31 พฤษภาคม 2553 22:30 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
เมื่อจิตว่างวางปลดปละละกิเลส
เปลื้องจากเหตุอันหม่นหมองมิผ่องใส
ปราศจากแม้มลทินเกาะกินใจ
ก็ยังให้เกิดสงบพบกับฌาณ
เพียงติดตามลมหายใจได้เข้า - ออก
ระลึกบอกด้วยพุทธ - โธ นะโมขาน
กำหนดจิตให้รู้รับกับลมปราณ
ด้วยอาการอันสันติบานผลิใจ
จิตประหนึ่งผิวพื้นน้ำยามไร้คลื่น
ราบเรียบดั่งดุจแผ่นผืนกระจกใส
ไร้ละอองธุลีเถ้าเขม่าใด
มาทำให้กระจกนี้มีราคิน
เมื่อความว่างสว่างวาบมาทาบจิต
ไม่ยึดติดในสิ่งใดอะไรสิ้น
ไม่รับรู้ไม่รับฟังไม่ยังยิน
หมดมลทินสิ้นกิเลสเศษอารมณ์๚๛
21 พฤษภาคม 2553 21:17 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ ตรีเนตรโปรดสดับซร้อง.....ยลยิน
จตุรมุขแปดโสตผิน..................พักตร์บ้าง
นารายณ์บรรทมสินธุ์................ล่วงตื่น
อ้า...พิฆเนศรอย่าร้าง...............หลบลี้ทำเมิน
๏ เชิญองค์อินทร์เจ้าฟ้า.......มามอง
เทพนพเคราะห์คระลอง............บ่ายหน้า
องค์นักษัตริย์ทั้งสิบสอง.............อีกเล่า
ขอล่วงลงจากฟ้า...................สู่พื้นธรณินทร์
๏ ทั้งพระอัศวินผู้.................แพทยา
พระวิษณุกรรมา.......................ชาญช่าง
แหละพระสยามเทวา................ธิราช
โปรดเถิดโปรดร่วมสร้าง.......พลิกพื้นนครทอง
๏ เรืองรองเรืองฤทธิ์ไท้.......เทวัญ
เทพพระผู้ทรงธรรม์.................เอนกแล้ว
ชุบชีพเมืองสวรรค์..................อมรยศ
รัตนโกสินทร์แก้ว...................กลับฟื้นคืนดี
๏ โอมศรีชยไชย...............เทวฤทธิ์
โปรดประสาทประสิทธิ์.............ก่อเกื้อ
ดลบันดาลนิรมิต....................กรุงเทพฯ
อโยธยาให้อะเครื้อ..........อะคร้าวราวสวรรค์๚๛
19 พฤษภาคม 2553 20:03 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
ทะเลเพลิงทะเลเดือด
ทะเลเลือด ณ กลางกรุง
ทุราบายก็หมายมุ่ง
จะสร้างมิค(ะ)สัญญี
ประชาช้ำก็ร่ำไห้
อนาถใจกระไรนี่
ฤ บ้านเมืองจะไม่มี
ระเบียบครอบระบอบคลุม
วินาศสันตะโรสิ้น
และแผ่นดินก็ร้อนรุ่ม
จะทางไหนก็ไฟสุม
วะว่อนเพลิงระเริงกัลป์
ฤ ว่าไทยจะสิ้นไท
เพราะเมืองใหญ่ก็สิ้นฝัน
และเสรีรภาพอัน
วิเศษของประชาไทย
ทะเลเพลิงทะเลเดือด
ทะเลเลือด ณ เมืองใหญ่
จะจบกัน ณ วันใด
ฤ กว่าไทยจะสิ้นพงศ์?๚๛
9 พฤษภาคม 2553 09:59 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
รติกาลครองน่านฟ้า
ระดะตาดาราฉาย
แน่ะพระจันทร์พรรณผ่องพราย
ฤจะหมายแข่งแสงดาว?
