28 กุมภาพันธ์ 2548 11:40 น.
ส้มเกลี้ยง
มุ่งไปที่สุดปลายฟ้ากว้าง
แม้หนทางยังไกลใจไม่หวั่น
หากมีแรงลุกได้จะฝ่าฟัน
จวบถึงวันหน้ากลบฝังยังผืนดิน
มุ่งหน้า..มุ่งหน้าสู้อยู่ต่อไป
สู้สิ่งใดใดให้กิเลสสิ้น
ทิ้งของหนักออกไปใจโบยบิน
สู้แดนดินสงบสิ้นซึ่งห่วงใด
๒๘ กุมภพันธ์ ๒๕๔๘
26 กุมภาพันธ์ 2548 06:42 น.
ส้มเกลี้ยง
เพียงหนึ่งเมล็ดที่หลุดร่วง
จากเรียวรวงสู่พื้นดินถิ่นเหมาะสม
ก็เติบใหญ่ให้กล้างามมาเชยชม
แล้วทอรวงลู่ลมคงพันธุ์มา
จงปลูกความงามนี้ไว้ในใจเจ้า
เหมือนปลูกข้าวเติบใหญ่ได้หุงหา
เป็นกำลังกับทุกชนคณนา
ให้หันมาเพาะไว้ในใจตน
๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘
26 กุมภาพันธ์ 2548 01:02 น.
ส้มเกลี้ยง
น้ำนิ่งใสใช่ไร้ซึ่งหมู่ปลา
บนฟากฟ้ากว้างใหญ่ใช่ไร้นก
ในป่าใหญ่ใช่ไร้ซึ่งสัตว์บก
ไม่ร้างรกใช่ไร้ใครสิงสู่
น้ำเหือดหายปลาตายเต็มฝั่ง
นกร้างรังฟ้าหม่นคนหดหู่
ป่าห่างหายสัตว์ตายกันน่าดู
จึงได้รู้หมั่นดูสิ่งนิ่งในใจ
๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘
25 กุมภาพันธ์ 2548 13:00 น.
ส้มเกลี้ยง
แล้งลมโลมไล้ใบข้าวเขียว
แล้งเคียวเก็บเกี่ยวรวงข้าว
แล้งฝนจากฟ้ามาบรรเทา
แล้งเตาติดไฟหุงให้กิน
แผ่นดินเมืองไทยในวันนี้
ต่างคนต่างมีหนี้สิน
สิ้นไร้ที่ดินทำกิน
สิ้นกลิ่นไฟฟืนสุมฟาง
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘
24 กุมภาพันธ์ 2548 17:13 น.
ส้มเกลี้ยง
ลับลับลิ่วโลมไล้ใบข้าวเขียว
เอนต้นเหนี่ยวโน้มไหวไล่ระดับ
สุดสายตาคงคุณค่าคณานัป
เกี่ยวรวงดับโหยหิวให้ได้คืนแรง
วันคืน..วันคืนล่วงเลยผ่าน
ลมแล้งพานพัดข้าวเขียวให้เหี่ยวแห้ง
นารกร้างข้าวล้มคนสิ้นแรง
ดินระแหงแล้งน้ำกินทิ้งถิ่นไป
นกน้อยบินล่องลอยคอยโชค
ยามลมใต้พัดโบกจะกลับไป
คิดถึงนามีข้าวปลาแลน้ำใส
คิดถึงไอดินถิ่นเก่าเราเคยนอน
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