12 พฤศจิกายน 2552 12:52 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
บ้านนายามหน้าแล้ง
พื้นดินแห้งทุกหย่อมหญ้า
พ่อแม่แก่ชรา
คิดลายผ้าซิ่นสไบ
มัดหมี่ลายงามพร้อม
ช่วยกันย้อมลำหมี่ไหม
ร้อยฝันปั่นด้วยใจ
เป็นเส้นใยไว้ถักทอ
คอยคนไม่รักเรา
ใจจึงเศร้าอย่างนี้หนอ
เหว่ว้าน้ำตาคลอ
ได้แต่รอทุกนาที
เพราะว่าลมหายใจ
อยู่มาได้จนวันนี้
ด้วยมีเธอคนดี
เป็นความหวังพลังใจ
อยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน
เทิดรักนั้นค่ายิ่งใหญ่
ขวากหนามมากเพียงใด
ผืนผ้าไหมชุ่มน้ำตา
บ้านนายามหน้าแล้ง
พื้นดินแห้งทุกหย่อมหญ้า
เมื่อไหร่จะกลับมา
คนทอผ้ายังเฝ้ารอ
10 พฤศจิกายน 2552 19:12 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
โลกหยุดเคลื่อนเดือนหยุดคล้อยแล้วลอยนิ่ง
ดาวดูดิ่งดับลงที่ตรงหน้า
ธุลีแสงแห่งแดนสรวงริ้วร่วงมา
จากผืนฟ้าสู่ผืนภพจบผืนดิน
ไร้สำเนียงเสียงใดในหล้าโลก
ครองความโศกครอบงำมืดดำสิ้น
อยู่ว้าเหว่เอกาน้ำตาริน
ที่ได้ยินมีแต่เพียงเสียงหายใจ
ไร้ความรักความหวังยังชีพทุกข์
คอยปลอบปลุกความฝันของวันใหม่
ร่วมเดินบนหนทางอันห่างไกล
ร้อยสายใยสานฝันสู่วันคืน
จะมีไหมใครสักคนบนโลกนี้
ที่ยินดีฝ่าฝันอันขมขื่น
จุดแสงใจให้สว่างอย่างยั่งยืน
เติมเชื้อฟืนถ่านใจให้อีกคน
ขับโลกเคลื่อนเดือนคล้อยหยุดลอยนิ่ง
ดึงดาวดิ่งขึ้นฟ้ามาอีกหน
ลบความโศกสิ้นหวังฝังทุกข์ทน
ล้างความหม่นหมองมัวในหัวใจ
โลกหยุดเคลื่อนเดือนหยุดคล้อยแล้วลอยนิ่ง
ดาวดูดิ่งดับลงตรงฟ้าไหน
ธุลีแสงแห่งแดนสรวงริ้วร่วงไกล
อยู่หนใดใครหนอ...ขอสักคน
10 พฤศจิกายน 2552 12:42 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
เศษแก้ว ทุบแตกทิ้ง เกลื่อนกล่น
นั้น อาจตำเท้าคน เหยียบได้
บาด ลึกทิ่มแทงจน เลือดโชก
คม ปักจนเจ็บให้ ร่ำร้องระงม
เศษอารมณ์ แกว่งให้ ใจหมอง
ยิ่ง ขุ่นเคืองเข้าครอง ครอบไว้
บาด ทุกข์บาดระทม ตรมโศก
ใจ แผดใจเผาไหม้ มอดม้วยทรมาน
9 พฤศจิกายน 2552 18:02 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
กาพย์ยานี ๑๑
ทิวาจะลาจร
ศศิธรก็เยื้องกราย
ดารา ฤ พร่าพราย
แต้มฟ้าหม่นอนธกาล
ราตรีคละคลี่คลุม
ระเรี่ยรุมวะวามหวาน
แสงโสมละโลมลาน
ภิภพพื้นไผทไทย
ดาราจับฟ้าแจ้ง
เข้าขันแข่งแสงแขไข
ละลานตระการใจ
ประกายใสวิบวับวาว
รติมิมิดหมอง
เดือนเข้าครองจองกลางหาว
เมื่อจันทร์พริบพันดาว
โลก ฤ ราวหยุดโคจร
7 พฤศจิกายน 2552 12:43 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
รักเอยมิเคยพบ จะประสบ ณ คราใด
วันวารลุผ่านไป หฤทัยก็เฝ้ารอ
ฤารักผิร้างรา ไป่มิมาคละเคลียคลอ
หัวใจระทดท้อ วิปโยคก็โศกศัลย์
รำพึงคะนึงหา บ่มิมาก็จาบัลย์
ครวญคร่ำและรำพัน ฤดิดวงดะดิ้นดาย
ทุกข์ทนระทมเศร้า ระดะเคล้ามิวางวาย
หนาวร้อนบ่ผ่อนคลาย รสรักละลายเลือน
น่านฟ้า ณ ราตรี ฤก็มีสิดาวเดือน
เหมือนซ้ำยะย้ำเตือน ยุยะยิ้มยะยั่วใจ
โอ้เทวเทวัญ ฤ ธ ทัณฑ์สถานใด
สาปสรรค์บ่บรรลัย ผิจะตายเพราะไร้รัก