6 สิงหาคม 2546 20:39 น.
ส่องหล้า
ความรักจากผู้ให้ ร้าวรานใจถึงผู้รับ
บุญทานได้ขานขับ บทเพลงเศร้าจากราวไพร
ย่ำเดินกลางถนน ต้องอดทนสะท้านไหว
ร้าวรวดปวดกายใจ ดูอ้างว้างในทางเดิน
กล้วยอ้อยคนคอยป้อน มีควานต้อนมิห่างเหิน
ร้อนหนาวเคล้าเผชิญ เหมือนฟันฝ่าค้นหาทาง
จากป่ามาสู่เมือง ฝุ่นควันเขื่องทะมึนขวาง
ตะลอนตะเวนทาง น้ำตาซึมสะเทือนทรวง
เป็นลูกที่ผูกรัก ความทุกข์หนักเกินเหนี่ยวหน่วง
แม่รักสุดหักหวง จ้วงบังคับจับแยกกัน
ถึงแม่ผู้ไกลห่าง ลูกอ้างว้างและหวาดหวั่น
ดื่มนมชั่วข้ามวัน คนมาพรากจากอกไกล
เพลงไพรไหวเพลงเศร้า น้ำตาเคล้าหม่นหมองไพร
หลั่งรินสะอื้นไห้ สะทกสั่นสะท้านทรวง
ลูกรักมาจากอก แม่วิตกและห่วงหวง
ลมเย็นพัดผ่านช่วง เจ็บลึกร้าวเหน็บหนาวนัก
หญ้าใหม่เคยได้ป้อน ทิวหญ้าอ่อนคิดถึงรัก
หัวใจยังหน่วงหนัก ร่องรอยเศร้าใจเปล่าเปลือง
เพลงไพรใฝ่อาสา ผูกพื้นป่ามาโยงเมือง
รักเอยจงนองเนือง อย่าพรากรักจากอกไพร
5 สิงหาคม 2546 22:02 น.
ส่องหล้า
ใบไม้ไหวต้องลมร้อนของตอนบ่าย
ดวงอาทิตย์ยังฉายสว่างหน
ชานชาลาคึกคักด้วยผู้คน
เดินเข้าออกเวียนวนดูวุ่นไป
สองแม่ลูกเฝ้าคอยด้วยความหวัง
หัวใจและกำลังอันสดใส
รอคุณพ่อผู้มาจากแดนไกล
เป็นวันนี้หัวใจจะกลับมา
แม่ค้าขายไก่ย่างไม่ห่างรถ
เหล้าเบียร์-นมสดไว้คอยท่า
ร้องขายอื้ออึงเจรจา
ทุกขบวนผ่านมาเหมือนเหมือนกัน
ม้าเหล็กควบแล่นสู่แดนด้าว
บรรทุกขนเรื่องราวสู่ความฝัน
พาผู้คนหวนย้อนสู่คืนวัน
ใสสุขสันต์ผุดผ่องของมารดา
จากถิ่นแม่ไปทำงานไกลบ้านช่อง
ออกเที่ยวท่องเพื่อเงินแสวงหา
เศรษฐกิจร่วงโรย-ใจอ่อนล้า
ต้องอำลาถิ่นเมืองเบื้องนาคร
นั่งนับชานชาลาเข้ามาสู่
ถิ่นตาปู่มวลมิตรมิ่งสมร
เหมือนดังนกกลับเย้ามาเฝ้าคอน
หวนบินย้อนสืบช่วงสู่รวงรัง
จะลงแล้วอำลาเจ้าม้าเหล็ก
เป่ามนต์เสกมวลดินถิ่นความหวัง
แผ่นดินแม่จงอุดมด้วยกำลัง
ให้ดอกเหงื่อพรูพรั่งยังแผ่นดิน
หวูดรถไฟแว่วใกล้สถานี
คนพลุกพล่านยินดีมิมีสิ้น
สองแม่ลูกสมเจตนาจินต์
รอคุณพ่อกลับถิ่นสถานี
ทั้งหนุ่มสาวเด็กเล็กคนชรา
มีผู้คนมากหน้าให้อึงมี่
ยืนสง่าหนุ่มใหญ่พ่อคนดี
แม่ลูกวิ่งรี่เข้าไปพลัน
ได้อบอุ่นในอ้อมกอดต่างพลอดพร่ำ
ลูกเมียร้องร่ำด้วยสุขสันต์
วันนี้อยู่พร้อมหน้ามาร่วมกัน
สู่คืนวันสดใสให้ครอบครัว...