6 สิงหาคม 2545 17:55 น.
ส่องหล้า
ไม่มีคำสรรเสริญใดจะให้แม่
มีเพียงแค่ข้าวปลาเอามาให้
ข้าวก้นบาตรกับน้ำปลาชโลมใจ
เปิบป้อนแม่ผู้ป่วยไข้มานานวัน
คำว่ารักน้อยคำไม่พร่ำบ่น
มีเพียงใจอดทนและอดกลั้น
หวังแม่อยู่ร่วมชีพไปนานวัน
แม้หัวใจไหวหวั่นและหวาดกลัว
คอยบีบนวดตรวจตรารักษาไข้
ทั้งหลังไหลเขาขาพิการทั่ว
แม้เจ็บร้าวก็อบอุ่นกลางขุ่นมัว
มียิ้มหัวแม้เจ็บไข้ใจยังงาม
เคลื่อนขยับย้ายยากลำบากบุก
ร่างกายทุกข์รอวันจะผันข้าม
หอบสังขารโรยราใต้ฟ้าคราม
ใจของลูกหาบหามไปด้วยกัน
ร้อยหัวใจแม่ลูกผูกเป็นหนึ่ง
รัดเชือกตรึงแน่วแน่ไม่แปรผัน
แม่รักลูกลูกรักแม่เสมอกัน
ต่างดูแลปลูกปันด้วยหัวใจ
ไม่มีคำหวานหวานจะขานถ้อย
หวังเพียงน้อยหนึ่งแค่แม่สุกใส
แม้น้อยหนึ่งความหวังอาจร้างไกล
ขอแม่หายเจ็บร้าวได้ก้าวเดิน
5 สิงหาคม 2545 20:44 น.
ส่องหล้า
เสียงไก่เห่าหมาขันตะวันเที่ยง
เจ้าเป็ดน้อยส่งเสียงในกรงสวย
ปลาหับปีกสุขสมลมพุ่งพวย
พระจันทร์ส่องแสงสวยแข่งตาวัน
ทั่วแผ่นดินแผ่นฟ้าวิปริต
ทั่วทั้งเมืองมืดมิดและผิดผัน
ธรรมชาติในกำมือถือประจัญ
แบกบุกรุกห้ำหั่นประหาญคน
ใบไม้เขียวร่วงหล่นมิทันรุ่ง
พัฒนาปรับปรุงกันทุกหน
ถอนรากแก้วแผ่วถางทั่วมณฑล
ปลูกแท่งหินโผล่พ้นแผ่นดินงาม
ไก่เคยเอื้อนเสียงขานขับขยับไข
บอกเวลาวันใหม่จะไขข้าม
สุนัขเห่าเฝ้าเรือนไม่หลับยาม
พระจันทร์ส่องแสงงามยามราตรี
ผ่านไปแล้วเป็นอดีตให้คิดถึง
ใครจะยุดฉุดดึงเป็นช่องชี้
เราทำเมืองให้สดสวยเขียวขจี
เป็นเมืองสวยทาสีให้งดงาม
เสียงไก่เห่าหมาขันกระชั้นเสียง
ร้องอื้ออึงทุ่มเถียงจากฟ้าข้าม
อนุรักษ์ปักชื่อระบือนาม
บนแท่งปูนยิ้มหยาม เหม็นขี้ฟัน....
5 สิงหาคม 2545 17:37 น.
ส่องหล้า
ในดวงตามีประกายหมายมุ่งหวัง
เปี่ยมพลังความหมายประกายฝัน
ประดุจดาวเด่นดวงได้แม้กลางวัน
ใสสุขสันต์แสงกล้าท้าตาวัน
อยู่ในยุคเงียบเหงาเศร้าและมืด
ใจเย็นชืดเย็นชาดุจอาสัญ
ดูบูดบึ้งบ้าใบ้ไร้ชีวัน
สังคมพรั่นผู้คนพล่านซ่านหัวใจ
ควันคละเคล้าคลุ้งคว้างกลางเวหน
โชยสู่ใจสับสนสะท้านไหว
ดวงตาสวยมืดบอดถึงความนัย
มิอาจเห็นบอดใบ้ของสังคม
เมลัยร่ำน้ำบ้าสุรารส
ดื่มด่ำซดกำซาบอาบใจสม
ดูเริงรื่นเหมือนบ้าเสพอาจม
บอดสนิทพิษบ่มจมชีวา
สู่อบายป้ายปมระทมจิต
ขาดยั้งคิดมีใจเพียงใฝ่หา
เสพสุขสมจมอุบาทว์เป็นทาสยา
เมาหัวใจเหว่ว้าและวกวน
ปลุกหัวใจด้วยหวังพลังกล้า
ปลดวิ่นแหว่งเหว่ว้าและสับสน
ประดับดาวสุกใสสู่ใจตน
เปิดดวงตาหมองหม่นค้นความจริง..
2 สิงหาคม 2545 11:20 น.
ส่องหล้า
เกิดเป็นลูกผูกจิตคิดถึงแม่
เกิดมาแค่รอยเท้าเท่าฝาหอย
จนเหยาะย่างเหยียบย่ำจนเท่ารอย
เป็นร่องร้อยสองเท้าเท่ามารดา...
เกิดเป็นลูกยุคสมัยวัยสองพัน
ยุคแข่งขันรุ่งเรืองเรื่องปัญหา
สังคมเข่นผู้คนเฆี่ยนเบียนบีฑา
ล้วนสืบเสาะไขว่คว้าแสวงทาง
แย่งกันกอบลอบกันโกย-โหยหา-อด
แย่งกันกินเกินกฎกำหนดสร้าง
แข่งกันทำนำกันใช้ไม่เว้นวาง
เวียนกันถางว่างก็พรูกรูกันไป
เกิดเป็นลูกยุคสมัยไกลทั่วโลก
อุปโลกน์เรื่องราวล้นค้นไม่ไหว
กว้างสุดกว้างแต่คับแคบถนัดใจ
มิพานพบเนื้อในความใยดี
ยุครอยต่อแบ่งแยกขนานใหญ่
ยุคปู่ย่าระอาใจส่ายหน้าหนี
จะเชื่อมรอยซับรากอย่างไรดี
จะปลูกฝังวิถีกันอย่างไร
เกิดเป็นลูกยุคก้าวหน้าฤทธากว้าง
อย่าปล่อยลูกอ้างว้างกับสมัย
เชื่อมสำพันธ์ต่อยุคติดหัวใจ
แล้วพาลูกก้าวไปพร้อมพร้อมกัน....
31 กรกฎาคม 2545 12:20 น.
ส่องหล้า
แสงส่องผ่องฟ้าอำไพ
หมู่เมฆลับไกลเลือนฟ้า
แสงทองส่องโลกคืนหล้า
หัวใจคนกล้ากลับคืน
รออยู่ปลายภูรู้สึก
สูงสุดสำนึกสดชื่น
ปลายฟ้าฝั่งฝันดื่มกลืน
แสงทองสดชื่นอำพัน
กล่อมไกวเห่ข้ามหุบเขา
ผ่านฟ้าแนบเนาพราวฝัน
โชตช่วงลุล่วงถึงกัน
สุกใสสุขสันต์หัวใจ...