26 ธันวาคม 2552 14:11 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
เมื่อหลับตาลงคราใด
ยินเสียงหัวใจร่ำหา
คิดถึงวันวานผ่านมา
มีเขาทุกคราเคียงนอน
วันนี้ไม่มีเขาอยู่
ไร้คู่ร่วมเรียงเคียงหมอน
หัวใจอาลัยอาวรณ์
ทอดถอนสะอื้นทรวงใน
ไม่อยากจะนอนฅนเดียว
มันเปล่ามันเปลี่ยวขมไหม้
ยังครวญยังคร่ำร่ำไร
ถึงเขาถึงใครบางฅน
รอรุ่งทิวาฟ้าสาง
ช่วยคลายช่วยจางความหม่น
ดับความทุรายทุรน
ที่สุดสับสนร้าวราน
จะอีกกี่ชั่วโมงหนอ
เฝ้ารอราตรีพ้นผ่าน
ค่ำคืนช่างแสนยาวนาน
กับการทุกข์ทน...ฅนเดียว
22 ธันวาคม 2552 22:47 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
ตัวตนหนึ่งฉันคือใครใครคือฉัน
โลกหยามหยันเย้ยเหยียดเดียดไฉน
สุขหรือโศกโศกหรือสุขเข็ญขุกใจ
ไม่มีใครให้นิยามความสำคัญ
ตัวตนหนึ่งคือสุริยันต์ จันทราทิตย์
ร่ายลิขิตเรียงถ้อยร้อยความฝัน
จารเจือจากใจกร้าวร้าวรำพัน
เคี่ยวกรองกลั่นจากใจเหงาเคล้าน้ำตา
ตัวตนหนึ่งไร้เพื่อนเลือนความหวัง
ผิดจนพลั้งในบ่วงเล่ห์สิเน่หา
ยินแต่เสียงติฉินเขานินทา
สมน้ำหน้าทุกเช้าค่ำร่ำระงม
ตัวตนหนึ่งนามสดับแจ้งจับฟ้า
แจ่มเจิดจ้ามนในใจสุขสม
ร่ายลำนำเริงรื่นชื่นอารมณ์
ทุกข์ระทมขมใดใจทนทาน
จึงหลงใจไหวหวามในความฝัน
ละลืมวันช้ำเกินเพลินความหวาน
ลบเลือนคืนระทดท้อทรมาน
คุ้นกับการเป็นในใครอีกฅน
เฉกเช่นจันทร์ฝันเฝ้าเงาในน้ำ
เห็นเดือนงามอร่ามตาน่าฉงน
มิรู้แจ้งแสงเร้า-เงาลวงกล
จึงลืมตนผูกพันพระจันทร์เงา
เมื่อชีวิตติดลบพบแต่ทุกข์
ขอปลอบปลุกใจบ้างให้สร่างเศร้า
ใครจะด่าว่าก่นก็ทนเอา
แค่ใจเราได้ฝันกับจันทร์ลวง....
16 ธันวาคม 2552 22:13 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
ศรเล่มนั้นแหวกฟ้าฝ่าอากาศ
มิเคยพลาดเป้าแน่แม้สักหน
นำความอัศจรรย์สู่ใจผู้คน
ทุกชั้นชนเนื่องมานับอาจิณ
ศรกุหลาบสาปซึ้งถึงทรวงนัก
ทะลุปักอกแนบแทบแดดิ้น
ให้ยืนนั่งนอนอยู่มิรู้กิน
ลืมสูญสิ้นสรรคำจำนรรจา
ดั่งฤดีมีไฟมาไหม้สุม
จึ่งร้อนรุ่มด้วยเล่ห์สิเน่หา
ร้อยกระหวัดรัดเกี้ยวเกี่ยวตรึงตรา
จนอุราไหวหวามในความรัก
ครั้นได้ลิ้มบรรเลงเพลงสนาน
หวิวหวามหวานกว่าหวานใดได้ประจักษ์
รสหวานอื่นดื่นด้อยน้อยค่านัก
มิเทียบทานหวานรักสักรสเดียว
เป็นมนุษย์ปุถุชนแค่คนหนึ่ง
เลยเสพซึ้งซ่านใจไม่เฉลียว
ต้องทัณฑ์กามเทพแท้แน่จริงเชียว
จึงต้องเที่ยวคว้าไขว่ไม่อิ่มเลย
14 ธันวาคม 2552 23:45 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
องค์ ๑ วันวาน
มองไปที่ท้องฟ้ากว้างกว่ากว้าง
ปุยเมฆขาวลอยคว้างอย่างปุยนุ่น
หอมไอแดดแผดไออ่อนร้อนละมุน
โชยกลิ่นกรุ่นกรุ่นกลิ่นโชยโบกโบกมา
เคยนั่งเรียงเคียงเชยเย้ยเวหน
นับเมฆเคลื่อนเกลื่อนกล่นบนเวหา
ลอยลมเลื่อนเกลื่อนกลาดดาษดา
