27 เมษายน 2554 16:59 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ เมื่องานบุญบั้งไฟในเดือน ๖
ขอฝนตกวันทาพญาแถน
ไหว้วิงวอนบอกกล่าวเจ้าเมืองแมน
ให้เขตแคว้นฝนชุ่มชอุ่มดิน
๏ หน้าไถดำทำนามาอีกครั้ง
ขอฝนหลั่งรดโรยโปรยทั่วถิ่น
เป็นหยาดทิพย์จากฟ้ามาหลั่งริน
ได้ทำกินปลูกข้าวผองชาวนา
๏ เขาบอกบุญไปทั่วตัวจังหวัด
ว่าจะจัดงานใหญ่ให้หรรษา
เพื่อสืบสาน"ฮีตเก่า"แต่เค้ามา
ขอฝนจากฟากฟ้าสุราลัย
๏ แต่งบั้งไฟหมื่น-แสนเข้าแหนแห่
ขบวนแปรรำเซิ้งบันเทิงใหญ่
คืองานบุญพิธีวิถีไทย
"เอ้บั้งไฟ"เข้าอวดประกวดกัน
๏ เป็นลวดลายครุฑาพญานาค
วิจิตรล้วนหลายหลากมากสีสัน
แล้วแต่บ้านไหนจะคิดประชัน
สุดเชิงช่างเชิงชั้นพรรณา
๏ เสียงดนตรีอีสานกังวานขับ
ซ่านสดับสรวลสันต์ม่วนหรรษา
จังหวะลำลอยล่องกู่ก้องมา
ก็คึกคักนักหนาประสาใจ
๏ เขาแข่งจุดบั้งไฟให้ขึ้นฟ้า
ลำไหนอยู่นานกว่าบนฟ้าใหญ่
ก็ถือว่าชนะจะคว้าชัย
ที่สมได้สร้างสรรรค์เชิงชั้นมา
๏ ลำไหนซุบั้งแตกแยกเป็นเสี่ยง
ระเบิดเปรี้ยงปรับแพ้ซิแย่กว่า
เขาหามช่างลงโคลนโจนปลักนา
ก็เละเทะเฮฮาไม่ว่ากัน
๏ โคลนกระเด็นเปื้อนเปรอะเลอะไปทั่ว
เลยสะบัดปัดตัวหัวร่อขัน
เผลอสบตาแฉล้มนวลแจ่มจันทร์
เหมือนเวลาช่วงนั้นพลันหยุดเดิน๚๛
8 เมษายน 2554 18:56 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ ฝนครวญหวนไห้อาลัยฟ้า
จากท้องนภามารินหลั่ง
สู่พื้นแผ่นดินร่วงภินท์พัง
ดินขังน้ำนองสุดหมองใจ
๏ ครวญคร่ำร่ำโศกจนโลกเศร้า
ฟ้าครึ้มทึมเทาเร้าจิตไหม้
พายุกรรโชกลมโยกไกว
อำลาอาลัยใจร้าวราน
๏ แว่วเสียงร่ำไห้ในสายฝน
ที่รินร่วงหล่นระคนผ่าน
ครั้นดึกสงัดรัตติกาล
ในม่านไพรพฤกษ์ระลึกรู้
๏ ว่าฝนสั่งฟ้าอาลัยรัก
เกินต้านหาญหักตระหนักอยู่
ระดะล้นหลั่งลงพรั่งพรู
มิอาจหวนสู่นภาลัย
๏ จากฟากฟ้าสรวงร่วงสู่ภพ
สิ้นทางบรรจบพบกันใหม่
จำพรากจากลามาแสนไกล
โหยไห้ร่ำหวนครวญน้ำตา
๏ แม้นร่วงทบท่าวด้าวแดดิ้น
แต่ใจไม่สิ้นถวิลหา
ยังคงรำพรรณพร่ำพรรณา
