14 ตุลาคม 2545 18:46 น.
ส่องหล้า
ฉันมิใช่ร่างตุลาคม
ฉันคือสายลมพฤษภาฯ
พัดสำนึกผ่านกาลเวลา
ชุ่มโชกน้ำตาและเลือดริน
ฉันมิใช่วีรชน
เห็นเพียงภาพคนละชีพดิ้น
ได้เรียนได้รู้ได้ยิน
หัวใจจินต์ตั้งมั่นศรัทธา
กราบคารวะผู้พลีชีพ
อมนุษย์บีบป่นก่นฆ่า
วีรชนคล้องมือถือชัยมา
ให้ลูกหลานเบื้องหน้าสุขสบาย
โซ่ตรวนรอยต่อข้อมนุษย์
ตรึงติดเผลอผุดแผ่ขยาย
เผด็จการซ่อนเร้นมิเห็นกาย
แฝงฝากลากไส้ทรมาน
หวังเป็นหยดน้ำเสรีภาพ
ละอองหนึ่งกำซาบใจหาญ
หลั่งเลือดมาจากตุลาธาร
จงเข้มข้นแดงฉานในใจชน
12 ตุลาคม 2545 16:23 น.
ส่องหล้า
อ้อมอกฤดูโอ้...
เราเติบโตเราได้เห็น
อ้อมกอดเช้ายันเย็น
ตะวันฉายสายสีทอง
อุ่นกอดฤดูกาล
ที่ผันผ่านยังใสผ่อง
ฤดูกาลที่หมายปอง
หนาว-ร้อนก่นสายฝนริน
อ้อมอกฤดูผัน
เปลี่ยนคืนวันให้ถวิล
เปลี่ยนรอบมิรู้สิ้น
ผ่านมนุษย์ไม่รู้ใคร
11 ตุลาคม 2545 12:14 น.
ส่องหล้า
นิรันดรนิรันดร์กาล
มนุษย์ผลาญประหาญหาย
กระทำความวิบัติร้าย
สนองเหตุกิเลสตน
สะเทือนทั้งสยุมภู
ก็อาดูรและสับสน
อุทกร้ายหทัยชน
ทะลักโลกและท่วมธรรมฯ
มิหยุดอยากมิหยุดหย่อน
มิยอมผ่อนกิเลสล้ำ
วิกฤตกล้าก็ครอบงำ
ตะครุบใจมิให้งาม
พระธรรมหมองมิมองหมาย
กิเลสร้ายมิไถ่ถาม
ก็โจมจู่และวู่วาม
พระธรรมลับสลายเลือน
ฤทัยชั่วมิเห็นธรรม
ระทมกรรมวิบัติเกลื่อน
ทะลักล้นกิเลสเปื้อน
มิพ้นช่วง ณ บ่วงกรรมฯ
4 ตุลาคม 2545 11:12 น.
ส่องหล้า
คุณพ่อจ๋าหาตุ๊กตามาฝากหนู
คุณพ่อรู้แล้วลูกพ่อจะหา
น้องตุ๊กตาตัวสวยช่วยนำพา
ให้ลูกยายามเหงาเจ้าอย่างอน
คุณพ่อขับขึ้นขี่ขนบรรทุก
ตะลุยบุกลำบากหลากสลอน
ลูกซบอกอุ่นแอบแนบหนุนนอน
ปากพร่ำวอนออเซาะกับพ่อตน
พ่อคงต้องรีบไปอีกหลายแห่ง
ต้องเหนื่อยแรงแห่งงานบรรทุกขน
หลับเถิดนะพ่อจะกล่อมเจ้าน่ามล
อย่าอ้อนแม่อย่าซุกซนนะคนดี
หนูน้อยพริ้มคอพับหลับบนตัก
พ่อเหนื่อยหนักรักลูกไม่เคยหนี
ทุ่มชีวิตเทหัวใจเพื่อคนดี
ถึงพ่อนี้แสนเหนื่อยไม่เฉื่อยชา
วางลูกน้อยบนเปลอยากเห่กล่อม
แต่ต้องยอมตัดใจอาลัยหา
ขึ้นสิบล้อคันใหญ่แล้วไคลคลา
จำจากลาลูกเมียมาเสียไกล
ขับแต่เช้ายันเย็นเย็นยันค่ำ
ต้องเก็บงำความทุกข์บรรทุกไว้
แบกเอกอานระอุในหัวใจ
ทนมิไหวต้องหายามาบรรเทา
หวังเพียงลูกผูกสายใยชีวิต
ได้มีสิทธิศึกษาไม่โง่เขลา
ไม่เหนื่อยหนักลำบากเหมือนอย่างเรา
อยู่เป็นเงาร่มไม้ให้ลูกยา
ขับสิบล้อหวิวใจมือไม้สั่น
หลับตาฝันว่าลูกน้อยวิ่งมาหา
โผกอดลูกในมือถือตุ๊กตา
ลูกผวาโอบกอดยอดดวงใจ
ปากก็พร่ำถึงลูกซุกหน้าซบ
กายอุ่นอบแนบมั่นกระชั้นไว้
จุมพิตปรางแก้มน้อยกลอยฤทัย
ปากพร่ำไปชอบไหมลูกน้องตุ๊กตา
ลืมตาค้างค้างคาผวาตื่น
สมองมึนม้าแรงแผลงผวา
แล่นโผนผางทางไปใจค้างคา
กระโจนฝ่าม้าทั้งตัวไม่กลัวใคร
แล่นรวดเร็วตะบึงต่อห้อในหน
จิตสับสนมิสร่างว่าทางไหน
ไม่รับรู้ว่าข้างหน้านั้นมีใคร
เร็วเท่าไรไม่นึกหวั่นพรั่นฤดี
เสียงคึกโครมโถมทับคับในอก
ตาทอดตกหมดแรงแห่งทางที่
ตุ๊กตาสวยชุ่มเลือดที่พ่อพลี
ม้าตัวดีดีดผางกลางชีวิต
3 ตุลาคม 2545 12:10 น.
ส่องหล้า
ส้มสุกลูกไม้..........................ต้นใหญ่โตตั้ง
โรงนาโล้หลัง........................ปลายฝั่งท้องนา
ทางเกวียนคดเคี้ยว.............คมเคียวค้นหา
รวงข้าวกับชาวนา.................ท้องฟ้าอำไพ
ส้มสุกลูกไม้..........................ปลูกไว้เติบกล้า
สั่งสมเวลา............................เติบกล้าดั่งใจ
ออกดอกออกผล...................เปี่ยมล้นทั่วไท
แข่งขันกับใคร.....................ลูกใหญ่โสภา
ส้มสุกลูกไม้..........................ลูกไกลห่างต้น
กว้างไกลสุดค้น....................ดั้นด้นค้นหา
ลืมต้นลืมตีน........................ป่ายปีนไขว่คว้า
ลืมภูมิปัญญา........................คุณค่าของไท
ส้มสุกลูกไม้..........................หัวใจสิ้นหวัง
เหลียวแลดูหลัง....................เมื่อครั้งสดใส
บัดนี้ผันแปร........................ยากแท้หัวใจ
จะก้าวทางใด.......................ยามใจโรยรา
ส้มสุกลูกไม้..........................เปลี่ยนไปตอตั้ง
โรงงานไล่หลัง......................ปลายฝั่งโรงนา
ทุ่งร้างนารก.........................หัวอกโหยหา
สิ้นซากชาวนา......................สิ้นฟ้าอำไพ