้หญิงหน้าใหม่ไปเสียสิ้น
ฉันมันคนมีจิตใจไม่ด้านชิน
ตำแหน่งแฟนแสตนอินไม่ต้องการ
8 กรกฎาคม 2546 08:50 น.
หนึ่งเดียวคนนี้
จะร้อนตัวไปทำไม
หรือตกใจที่ฉันหยาบคายอย่างนี้
บอกแล้วใช่ไหมฉันไม่ใช่คนดี
และนับถือศักดิ์ศรีของตัวเอง
เกลียดอะไรก็บอกตรง ๆ
ไม่ได้ลุ่มหลงว่าตัวเก่ง
คำพูดคำจาเป็นนักเลง
พูดจริงไม่ต้องเกรงใจใคร
รู้ถึงกาละเทศะ
รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะพูดได้
รู้ว่าควรใช้คำประเภทไหนกับใคร
ไม่ต้องตกใจถ้าฉันจะใช้คำหยาบคายกับเธอ