เสียงฝนลาฟ้ายังแผ่วดัง
๏ ฝนครวญหวนไห้อาลัยฟ้า
จากท้องนภามารินหลั่ง๚๛
6 เมษายน 2554 15:10 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ ปางองค์ตถาคตประจักษ์
(ปาง-องค์-ตะ-ถา-คะ-ตะ-ประ-จักษ์)
วรมรรคประเสริฐผล
(วะ-ระ-มรรค-ประ-เสริฐ-ผล)
ทั่วโลกธาตุน่ะ ฤ ก็ดล
(ทั่ว-โลก-กะ-ธาตุ-น่ะ-รึ-ก็-ดล)
รุจิฝนประโปรยปราย
(รุ-จิ-ฝน-ประ-โปรย-ปราย)
๏ จวบ ๗ ทิวาและรติผัน
(จวบ-๗-ทิ-วา-และ-ระ-ติ-ผัน)
ระดะหลั่นมิขาดสาย
(ระ-ดะ-หลั่น-มิ-ขาด-สาย)
หยาดหยดก็รดพระวรกาย
(หยาด-หยด-ก็-รด-พระ-วะ-ระ-กาย)
บ่มิเวทนาการ
(บ่-มิ-เว-ทะ-นา-การ)
๏ จอมนาถเสวยวิมุติสุข
(จอม-นาถ-สะ-เหวย-วิ-มุ-ติ-สุข)
นิรทุกข์เกษมศานติ์
(นิ-ระ-ทุกข์-กะ-เษม-ศานติ์)
ใต้มุจลินท์ ธ ก็สราญ
(ใต้-มุจ-จะ-ลินท์-ธ-ก็-สะ-ราญ)
พระประทับเจริญองค์
(พระ-ประ-ทับ-จะ-เริญ-องค์)
๏ จอมนาคพญาอธิบดินทร์
(จอม-นาค-พะ-ญา-อะ-ธิ-บ-ดินทร์)
มุจลินท์ธภุชงค์
(มุ-จะ-ลินท์-ธะ-ภุช-ชงค์)
จากนาคภิภพก็เพราะประสงค์
(จาก-นาค-ภิ-ภพ-ก็-เพราะ-ประ-สงค์)
ธ จะคุ้มจะครองภัย
(ธะ-จะ-คุ้ม-จะ-ครอง-ภัย)
๏ กางแผ่ขยายวรขนด
(กาง-แผ่-ขะ-หยาย-วะ-ระ-ขะ-หนด)
ธ ก็ขดขนาบไป
(ธะ-ก็-ขด-ขะ-หนาบ-ไป)
พังพาน ฤ แผ่ขจรไกล
(พัง-พาน-รึ-แผ่-ขะ-จะ-ระ-ไกล)
และก็โอบพระสัมมา
(และ-ก็-โอบ-พระ-สัม-มา)
๏ ปกป้องและคุ้มพระชินเจ้า
(ปก-ป้อง-และ-คุ้ม-พระ-ชิ-นะ-เจ้า)
มนเฝ้าจะรักษา
(มะ-นะ-เฝ้า-จะ-รัก-ษา)
จวบสายวรุณทิพยซา
(จวบ-สาย-วะ-รุณ-ทิ-พะ-ยะ-ซา)
ธ ก็แปลงแสดงตน
(ธะ- ก็-แปลง-สะ-แดง-ตน)
๏ เป็นหน่อนรายุวบุรุษ
(เป็น-หน่อ-นะ-รา-ยุ-วะ-บุ-หรุษ)
สิริสุทธิโสภณ
(สิ-หริ-สุท-ธิ-โส-ภณ)
ก้มกราบประณตศิรกมล
(ก้ม-กราบ-ประ-ณต-ศิ-ระ-กะ-มล)
มนโมทนาการ
(มะ-นะ-โม-ทะ-นา-การ)
๏ คือปางประวัติพระวรพุทธ
(คือ-ปาง-ประ-หวัติ-พระ-วะ-ระ-พุทธ)
สุวิสุทธสันดาน
(สุ-วิ-สุท-ธะ-สัน-ดาน)
คราหนึ่ง ณ ครั้นบุรพวาร
(ครา-หนึ่ง-นะ-ครั้น-บุ-ระ-พะ-วาร)
ลุอดีตกาลไกล๚๛
(ลุ-อะ-ดีต-ตะ-กาล-ไกล)๚๛