2 ธันวาคม 2544 17:02 น.
หนึ่งนก ฤดูหนาว
พนมขุนเขาเนารอบ
เขตขอบไพรใหญ่เล่าขาน
เมฆริ้วปลิวไหวละลาน
ล้วนบานดอกคลื่นตื่นฟ้า
บนดอยดอกเอื้องเยื้องเย้ย
อาบเหมยห่มน้ำกลางป่า
อวดสีอวดสันนานา
ต้องมาเห็นด้วยตาตน
ดอกเอื้องไม่บานบนดิน
โสภิณพิศกลางไพรสนฑ์
บนดอยปอยเมฆลอยวน
เอื้องเหนืองามจนล่ำลือ
มือใครต่างหมายเด็ดดม
กลีบซมเพราะยื้อมาถือ
ผีเสื้อป่าล้ากระพือ
เสาะรื้อไม่พบเอื้องบาน
ถูกคนเขาคว้าไปครอง
ไม่เหลือรวงทองกรองม่าน
ไร้กลิ่นถวิลพิมาน
ช่อหวานบ่เหลือเผื่อเลย
น้ำตาร่วงร้างกลางป่า
บุปผาแล้งทางร่างเผย
คุณค่าที่เคยเปรียบเปรย
งอกเงยอยู่ ณ ที่ใดฯ
2 ธันวาคม 2544 16:33 น.
หนึ่งนก ฤดูหนาว
คืนค่ำย่ำย่างเกือบสางรุ่ง
เรืองรุ้งพาดทิวริ้ววะวับ
รวีรอเช้าเข้าประดับ
ฟ้าระยับกลับสีอาภรณ์
คิดถึงตรึงจิตมิคิดสร่าง
ค่ำคืนยันสว่างมิถอดถอน
ห่วงหาอาลัยใจอาวรณ์
แต่งกลอนถึงเช้าเฝ้ารำพัน
ตะวันแต้มสีโลกสวยสด
งามงดดังภาพในห้วงฝัน
ผีเสื้อน้อยพร้อยคล้ายตะวัน
แต้มแต่งสีส้มนั้นจุดลาย
เหลืองเหลืองเยื้องกลีบกุหลาบขาว
พราวพราววาววับน้ำค้างสาย
ลดลั่นใบบังระบำว่าย
เวิ้งลมระบัดย้ายเรียวเรียง
ฟ้าหาวหมดดาวแล้ว แก้วตะวัน
เฉิดฉันท์ฉายแดดกับเฉลียง
นกน้อยคู่นั้นพลันบินเคียง
ฉันเพียงสุขใจได้ .. เท่านี้..
2 ธันวาคม 2544 16:19 น.
หนึ่งนก ฤดูหนาว
เทือกเขา เข้าล้อม อ้อมอกฟ้า
ทาบทา แลรูป จูบแผ่นหิน
กรอบกั้น คั่นเขต ของนาวิน
นกถิ่น เท่านั้น จะสัญจร
เขตเขา เหล่าล้อม อ้อมอกอกฟ้า
แดดพา เพียงพาย สายลมอ่อน
ไหวไหว ระยับ จับแสงรอน
ในห้วง อาทร สงบเย็น
ไร้คลื่น ตื่นซัด พัดกระหน่ำ
เก็บงำ เงียบง่าย ไม่ให้เห็น
ใต้น้ำ เชี่ยวธาร ผ่านลำเค็ญ
ซ่อนเร้น รอยแผล แห่งฤดู
หนีมา อ่อนล้า จากชายฝั่ง
ผุพัง ความหวัง ทั้งอดสู
เศษซาก ฝากฝัง กระทั่งปู
ขยะอยู่ เรียงราย บนทรายทอง
ขวดแก้ว แนวร้าว คราวทิ้งทอด
อวดยอด บิ่นคม ข่มทั้งผอง
เด็กวิ่ง เล่นไล่ ไม่เคยมอง
ซิลอง เหยียบย่ำ กระหน่ำคม
หญ้าทะเล ปาการัง ฝั่งสมุทร
เสื่อมทรุด รากเน่า คราวเหง้าล่ม
ใครฤา บอดใบ้ ใจโสมม
เทถม วิสัย ใส่ทะเล!
1 ธันวาคม 2544 05:16 น.
หนึ่งนก ฤดูหนาว
ในกระถางดินเล็กเล็ก
ฉันยังเด็กนัก
พ่อสอนให้รู้จัก
การฟูมฟัก ต้นกล้าต้นน้อย
พ่อบอกฉันว่า
ต้องรดน้ำอย่างค่อยค่อย
และต้องอดทนรอคอย
จะเห็นร่องรอยของการเปลี่ยนแปลง
มันเป็นไปอย่างเชื่องช้า
ตุ่มตาผลิใบแผ่แขนง
หญ้ากลุ่มหนึ่ง ..กลับสูงแซง
บังแสง ต้นกล้าที่บอบบาง
พ่อบอกว่า ในพื้นที่ อันน้อยนิด
อาจมีหลายชีวิตในกระถาง
ไส้เดือนตัวหนึ่งอาจอำพลาง
มดบางตัวจะเดินทางผ่านมา
ในพื้นที่ของการเติบโตแห่งนี้
เราต้องรู้วิธีการรักษา
ให้ต้นกล้าเติบโตเต็มกล้า
และหญ้าคือปัญหาสำหรับเรา
ขณะที่ฉันสอบเลื่อนชั้น
พ่อย้ายมันออกจากระถางใบเก่า
ต้นกล้าเติบใหญ่ให้ร่มเงา
นานวันเข้ามันก็สูงเกือบถึงหลังคา
คนผ่านมาไปมาหน้าบ้าน
ดอกหอมบานรอท่า
อวดความงดงามอยู่เต็มตา
ยืดหยัดศรัทธาอยู่เต็มตน
1 ธันวาคม 2544 05:02 น.
หนึ่งนก ฤดูหนาว
ฝากลมหนาวกราวเกรียวส่งเสี้ยวจันทร์
ย่างเหมันต์ ดอกหญ้าระย้าไหว
คืนแสงนวลครวญเพลงผะแผ่วใจ
กังวานในความฝันนิรันดร
น้ำค้างพรมลมขับสดับเสียง
ยังเฝ้าเรียงคำขานวานออดอ้อน
สหายเราเนาไหนยังไม่นอน
คงแต่งกลอนดอกไม้ไว้แด่เช้า
เพราะคิดถึง ซึ่งผีเสื้อ ยามเรื่อรุ่ง
จะร่อนรุ้งเฉิดฉายคลายความเหงา
รอคล้องขวัญน้ำค้างกลางแดดเบา
ประดับเงาใบพฤกษ์ผลึกประกาย
อีกไม่นานวานเดือนโปรดเคลื่อนแข
ระวีแลลิบฟ้าอาภาฉาย
สหายตื่น ตามแดดที่แผดราย
กลิ่นกำจายดอกหอมก็พร้อมบาน
คิดเหมือนกันนั่นไหมในโลกนี้
หนึ่งกวี หนึ่งวรรคที่จักขาน
ก็เปี่ยมหวังไม่สิ้นในวิญญาณ
จินตนาการเพาะบ่มลมหายใจฯ