2 มีนาคม 2548 22:10 น.
ส้มเกลี้ยง
หากจะมีผู้ใดในโลกนี้
ทุกข์เหลือที่หยัดยืนอยู่ต่อไหว
หากจะมีผู้ทุกข์ยากคนใด
ล้มลงไปเพราะคิดท้อถอย
ให้ย้อนมองที่เขาเหล่านั้น
ไม่มีเงินสักพันหรือสักร้อย
ไม่มีบ้านอาศัยของใช้สอย
ไม่มีคนคอยหยิบยื่นซึ่งสิ่งใด
เช่นไรจึงเรียกว่าเป็นคน
เพียงอยู่ในสังคมชนชั้นได้
หรืออยู่ในโลกได้ต่อไป
ด้วยแรงกายแรงใจที่ตนมี
ทุกชีวิตต่างดิ้นรนไขว่คว้า
หาคุณค่าให้กับชีวิตนี้
ต่างเป็นไปด้วยอุบายวิธี
มองดูค่าชีวิตนี้ให้ชัดจริง
๒ มีนาคม ๒๕๔๘
2 มีนาคม 2548 21:38 น.
ส้มเกลี้ยง
เหมือนโลกไร้แสงจันทร์ในคืนมืด
เหมือนทะเลจืดชืดกว่าน้ำบ่อ
เหมือนความเย็นของสายลมคงไม่พอ
บางครั้งท้อเหลือทนจนปัญญา
ทุกๆวันยันบ่ายคล้ายจมทุกข์
หรือโลกนี้หาสุขได้ดังปรารถนา
ต้องเจอคนมากหน้าหลายตา
ผ่านเข้ามากับเรื่องราวเสียดร้าวทรวง
หากต้องยืนอยู่เพียงตัวคนเดียว
ไม่มีใครแลเหลียวแลติดบ่วง
เขาดักสัตว์ทิ้งเนื้อเป็นเหยื่อลวง
คอยลอดบ่วงหลบลี้หนีให้ทัน
เราหรือกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
อยากสำรอกกลับฝืนกลืนกลับพลัน
ทนเอาไว้คงมีซึ่งสักวัน
กลับหลังหันสู่ทางสว่างใจ
๒ มีนาคม ๒๕๔๘
1 มีนาคม 2548 08:55 น.
ส้มเกลี้ยง
เงินทองนั้นเป็นสินทรัพย์หนักเหลือแสน
ยิ่งหวงแหนยิ่งทุกข์ซ้ำระกำหนัก
หากมีไว้พอใช้เราเบาใจนัก
มีมากเหมือนดังชนักติดหลังหมา
ความดีงามนั้นเบาบางเหมือนปุยนุ่น
ไม่มีทุนก็ทำได้ดังปรารถนา
ไม่ต้องคิดกำไรมีที่ได้มา
เบากายาเบาหัวใจไร้กังวล
มาร่วมกันมาแบ่งสรรปันความดี
ตามกำลังที่ตนมีจะเกิดผล
มีกำลังกายหรือสินทรัพย์อยู่มากล้น
สำนึกตนอุทิศตัวอย่ากลัวเกรง
๑ มีนาคม ๒๕๔๘