ตั้งปุจฉาเมฆไปหยุด ณ จุดใด
ต้นไม้ไหวไกวแกว่งแข่งลมร้อน
คิดถึงตอนแอบร่มชมไม้ใหญ่
หนุนตักนอนผ่อนคลายสบายใจ
ไหล่อิงไหล่ตระกองกอดพลอดรำพัน
เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียงเสียงน้ำไหล
แว่วแต่ไกลจากละหานฝั่งธารฝัน
เคยนั่งริมลำห้วยอยู่ด้วยกัน
จนตะวันลับฟ้ามารอนรอน
องค์ ๒ วันนี้
กลับมายืนที่เก่าของเราสอง
แหงนหน้ามองท้องฟ้าเหมือนคราก่อน
ภาพเดิมยังจับใจในทุกตอน
เหมือนละครฉายฉากเก่าเราเคยดู
ฟ้ายังคงเป็นฟ้ากว้างกว่ากว้าง
เมฆลอยคว้างเคลื่อนไปไกลเกินกู่
ไม้ยังไหวไกวสะบัดลมพัดพรู
น้ำยังไหลรินอยู่คู่ลำธาร
สูดกำซาบไอดินชื้นกลิ่นหญ้า
นึกถึงคราความหลังยังหอมหวาน
ยังซึ้งใจในทรวงจับดวงมาน
กับวันวานคุ้นเคยที่เลยไป
อยู่โดดเดี่ยวเปลี่ยวใจในวันเหงา
แม้ว่าเราร้าวรานสักปานไหน
เหมือนคนขาดความหวังพลังใจ
ต้องยืนหยัดให้ได้แม้ไร้เธอ
เพียงอ่อนไหวในบางช่วงของห้วงฝัน
ว่ามีกันและกันอยู่เสมอ
รู้ตัวดีไร้สิทธิ์คิดพบเจอ
รักยังเอ่อเปี่ยมล้นท่วมท้นใจ
ที่ทำได้เพียงแต่แค่คิดถึง
ความซาบซึ้งแม้ล่วงผ่านนานเพียงไหน
ไว้เติมแรงในวันฝันหมดไฟ
ขาดเธอไปแต่หัวใจไม่ไร้รัก
13 ธันวาคม 2552 12:17 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
องค์ที่ 1 - เดียวดายในต่างแดน
ฉันคือคนไทยพลัดถิ่น
อยู่นอกแดนดินสยาม
เมื่อครั้งเราถูกคุกคาม
ไล่ล่าอาณานิคม
สยามทั้งชาติเจ็บปวด
ร้าวรวดกล้ำกลืนขื่นขม
เจ้าหลวงระกำช้ำตรม
ต่างชาติเข้าข่มเหงไทย
ยอมยกดินแดนบางส่วน
เพื่อรักษามวลรวมใหญ่
ดำรงอธิปไตย
ให้ไทยเป็นไทยสืบมา
เราต่างยอมทนกดขี่
ทั้งที่เจ็บปวดหนักหนา
ถูกพรากจากแผ่นดินมา
อ้อมอกมารดานานเนาว์
ยอมตนทนเสียสละ
แม้จะเจ็บช้ำซ้ำเศร้า
เขาข่มเหงรังแกเรา
อดเอากล้ำกลืนฝืนใจ
คิดถึงผืนแผ่นดินแม่
ได้แต่ก้มหน้าร้องไห้
อยากจะกลับคืนผืนไทย
มีชีวิตใหม่สักวัน
องค์ที่ 2 - ถูกหาว่าต่างด้าว
พ่อพาหนีตายข้ามเขต
ลี้สู่ประเทศในฝัน
ไมตรีจากพี่น้องกัน
คงมีแบ่งปันอาทร
กลับเป็นต่างด้าวลี้ภัย
ลืมเลือนสมัยเก่าก่อน
สยามถูกตัดลิดรอน
ตามหน้าประวัติศาสตร์ไทย
ฉันถูกกีดกั้นกันสิทธิ์
สร้างโอกาสชีวิตใหม่
เป็นคนแปลกสัญชาติไป
จากพี่น้องไทยด้วยกัน
ลืมแล้วหรือใครยอมทุกข์
ให้ไทยได้อยู่สุขสันต์
ใต้ร่มพระองค์ทรงธรรม์
มิ่งขวัญผองชนคนไทย
แม้ไม่มีทะเบียนราษฎร์
ใช่จะเป็นชาติอื่นได้
จะเรียกเราว่าอย่างไร
ก็ล้วนเป็นไทยเหมือนคุณ
องค์ที่ 3 - ขอแค่โอกาส
ขอยืนหยัดเต็มสองขา
คอยความเมตตาเกื้อหนุน
ช่วยอุปถัมภ์ค้ำจุน
การุณเชื้อชาติเดียวกัน
ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
เป็นไปตามใจใฝ่ฝัน
อยู่ในค่ำคืนและวัน
แห่งการแบ่งปันน้ำใจ
ทนทุกข์เพราะเขารังแก
ก็แย่จนเกินรับไหว
ขอไทยอย่าข่มเหงไทย
ให้ต้องหมองไหม้อีกครา