18 พฤศจิกายน 2553 19:30 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ เดือน ๑๒ น้ำทรงคงเต็มฝั่ง
ยังล้นหลั่งคุ้งแควกระแสสินธุ์
ยังไหลล้นชลธารละลานริน
ดั่งจะกลืนผืนดินธรณี
๏ จับเจียนจีบใบตองทดลองเย็บ
แล้วกลัดเหน็บมุ่งหมายเป็นบายศรี
ประดับด้วยบุปผาร้อยมาลี
เป็นกระทงลงพลีแม่คงคา
๏ เพราะพระแม่ทรงคุณการุณย์ยิ่ง
ลูกได้อิงอาศัยใช้ถ้วนหน้า
ด้วยจิตน้อมกตัญญูจึงบูชา
ขอขมาบวงสรวงหากล่วงเกิน
๏ พร้อมลอยทุกข์ขุกเข็ญเข่นใจเศร้า
ที่เร่งเร้ารุมรัดจนขัดเขิน
ลอยหัวใจพ่ายแพ้แย่ยับเยิน
ที่เขาเมินหมองหมางอย่างห่างไกล
๏ ลอยทุกข์โศกโรคภัยความไข้เจ็บ
ที่กลืนเก็บเกินทนจนหม่นไหม้
สิ่งไม่ดีทั้งหลายจงหายไป
ขอปล่อยในกระทงลอยคงคา
๏ จุดธูปเทียนส่องใจส่องไฟฝัน
ตั้งจิตมั่นมุ่งมาดปรารถนา
ก่อนกระทงลอยล่องท่องธารา
เหลือบประสานสายตาดวงหน้านวล๚๛
9 พฤศจิกายน 2553 18:47 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ ให้หมดลมหายใจไปช้าช้า
ไม่ต้องเวทนามาสงสาร
ยอมทนแบกรับกรรมช้ำกับการ
ทรมานอกหักรักข้างเดียว
๏ ให้หมดลมหายใจไปช้าช้า
ไม่ต้องเวทนามาแลเหลียว
ตายไปพร้อมอดีตอันซีดเซียว
ที่กุมเกี่ยวคืนวันฝันหมดไฟ
๏ ดับลมหายใจนี้ทีละน้อย
ที่ขัดค่อยย่อยยับกับวันใหม่
ที่แผ่วเบาเปล่าเชื้อรักเจือใจ
จนร้างไร้กำลังสิ้นวังชา
๏ ดับลมหายใจนี้ทีละน้อย
ที่ขัดค่อยย่อยยับลงกับหน้า
เมื่อสูญสิ้นความหมายในสายตา
คงไร้ค่าความหมายในสายใย
๏ ฆาตกรที่รักจักเซ่นสรวง
ด้วยใจที่ถูกลวงจนกลวงไหม้
กับฮึดเฮือกสุดท้ายลมหายใจ
พร้อมน้ำรินท้นไหลเอ่อนัยน์ตา๚๛