18 กรกฎาคม 2549 13:12 น.
ส่องหล้า
เพราะอันใดพระจันทร์งาม
เพราะฉันถามนภาหรือ
เพราะเหตุใดปะดามือ
จะยึดยื้อพระจันทร์งาม
เพราะความหวังเพาะความหวัง
เพราะความหลังจิตไหวหวาม
เพราะความดีเพาะใจงาม
เพราะความช้ำมิจำเป็น
เพราะต่างคนปะดามี
ฤทัยที่มิอาจเห็น
เพราะแสร้งจะแกล้งเร้น
จะให้เห็นพระจันทร์งาม
เพราะเหตุใดพระจันทร์ซีด
เพราะอดีตมิขลาดขาม
เพราะเมฆมิดประชิดตาม
ก็อาดูรอดีตเดิม
เพราะกรรมใดกระหายหาญ
หทัยก้านผสานเสริม
มิปลูกมิตรมิติดเติม
ก็พาทุกข์มิผูกดี
เมลืองหวังมลายทุกข์
ประสพสุขประสพศรี
พระจันทร์งามเพราะทำดี
สว่างศรีเพราะมีธรรม...
26 เมษายน 2549 12:32 น.
ส่องหล้า
น้ำฝนกลางแดดที่แผดร้อน
ชุ่มเย็นทั่วนครมหาศาล
เมษายนก่นร้อนอันเดือดดาล
ได้ชุ่มชื่นวิญญาณอีกครั้งครา
ยกกรขึ้นเหนือเกล้า
กราบองค์เจ้าชีวิตข้า
พระทรงเปี่ยมด้วยปัญญา
เป็นมรรคาแห่งนคร
วาบหนึ่งของสำนึก
รู้สึกสิ้นจินต์สังวร
สำเหนียกประชากร
เป็นปราการที่มั่นคง
รู้แจ้งทางความคิด
รู้ถูกผิดรู้ปลดปลง
รู้ขึ้นละรู้ลง
จึ่งรู้รักสามัคคี
ถูกผิดเคยคิดแปลก
ใช่แตกแยกแบ่งชั่วดี
หลงใหลเกินวิถี
จงเปิดใจสว่างพลัน
ทุกถิ่นเสมอที่
แผ่นดินนี้เสมอกัน
กลาง-เหนือ-ใต้-อีสานนั้น
ร่วมหัวใจใฝ่น้อมนำ
ความคิดที่รุ่มร้อน
ผ่อนทุกข์ร้ายในกระทำ
เป็นฝนที่ต่างน้ำ
แต่ชุ่มฉ่ำเสมอเย็น
กราบเบื้องบาทพระจอมไท้
ธ แก้ไขดับทุกข์เข็ญ
พสกนิกรจึ่งร่มเย็น
ความเป็นไทยไม่สิ้นภูมิ ...
24 มีนาคม 2549 17:17 น.
ส่องหล้า
หญิงม่ายผู้อาภัพกับชีวิต
เกิดมากลางลิขิตของคันศร
ส่วนสามีชีพอับดับม้วยมรณ์
มีลูกรักอรชรอีกสามคน
คนหนึ่งพี่เป็นชายใหญ่สง่า
มีหลักการทีท่าสง่าหน
มักหลบเลี่ยงไม่เพลี่ยงพล้ำในมณฑล
ประสบการณ์มากล้นกว่าใครใคร
อีกหนึ่งนั้นน้องกลางสำอางยิ่ง
ดูพักตร์พริ้งหมดจดช่างสดใส
ชอบศึกษาเรียนรู้อยู่เรื่อยไป
ปฏิบัติไม่ใคร่จะได้ความ
เจ้าน้องน้อยเนื้อทองสมองแหลม
ฉลาดแกมกินฟ้าฝ่าข้อห้าม
ร่ำรวยสินประหนึ่งว่าสง่างาม
เงินล้นหลามขายค้ามหารวย
มาวันหนึ่งผู้แม่ลำบากหนัก
ไร้สิ้นหลักล้มหมอนลงนอนป่วย
จะหาใครใดเล่าเฝ้าเอื้ออวย
แก้หนทางล้มป่วยให้หายคืน
แม้น้ำเย็นชุ่มคอขอสักแก้ว
เพื่อผ่องแผ้วพิสุทธิ์สุขสดชื่น
เพียงชุ่มเย็นหัวใจได้ดื่มกลืน
ใครจะยื่นแก้ไขคลายร้อนรุม
เจ้าคนโตอยู่ไหนหรือไร้หลัก
แม่เหนื่อยหนักป่วยกายดั่งไฟสุม
สองขาแม่เดินมิได้ใกล้จนมุม
รอแต่เจ้าจะมาอุ้มไปดื่มกิน
เจ้าคนรองน้องกลางดูห่างแม่
มีความรู้มากแท้กลับโผผิน
ตะโกนก้องแดนไกลแม่ไม่ยิน
คำรักแม่ยังแทบสิ้นดูเรือนราง
เจ้าคนเล็กรวยอักโขดูโอ่อ่า
พูดคำโตเกินฟ้าจะกล้าขวาง
แผ่นดินฝังหม้อรกยกมาวาง
ก็ค้นคว้าหาทางแปลงเป็นทุน
ค่าน้ำนมน้ำข้าวแม่ไม่คิด
แม้อ้อมอกแนบชิดอันอบอุ่น
ผูกชีวิตหัวใจใต้ใบบุญ
ขอแผ่นดินอันอบอุ่นให้แม่นอน...