ก็ทะเลดาวดาษดื่น
สิจะกลืนกินห้วงหาว
กะประชันจันทร์นวลพราว
ก็สกาววาววับตา
มนในใฝ่ฝันเฝ้า
ฤดิเราเว้าหวังว่า
เถอะจะเป็นเช่นดารา
และจะกล้าแสงพร่าพราย
ประจุฝันเสกสรรค์พจน์
มธุรสร้อยบทร่าย
ตริจะปั้นชั้นเชิงชาย
กวิฉายลายกลอนกานท์
สุริยันต์จันทราทิตย์
ริประดิษฐ์อักษรสาสน์
แหละแสดงแจ้งผลงาน
ปณิธาณแห่งเมธี ๚๛
3 พฤษภาคม 2553 21:45 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
องค์ ๑ ชุมนุมเครือข่าย
ตั้งวงล้อมล้อมวงตั้งนั่งไล่รุก
วางแผนปลุกปลุกแผนวางอย่างมาดหมาย
ว่าจะคิดโค่นล้มเจ้าเอาให้ตาย
เป็นเครือข่ายคิดขบถคดโกงกิน
"วันนี้เรามาชุมนุมมาสุมซ่อง
หาทางจ้องจะกินตับดูดทรัพย์สิน
เอาให้มันร้องไห้ร่าน้ำตาริน
หมดตูดปลิ้นเดินกลับบ้านอานไปเลย"
องค์ ๒ กลยุทธ์ล้มเจ้า
"ต่ำกว่าสี่ต้องเรียกไพ่ให้รหัส
แล้วตวัดลุ้นช้าช้าอย่าเพิ่งเผย
ถ้าลุ้นได้หมายสามเด้งเฮงกว่าเคย
สามผีเอ๋ยขอให้เข้าเราจะฮา"
"หากจูจุ๊บบอดสนิทแต้มมิดม้วย
ลงมือช่วยเปลี่ยนไพ่แทนตามแผนว่า
ส่งสัญญาณมืองุบงิบขยิบตา
สลับไพ่ให้ซ้ายขวาอย่ารีรอ"
"โป้งขอสิบหยิบยื่นมาอย่าให้พลาด
ชี้ผงาดก็คือแจ็ครีบแทรกต่อ
โชว์นิ้วกลางกร่างเมื่อไหร่จำให้พอ
ว่าที่ขอคือตัวแหม่มแหร่มไม่เบา"
"เห็นนิ้วนางพลางสำเหนียกเรียกให้รู้
อยากได้คิงที่มีอยู่ดูหรือเปล่า
นี่นิ้วก้อยคอยคำสั่งตั้งให้เอา
เอซของเจ้ามาให้ข้าอย่าช้าที"
"ไหนลองซิลองฝึกกันให้มันพร้อม
ลองซักซ้อมตามรหัสถนัดถนี่
จำสัญญาณนิ้วได้ไหมดูให้ดี
เร็วหน่อยซี่ฝึกริเล่นให้เป็นการ"
องค์ ๓ สถานการณ์พลิกผัน
"โทษนะคะผัวของฉันมันอยู่นี่
ขอมาตามตัวกลับทีไปที่บ้าน
วันวันไม่เคยคิดอวยช่วยทำงาน
ไอ้สันดานคิดแต่เล่นเป็นจัญไร"
"คบแต่พวกเพื่อนห่าเหวแสนเลวชั่ว
แน้!...ยังมัวนั่งเจี๋ยมเจี้ยมเสี้ยมอยู่ได้
โทษทีนะ..ด่าผัวค่า...เปล่าว่าใคร
มึงจะไปด้วยดีหรือมีน้ำตา?"
องค์ ๔ อวสานขบวนการล้มเจ้า
"กูละเหี่ยเพลียหัวใจกับมึงคัก
ทำไมหนอมึงชอบนักเพื่อนหมาหมา?"
พลางถลกชายผ้าถุงพุ่งบาทา
อนิจจาพวกล้มเจ้า....วิ่งอ้าวโกย.....๚๛