20 มิถุนายน 2550 10:56 น.

ขอยืมรถถัง

ส่องหล้า

ชาวนาไถ่นาอย่างอ่อนแรง
วัวควายไส้แห้งไม่มีหญ้า
ควายเหล็กจอดรถหมดปัญญา
น้ำมันราคามันแพง

วิทยุประกาศเล่าข่าว
งามสพรั่งกว่าดาวที่กร้าวแกร่ง
ทหารรุ่นใหญ่ยังไฟแรง
มีตำแหน่งใหญ่โตมหึมา

คลื่นติดติดขัดขัดเพราะผ่านทุ่ง
ติดกอผักบุ้งติดกอหญ้า
กองทัพเป็นของปวงประชา
มีเพื่อไพร่ฟ้าประชาไทย.

ควายทุยหมดแรงต้องแกงเนื้อ
ดื้อดึงมันเบื่อไม่อยากไถ
รถถังเองว่างหรืออย่างไร
ขอยืมได้หรือไม่มาไถนา

เองเกณฑ์ลูกหลานข้าไป
เดิมมันจับหางไถ่อยู่บ้านข้า
เอาไปเฝ้าถนนที่เมืองฟ้า
เสียดายเวลาหากิน

ข้าหมดแรงแล้วทหารเอ๋ย
ขืนมั่วอยู่เฉยข้าคงสิ้น
นาก็ร้างควายก็ร้างทั้งแผ่นดิน
ข้าจะขอทำกินแต่พอเพียง


ข้าขอเช่ารถถังก่อนก็ได้
เดี๋ยวจะยอมคืนให้ไม่หลีกเลี่ยง
แค่ฝนเดียวอย่าทำเป็นลำเอียง
ข้าก็เป็นหนึ่งเสียงของประชา ฯ				
19 มิถุนายน 2550 10:51 น.

ดวงดาวเดียวดาย

ส่องหล้า

ค่ำคืนหนาวดาวเดือนลอยเกลื่อนฟ้า
ท้องนภาพร่างพราวดาวชีวิต
อบอุ่นใดจักหวังดังลิขิต
นฤมิตความสุขทุกค่ำคืน....

มาจากถิ่นแดนไกลถึงใต้สุด
ท่ามกลางการสัประยุทธ์และขัดขืน
เสียงระเบิดห่ำหั่นกลิ่นควันปืน
ดาวหลายดวงล้มครืนสละพลี

ต่างภาษาสำเนียงธรรมเนียมชน
แต่มีรักเปี่ยมล้นด้วยศักดิ์ศรี
ต่างหวังสุขสงบพบไมตรี
ไฉนหลั่งเลือดพลีไปด้วยกัน

ใต้ร่มเงาบุหงาปัตตานี
ค่ำคืนนี้หอมรัญจวนกลิ่นชวนฝัน
ไม่จืดจางห่างถิ่นกลิ่นสัมพันธ์
ดั่งจะผูกแผ่นดินฝั้นเป็นหนึ่งเดียว

มัสยิดทอดเงาใต้ดาวสวย
ยังเอื้ออวยอุ่นใจให้ยึดเหนี่ยว
แม้ลมหนาวรุมเร้าพัดกราวเกรียว
อบอุ่นเพียงเศษเสี้ยวที่ต้องการ

มองดูดาวเดียวดายที่ปลายฟ้า
แม้ริบหรี่เจ้ายังกล้าด้วยแรงหาญ
ไม่รู้มืดหมอกมิดปลิดวิญญาณ
หวังใดเล่าจึงกล้าหาญอย่างมั่นคง

ค่ำคืนหนาวดาวดับบนทางเดือด
กลิ่นคาวเลือดกลบบุหงาฯ ที่พาหลง
ดวงตาดาววาวแสงแห่งปลดปลง
เสียงปืนปังเร่งส่งวิญญาณดาว

ดวงตะวันส่องแสงแห่งวันใหม่
แสงตะวันเผาไหม้ความเจ็บร้าว
ธงไตรรงค์คลุมมั่นสัญญาดาว
จะลุกโชนห้วงหาวทุกค่ำคืน.				
7 มิถุนายน 2550 09:59 น.

ยุบหนอ...พองหนอ

ส่องหล้า

หลับตาลงปลงใจให้ตั้งมั่น
รวมสติครบครันดังมั่นหมาย
ภาวนาพองหนอก่อเกิด-ตาย
แล้วผ่อนคลายยุบหนอเกิดพอเพียง

เมื่อรู้ทุกข์ย่อมรู้ธรรมน้อมนำจิต
รู้เส้นทางชีวิตนั้นไม่เที่ยง
การตั้งอยู่ล่มสลายลงรายเรียง
เหมือนวังเวียงซากอารยะระกะกอง

อยู่ในหลักสัจจะธรรมค้ำจุนจิต
ไม่ยึดติดตัวตนให้หม่นหมอง
ไม่ซ้ายทีขวาทีไม่ขวางคลอง
ถือครรลองธรรมะสัจจะธรรม

รู้ว่ามีก็เห็นเป็นไม่มี
แม้ว่าดีก็เห็นไม่เป็นส่ำ
ถ้ายึดดีบ้าดีโดนครอบงำ
แบกหินสวยบ่าช้ำวางไม่ลง

ถึงไม่มีก็เห็นไม่เป็นไร
อยู่ที่ใจยอมละจริตหลง
วางหินสวยสู่พื้นแล้วปลดปลง
อันใดเล่ามั่นคงตลอดกาล

รู้ว่าหินคือหินที่หนักเขื่อง
ใช่สดสวยเปล่าเปลืองปลงสังขาร
ปล่อยวางความอึงอลก่นประจาน
มาขับขานรสธรรมร่ำวจี

เปิดเปลือกตาน้อมนำไปตามสิทธิ์
ดำรงธรรมปรุงจิตเป็นศักดิ์ศรี
เปิดหัวใจละวางทางถือดี
รู้ทันทุกข์เมื่อล้นปรี่ในใจตน...				
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟส่องหล้า
Lovings  ส่องหล้า เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟส่องหล้า
Lovings  ส่องหล้า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟส่องหล้า
Lovings  ส่องหล้า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงส่องหล้า