27 สิงหาคม 2551 14:55 น.
ส่องหล้า
วูบสายลมพลิ้วไหวใจสัมผัส
หอมเสน่ห์โหมพัดจรุงรื่น
ผะผ่าวลมห่มหนาวรุกเร้ากลืน
วังเวงแว่วกลางคลื่นเสน่ห์ครวญ
ระลอกคลื่นรำลึกเร่งรุกเร้า
วาดระบายรูปเงาคะนึงหวน
ธาราร่ำเริงทรายใฝ่รัญจวน
จิตรำพันปั่นป่วนคะนึงแปร
นิ่มนวลเนียนเนื้อทรายระบายแสง
สลับมืดจำแลงแฝงดวงแข
เข้าซ่อนเมฆเมฆหม่นชำเรืองแล
ความนิ่มนวลดิ่งแดฤดีดล
ละเอียดพราวขาวนิ่มอิ่มนวลเนื้อ
ระอุอุ่นโอบเอื้อเผื่อแผ่หน
โหมวาโยโลมเร้าเป่าเล่ห์กล
เหมือนต้องมนต์อุ่นแฝงแห่งพื้นทราย
มืดพายัพเมฆใหญ่เข้าใกล้โลก
ฝนจึงหลั่งเปียกโชกดับกระหาย
โหมเตโชเร่งเร้าเป่าเปลวไฟ
ท้นอุทกกลับหลั่งไหลกลางไฟลน
หวานละมุนอุ่นละไมท่ามทรายสวย
อ่อนระทวย ท่ามฟ้านิทราหน
สนิทแนบแทบเป็นทรายในบัดดล
มิรู้ฉ่ำกี่น้ำฝนจะสร่างซา
วูบสำนึกต้องกายไหวสำนึก
หม่นมืดดำดื่มดึกเสน่หา
พื้นที่ย่ำน้ำกับทรายในเวลา
กิเลสล้ำพร่ำมนตรามิรู้คลาย