21 กรกฎาคม 2550 09:07 น.
ส่องหล้า
ออกเสียงอ่านดังดัง
พ่ออยากฟังเสียงชัดชัด
ก.ไก่ไม่จำกัด
ข.ไข่หัดให้ชัดเจน
ม.ม้ามันคึกคัก
ย.ยักษ์ใหญ่มองไม่เห็น
ห.หีบซุกซ่อนเร้น
ฮ.นกฮูกทำตาโต
นับเลขหนึ่งถึงร้อย
นับบ่อยบ่อยเลขเป็นโหล
ลองบวกลบเลขโชว์
จากหลักหน่วยถึงหลักพัน
นับนกบนต้นไม้
ผลที่ได้เป็นผลพันธุ์
นกบินจากต้นนั้น
ไปต้นโน้นมีเท่าไร
ต้นไม้ใบเขียวเขียว
ยืนต้นเปลี่ยวเติบโตไว
พ่อปลูกเพื่อลูกไม้
พรวนดินให้ใส่ปุ๋ยงาม
เป็นร่มกิ่งสาขา
แผ่คลุมฟ้ากันแดดข้าม
ร่มไม้เย็นทุกยาม
ใต้ร่มรู้ดูตำรา.
อ่านดังเริ่มฟังชัด
ร.เรือพัดพายวาจา
ใต้ร่มเงาพฤกษา
(ลูก) อ่านให้ฟัง (พ่อ)ทำให้ดู
18 กรกฎาคม 2550 09:59 น.
ส่องหล้า
ฝนเดือนสิบสอง น้ำนองท่วมฟ้า
หนาวดวงดารา เมื่อฟ้าหลั่งนอง
ทั้งฝนทั้งหนาว เมื่อคราวหม่นหมอง
เหม่อน้ำตานอง ท่วมฤดูกาล
เปียกปอนถึงใจ ท่วมในทรวงอก
หนาวสั่นงันงก หัวอกสะท้าน
รินรินร่ำร่ำ ตอกย้ำดวงมาน
ฝนพรมบ่มกาล หวาดหวั่นหัวใจ
ยามแล้งโรยลา ฝนฟ้าไม่ต้อง
เกิดหนาวในห้อง- -ใจพรั่นหวั่นไหว
ถามฟ้าถามดาว ถามเดือนหนาวใด
บอกยามเดือนไกล หนาวในน้ำค้าง
ถึงเช้าหนาวเหน็บ แอบเก็บอ้างว้าง
ดอกหญ้าบอกทาง น้ำค้างจางหนาว
สู่ตะวันกล้า ท้องฟ้าสุกพราว
ฤดูเหยียดยาว รอเข้าไขว่คว้า
แสงแดดแผดเผา อับเฉาโรยรา
ร่องรอยบนฟ้า เกรอะน้ำตาใคร...
12 กรกฎาคม 2550 09:09 น.
ส่องหล้า
เฮา...ปลูกมะละกอ
บ่มีหน่อมีแต่ต้น
งามหลายจนได้ผล
ช่างแซบ-รำ ตำบักหุ่ง
เขาปลูกต้นกล้วยหอม
หวังดมดอมส่งกลิ่นฟุ้ง
ปลูกไว้ในเมืองกรุง
หวังเจือจารคนบ้านนา
เขาว่ากล้วยหอมดี
เพราะมากมีด้วยคุณค่า
วิตามินสมราคา
ลูกยังเขียวเที่ยวมาคุย
จ้ำกินกับข้าวเหนียว
ไม่ต้องเคี้ยวเนื้อมันยุ่ย
ปอกเปลือกเนื้อปุกปุย
ป้อนเข้าปาไม่ยากเย็น
เลิกกินมะละกอ
ขุดฝังหน่อกล้วยให้เห็น
บักหุ่งไม่จำเป็น
โค่นให้เหี้ยนเตียนแผ่นดิน
บักหุ่งเอิ้นปลาร้า
เอ็งขาดข้าคงดับดิ้น
เคยคลุกเคยจ้ำกิน
ปลาร้ากับมะละกอ
บักหำกล้วยหอมเจ้า
กลืนไม่เข้ามันคล้ำคอ
เอาคืนไปเถอะพ่อ
เอาบ่ฮากินบ่รำ
() กินกล้วยบัดเดี๋ยวนี้
() บ่ดีเฮาอยากกินส้มตำ
() กินซะแค่หนึ่งคำ
() กินบ่ได้แม้คำเดียว
() อ้าปากบัดเดี๋ยวนี้
() บ่ดีเฮาย่านเขี้ยว
กล้วยหอมเอ็งมันเปรี้ยว
กล้วยเทียมเทียมเฮา....บ่ทาน
4 กรกฎาคม 2550 17:35 น.
ส่องหล้า
ที่ตำบลเรือใบยังไถนา
มีฝูงควายข้าวกล้างามไสว
มีชาวนาทำนาด้วยหัวใจ
แม้เหนื่อยหนักเพียงไรก็อดทน
มีแรงกายเป็นทุนในหุ้นส่วน
มีน้ำท่าครบถ้วนประจำหน
ปราชญ์ชาวบ้านเป็นหลักของตำบล
มีความสุขเปี่ยมล้นมาเนิ่นนาน
มาถึงยุคทุนนิยมขย่มขยับ
โยนความอยากระยับเข้าลุกหาญ
ก่อเป็นทุนหุ้นใหม่รุกไล่กาล
เป็นหนี้สินเบอะบานรกรุงรัง
จึ่งพักหนีรีรอเพื่อต่อหนี้
ขอเงินทุนเศรษฐีมาต่อหวัง
หวังเงินทุนหุ้นเขื่องเปรื่องกำลัง
วาดประโยชน์ไหลหลั่งสู่คนจน
สร้างฝีมือมากมายหวังขายค้า
ขอตีตรา OTOP ไว้กอบผล
คิดเกินฝันฟูเฟื่องเปรื่องตำบล
สร้างประดิษฐ์คิดค้นด้วยหัวใจ
ไม่ใช่คิดพอเพียงหล่อเลี้ยงชีพ
ทุนนิยมบุกบีบบี้สมัย
จากดั้งเดิมเดินฝ่ามาแสนไกล
เกินกว่าเมืองเรือใบจะพอเพียง
หนึ่งตำบลเรือใบขอขายขาด
ทรัพยากรอำนาจและชื่อเสียง
ปราชญ์ชาวบ้านภูมิปัญญามาวางเรียง
ขายให้เกลี้ยงแม้หัวใจให้เป็นทุน
คนจะซื้อมีหรือไม่ใครจะซื้อ
ประชาชนซื่อซื่อจะขายหุ้น
ล้วนของดีมีหัวใจให้เกินดุล
ไม่ใช่หุ้นฟุตบอลไว้ป้อนตีน....