19 พฤษภาคม 2548 22:36 น.
ส้มเกลี้ยง
เราจึงต้องใจเย็นจริงยิ่งกว่าน้ำ
เขาว่าความร้ายป้ายสีไม่มีหมอง
เป็นน้ำใสที่ใครใครใคร่ลิ้มลอง
กำจัดโคลนขุ่นหมองนองในใจ
ยิ่งโลกร้อนแล้งฝนคนทุกข์ยาก
ร้อนรักโลภโกรธมากยากแก้ไข
รอสายฝนชะล้างชะโลมใจ
ฝนสายใดจะล้างภัยในอารมณ์
๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๘
8 เมษายน 2548 23:40 น.
ส้มเกลี้ยง
หมู่ดอกไม้หลากหลายสีสัน
เบ่งบานรับแสงตะวันอันแรงกล้า
เป็นความหวังให้ใจสู้อยู่ทุกครา
ร้อนหนักหนาอย่ามัวล้าล่าถอยไป
ยามกลีบบางลาร้างโรยลับ
ก็ถึงคราวฝนกลับคืนผืนดินใหม่
ที่ทุกข์ทนคงได้พ้นผ่านมันไป
คืนความเขียวสดใสให้ผืนดิน
๘ เมษายน ๒๕๔๘
8 เมษายน 2548 23:28 น.
ส้มเกลี้ยง
ดอกคูณงามยังเบ่งบานรับไอร้อน
ช่วยผลัดผ่อนร้อนลมแล้งให้เลือนหาย
แล้งน้ำฝนหลั่งน้ำใสรดใจกาย
ไม่ห่างหายทิ้งผู้เฒ่าเฝ้าท้องนา
ย้อนกลับถิ่นเคยอยู่อู่เคยไกว
น้ำอบไทยยังหอบคลุ้งฟุ้งเมษา
หลั่งน้ำรดผู้เฒ่าแก่แลดูมา
ชื่นกายาชุ่มอุราพาเบิกบาน
๘ เมษายน ๒๕๔๘
7 เมษายน 2548 23:54 น.
ส้มเกลี้ยง
อบไอแดดแผดเผาข้าวต้นน้อย
ยืนต้นคอยฝนหลั่งรินเลี้ยงต้นใหญ่
คอยนับวันนับเดือนเลื่อนผ่านไป
ก็สิ้นใจทิ้งใบแห้งแล้งเหลือทน
คงถึงคราววัวควายตายคาคอก
คิดถึงดอกหญ้าหวิวไหวในไอฝน
บัดนี้เหลือเพียงความหลังต้องจำทน
กินฟางป่นกระดูกโปนไม่พ้นตาย
๗ เมษายน ๒๕๔๘
7 เมษายน 2548 23:50 น.
ส้มเกลี้ยง
ค่ำคืนมืดสนิท
ใจคนยิ่งมัวมิด
มีแสงดาวแต่มองไม่เห็น
หรือผู้คนไร้ซึ่งดวงตา
ผู้ไร้ตากลับมองหาแสงงาม
ผู้มีตากลับแสวงหาความมืดมิด
แสงงามไยต่างกับความมิดมืด
ไม่มีแสง..ไม่มีมืด..มีแต่ตัวตน
๗ เมษายน ๒๕๔๘