14 สิงหาคม 2553 08:20 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ ทะยานโผนโจนฟ้าสู่อากาศ
นาคราชเหยียดกายว่ายเวหน
หอบวารีโหมเชี่ยวเป็นเกลียววน
หมุนขึ้นบนฟากฟ้าสุราลัย
๏ ด้วยความคึกคะนองผยองฤทธิ์
สำแดงอิทธิ์ฤทธาอาการใหญ่
วะเวิ้งว่ายร่ายเล่นยะเย็นใจ
วะวนเลื่อนเคลื่อนไหวในนภา
๏ พิรุณโรยโปรยพร่างควะคว้างหล่น
พยับฝนครึ้มพรำฉ่ำเวหา
ละล่องปลิวพริ้วปรอยเคลื่อนคล้อยมา
ประสานรับฤทธานาคนาคี
๏ แสนประหลาดอัศจรรย์บันเทิงจิต
คนึงพิศติดตามความเคลื่อนที่
ทั้งละอองฝนรายสายมณี
ประหนึ่งทิพย์วารีอันมีมนต์
๏ ทะยานโผนโจนฟ้าสู่อากาศ
นาคราชเหยียดกายว่ายเวหน๚๛
1 สิงหาคม 2553 19:19 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ ทะเลเพลิงแห่งวัฎฏะ
ใครเล่าจะละข้ามผ่าน
ผู้ที่พึงใจกับการ
อยู่ในสังสารย่อมทุกข์
๏ ด้วยต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย
พลัดจากที่หมายเข็ญขุก
เศร้า ขม ขื่น หวาน รานรุก
โหยหาความสุขสำราญ
๏ เปี่ยมอาสวะกิเลส
เป็นเหตุให้เพลิงทุกข์ผลาญ
จิตนั้นพันธนาการ
ด้วยบ่วงแห่งมารรัดไว้
๏ น้ำตาของฅนเหล่านี้
มากมีสุดคณาได้
มหาทะเลอาลัย
ระงมร่ำไห้ทุกข์ทน
๏ ทั้งภูเขาเถ้ากระดูก
ที่ถูกทับถมเกลื่อนกล่น
เรามีความสุขอยู่บน
ธุลีเปื่อยป่นฅนตาย
๏ อีกกี่ทะเลน้ำตา
ก็หาสุดประมาณหมาย
ไม่มีเบื้องต้นเบื้องปลาย
เวียนว่ายเคว้งคว้างอย่างนั้น
๏ คือห้วงวัฎฏะสังสาร
แห่งอุปาทานยึดมั่น
กำเนิดเกิดดับกัปกัลป์
มิรู้เท่าทันเพลิงทุกข์
๏ ว่าเป็นเพราะจิตปรุงแต่ง
สำแดงอาการซ่านสุข
รัก โลภ โกรธ พล่านรานรุก
เคล้าคลุกระคนปนไป
๏ ทะเลวัฎฏะสังสาร
จะมีผู้ผ่านพ้นไหม?
สำนึกลึกยังหวังใจ
จะข้ามพ้นได้สักวัน๚๛
27 กรกฎาคม 2553 16:43 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ ความรักคือความร้าย
ผู้พลั้งพ่ายตกเป็นทาส
ชะตาคราถึงฆาต
พิศวาสประหารใจ
๏ ความรักคือความร้อน
กว่าไฟฟอนสุมจิตไหม้
เพลิงกัลป์ผลาญบรรลัย
เผาแผดให้ใจทุกข์ทน
๏ เมื่อรักเข้าครอบงำ
ดิ่งถลำในใจฅน
ดวงตาก็มืดมน
ไม่ยินยลในสิ่งใด
๏ รักฉาบเสน่หา
ที่ทาบทาอาบหัวใจ
เป็นพิษป่วนจิตให้
ฅนป่วยไข้ไร้กำลัง
๏ เมื่อใจไล้ด้วยรัก
ฅนก็มักมีความหวัง
ฉะนี้ในทุกครั้ง
ความผิดหวังยังตามมา
๏ เมื่อคลาดพลาดสิ่งรัก
ใจก็มักเกิดปัญหา
หม่นหมองนองน้ำตา
โศกโศการ่ำอาลัย
๏ ความรักคือความร้าย
ผู้พลั้งพ่ายจึงหม่นไหม้
เพลิงกัลป์ผลาญบรรลัย
เผาแผดให้ตายทั้งเป็น๚๛
19 กรกฎาคม 2553 23:08 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
ที่ หัวใจครวญคร่ำร่ำโหยไห้
ใด นะใดเกาะกุมสุมจิตเศร้า
มี รักก็รักคุดพุดโธ่!เรา
รัก ชอบเขาข้างเดียวเปลี่ยวเหลือทน
ที่ ผิดพลั้งยั้งใจไว้ไม่อยู่
นั่น เพราะรู้เกินรับสุดสับสน
มี ทางใดผ่อนเศร้าเราสามฅน
ทุกข์ เสียจนหม่นหมองนองน้ำตา
เมื่อ กลืนกล้ำจำอยู่สู้กลืนกล้ำ
ไม่ กลัวช้ำคำเล่ห์เสน่หา
มี เพียงใจย่อยยับอับราคา
รัก ปวดปร่าเจ็บแปลบแสบเหลือทรวง
ก็ น้ำตาร่วงหล่นจนรินหลั่ง
ไม่ หยุดยั้งเพราะลึกยังนึกห่วง
มี ความเหงาติดตามเฝ้าถามทวง
ทุกข์ จะล่วงจากกันเมื่อวันใด?๚๛
14 กรกฎาคม 2553 12:44 น.
สุริยันต์ จันทราทิตย์
๏ ในสำนึกลึกร้าวกร้าวและเจ็บ
โดนเขาเหน็บหยามเหยียดเย้ยเสียดสี
ด้วยไร้เส้นสหายสายไม่มี
ถูกเขาตีต่ำค่าราคาฅน
๏ เขาเล่นพ้องพวกพรรคกักกางกั้น
แบ่งชนชั้น"เอ็ง-ข้า"น่าฉงน
พลิกลบกลายเป็นบวกแก่พวกตน
สุดจะหม่นหมองไหม้ใจร้าวราน
๏ ชีวิตถูกใช้เซ่นเป็นแค่เหยื่อ
เขาปีนเพื่อไต่ดาวก้าวข้ามผ่าน
ค่าของฅนใช่ดีที่ผลงาน
แต่กลับการณ์กลายว่าเป็นข้าใคร
๏ เมื่อชีวิตบัดซบไม่จบสิ้น
นกขมิ้นเหลืองอ่อนนอนร้องไห้
จากถิ่นฐานบ้านนามาแต่ไกล
กอดหัวใจบอบช้ำถูกย่ำยี
๏ แม้สำนึกลึกร้าวกร้าวและเจ็บ
โดนเขาเหน็บหยามเหยียดเย้ยเสียดสี
ตั้งจิตแผ่เมตตาบารมี
อโหสิชาตินี้อย่ามีเวร๚๛