7 มีนาคม 2549 15:53 น.
ส่องหล้า
จดหมายเปื้อนโคลนจากเถียงนา
ถึงอ้ายหม่าลูกรักเป็นไฉน
กูอยู่ทุ่งนาแดนไกล
เหงื่อไคลหลั่งไหลร้อนรน
เขาว่าเมืองกรุงยุ่งเหยิง
ดั่งเพลิงท่วมเมืองมากล้น
ผู้รู้วุ่นวายวกวน
หาหนทางเดินไม่เจอ
แบ่งคิดแบ่งเขียนเวียนถาม
คิดตามจุดตั้งอย่าพลั้งเผลอ
คิดมากอย่าวกวนค้นให้เจอ
อย่าเพ่อให้อัตตาท่วมเมือง
ไม่เอาทุนนิยมแล้วหรือ
เห็นความยึดยื้อหนักเขื่อง
แปลกแยกเรื่องราวเปล่าเปลือง
พ่นคำล้นเรื่องจะเกินกาล......
แต่กูแยงเขียดโลมลิ้น
ข้าวเหนียวจ้ำกินฉ่ำหวาน
เป็ดไก่ไม่มีรับประทาน
อาหารพออยู่พอกิน
สองมือกูยังหยาบด้าน
ทำงานหนักหนักมิสิ้น
หยดเหงื่อโลมใจโลมดิน
พลิกฟื้นทำกินด้วยใจ
เมื่อไรถึงจะมาช่วยกู
มึงอยู่เมืองเพลินสุกใส
อยู่ตึกใหญ่โตเกินใคร
ความรู้เติบใหญ่เกินกู
มาช่วยกูทำนาสักหน่อย
รู้ไหมใครคอยอย่างอดสู
วิชาการมึงมีต้องมาดู
เขียนตำราให้กูทำกิน
มึงแปลทุนนิยมอ่านเล่น
ความจนซ่อนเร้นอยู่ใต้ลิ้น
คิดอ่านอย่างไรกูไม่ยิน
กู่ร้องจนแทบสิ้นเรียวแรงกู
เอาเถอะอ้ายหม่าถ้าหมายเมือง
เปล่าเปลืองแรงข้าวน่าอดสู
กูจะพังเถียงนาให้มึงดู
แล้วกูจะประท้วงไม่ทำนา....
2 มีนาคม 2549 15:37 น.
ส่องหล้า
๑.พื้นแผ่นดินทุ่งนาใต้ฟ้าสวย
ภูมิพลังเอื้ออวยแต่งเติมฝัน
ด้วยสองมือถือสิทธิ์เมล็ดพันธุ์
เพื่อปลูกปั้นคันไถ-คน-ควาย-นา
๒.ควายเขาเขื่องลุยนาย่ำนำไถ
ปลุกหัวใจคนมุ่งแสวงหา
สิทธิ์เสรีแดนทองผ่องพารา
เป็นคุณค่าเรืองรองของแผ่นดิน
๓.คนผ่านงานตัวดำมือหยาบด้าน
สิทธิ์เสรีชุ่มฉานไปทั่วหน
ทุ่มเทกายขยันหมั่นอดทน
โคลนขุ่นข้นรัดเกี่ยวเหนี่ยวหัวใจ
๔.หยดน้ำเหงื่อเจือแดดแผดสังขาร
จิตบ่มกาลบ่มโคลนมิหม่นไหม้
ผ่าวลมร้อนการเมืองระบัดไกว
พัดอื้ออึงวุ่นในหัวใจคน
๕.คำหาเสียงผ่านทุ่งจรุงหู
ประกาศคำเลิศหรูไปทั่วหน
แจ้งความเกินธรรมดาดล
ความยากจนจะหมดไปในพริบตา
๖.ยกการเมืองลงเถียงนามากล่อมกล่าว
ทุนนิยมยืดยาวประกาศท้า
ท้องทุ่งกว้างจะแปรเปลี่ยนเป็นเงินตรา
จะร่ำรวยทั่วหน้ากันทุกคน
๗.ถึงวาระจัดตั้งเพื่อสร้างทุ่ง
ก้าวมั่นมุ่งมาสู่คูหาหน
ใบประกาศเรียงหน้ามาให้ยล
แต่ละคนดูดีมีสกุล
๘.จับตรายางประทับเป็นเครื่องหมาย
มโนธรรมพรั่งพรายเข้าเกื้อหนุน
ข้าจะกาตามใจใช่เงินทุน
จะไม่ย่อมร่วมหุ้นกับการโกง
๙.กลิ่นสาปโคลนยังคุ้งในคูหา
กลิ่นการเมืองแรงกว่าคลุ้งโขมง
คน-คันไถ-ควายเก่าเข้าเชื่อมโยง
หลังชาวนายังโก่งท้าตะวัน
๑๐.ข้าว่านสิทธิ์เสรีในทุ่งกว้าง
ภูมิพลังสร้างสิทธิ์ดั่งคิดฝัน
เสรีภาพอาบเหงื่อเจือตะวัน
กลางท้องทุ่งเกิดเม็ดพันธุ์อันเสรี...