24 พฤษภาคม 2546 21:46 น.
สเลเต
น้ำค้างของรุ่งอรุณ
แพรวพรายเป็นประกายกลมสดใส
ยามที่แสงแรกแห่งตะวัน
สาดส่องลงมาเป็นสาย....คล้ายใยทอง
ทาบทาไปยังดอกไม้ใบหญ้า
ที่มีน้ำค้างพร่างพรม
น้ำค้าง....
กระทบกับแสงตะวัน
ส่องแสงเป็นประกาย
แวววาวราวเพชรลูก
งดงามดุจดั่งอัญมณี
ชวนให้เก็บไว้เชยชม
ลมพัด......
กระโชกเพียงวูบ
ใบหญ้าสั่นพลิ้ว
น้ำค้างพร่างพรู
ร่วงหล่นลงสู่ดิน......
ชวนให้คำนึง
มิว่าสรรพสิ่งใด
ที่งดงามตระการตา
ต่างก็มีช่วงเวลาอันสั้น
ไม่เคยดำรง.....
อยู่ได้เนิ่นนาน
27 เมษายน 2546 02:55 น.
สเลเต
กาลก่อนที่จะรู้จักรักต้นไม้
ไม่เคยเรียนรู้การรอคอย
หัวใจดวงนี้จึงวู่วาม ร้อนรุ่ม
หากเมื่อชีวิตพลิกผัน
ได้อยู่ใกล้ชิดกับต้นไม้ใบหญ้า
จึงเรียนรู้ว่า....
การปลูกต้นไม้
สอนหลายสิ่งหลายอย่างให้กับชีวิต
หนึ่งนั้นคือความอดทน
อดทนต่อการรอคอย
รอคอยที่จะได้เห็น
ไม้ดอกไม้ผลที่ผจงปลูก
เติบใหญ่จากเมล็ดพันธุ์เป็นต้นกล้า
จากกล้าไม้เป็นต้นใหญ่
รอวันเวลาที่จะผลิดอกออกผล
แม้นดูเหมือนว่าในบางครั้ง
การรอคอยนั้นช่างเนิ่นนานเป็นนักหนา
หากเมื่อการรอคอยสิ้นสุดลง
หัวใจที่เคยร้อนรุ่ม...
กลับฉ่ำเย็นและปิติ
ยามที่ได้เห็นการผลิบานของไม้ดอก
ในต้นไม้แต่ละต้นที่บรรจงปลูก
จึงมีความหมาย.....
เพราะสอนให้รู้จัก
ความอดทน
< /b>
10 เมษายน 2546 15:44 น.
สเลเต
เพราะมีชีวิตที่ต้องเดินทางอยู่เสมอ
เพื่อเรียนรู้เรื่องราว
และทำความเข้าใจในผู้คน
ทำให้ไม่เคยมีโอกาสอยู่บ้าน
ไม่เคยได้ปลูกต้นไม้ใบหญ้า
ไม่เคยได้ทักทายกับไม้ดอก.....ไม้ผล
จวบกระทั่งเมื่อวิถีชีวิตเปลี่ยน
ได้มีโอกาสอยู่บ้านมากขึ้น
จึงได้เห็นการผลิบานของไม้ดอก
ได้รับรู้ว่า...
มือที่เปื้อนดิน
เพราะการปลูกต้นไม้นั้น
นำความอิ่มเอมมาสู่หัวใจ
ได้ค้นพบว่า
ยามที่หัวใจร้อนรุ่ม
ว้าวุ่นและสับสน
ก็ผ่อนคลายลงได้
ด้วยต้นไม้ ใบหญ้า
ยามที่บาดเจ็บจากผู้คน....
ก็ยังได้อาศัยความงามของไม้ดอก
คอยปลอบประโลมหัวใจให้ชื่นฉ่ำ
เมื่อได้ยินและได้ยลสรรพสำเนียง
แห่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่เฉกนี้
จึงได้ตระหนักว่า...
แท้จริงแล้ว...
เราช่างกระจ้อยร่อยเสียนี่กระไร
10 เมษายน 2546 15:39 น.
สเลเต
ขอบคุณต้นไม้
เพราะมีชีวิตที่ต้องเดินทางอยู่เสมอ
เพื่อเรียนรู้เรื่องราว
และทำความเข้าใจในผู้คน
ทำให้ไม่เคยมีโอกาสอยู่บ้าน
ไม่เคยได้ปลูกต้นไม้ใบหญ้า
ไม่เคยได้ทักทายกับไม้ดอก
ไม้ผล.....
จวบกระทั่งเมื่อวิถีชีวิตเปลี่ยน
ได้มีโอกาสอยู่บ้านมากขึ้น
จึงได้เห็นการผลิบานของไม้ดอก
ได้รับรู้ว่า...
มือที่เปื้อนดิน
เพราะการปลูกต้นไม้นั้น
นำความอิ่มเอมมาสู่หัวใจ
ได้ค้นพบว่า
ยามที่หัวใจร้อนรุ่ม
ว้าวุ่นและสับสน
ก็ผ่อนคลายลงได้
ด้วยต้นไม้ ใบหญ้า
ยามที่บาดเจ็บจากผู้คน....
ก็ยังได้อาศัยความงามของไม้ดอก
คอยปลอบประโลมหัวใจให้ชื่นฉ่ำ
เมื่อได้ยินและได้ยลสรรพสำเนียง
แห่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่เฉกนี้
จึงได้ตระหนักว่า...
แท้จริงแล้ว...
เราช่างกระจ้อยร่อยเสียนี่กระไร
9 เมษายน 2546 23:34 น.
สเลเต
เล็กเล็กทว่างดงาม
เป็นความจริงที่ว่า
คนเรามักจะมองข้าม
สิ่งเล็กเล็กหลายหลายอย่างในชีวิต...
ด้วยไม่เห็นถึงความสลักสำคัญ
จึงละเลยไป......
ตราบกระทั่งเมื่อสูญเสีย
จึงได้ตระหนักถึงคุณค่า
เฉกเดียวกับต้นหญ้าดอกหญ้าข้างทาง
ที่มักถูกเหยียบย่ำ....
ก้าวเท้าข้ามไปครั้งแล้วครั้งเล่า
หากเมื่อมีเวลาได้หยุดคิด
และนั่งลงเพ่งพินิจ
จึงได้หวนรำลึกว่า
แท้ที่จริงนั้น....
ไม่ว่าต้นไม้ดอกไม้ใด
สรรพสิ่งใดใดในโลก
ต่างก็ถือกำเนิดมาจากดินทั้งสิ้น