16 กันยายน 2554 06:59 น.
สุรศรี
๑ โอ้สยามยามเดือดร้อน....อุทกภัย
แลทั่วแผ่นไผทไทย........เปี่ยมน้ำ
รวมพลังประสานใจ.......เป็นหนึ่ง
น้ำท่วมถึงบอบช้ำ...........พ่ายแพ้น้ำใจไทย
.....................................
๒ โอ้สยาม ณ ยามประสบอุทกภัย
อุราระบมระทมฤทัย
ก็ทุกคน
๓.มองนภาก็มีแต่เมฆะหม่น
ทะมึนพยับประดับประฝน
จะโปรยปราย
๔.มอง ณ พื้นก็ผืนนทีละลาย
ประดุจมหาสมุทรมิวาย
ณ แผ่นดิน
๕.ฤๅพิรุณพิโรธจะโกรธบ่ยิน
มนุษย์ ณ โลกจะโศกถวิล
บ่ยอมฟัง
๖.แม้มนุษย์บ่หยุดวิโยคประดัง
หทัยจะแตกจะแยก ฤ พัง
สิช่างมัน
๗.อันอุทกระริน ณ ปัจจุบัน
มิเท่ามิเทียบจะเปรียบมิทัน
กะน้ำตา
๘.ฝนระรินยะหยดระรดนภา
ก็แพ้ก็พ่ายเพราะการุณา
ณ จิตใจ
๙.ถึงจะยากจะดีจะมีกระไร
จะป่าวประกาศแหละนี่สิไทย
จะไม่ยอม
.................................
๑๐. อยุทธยายศล่มแล้ว.............ลอยสวรรค์ ลงฤๅ
กรุงรัตนโกสินทร์พลัน......เพริศแพร้ว
บูรพมหากษัตรีย์นั้น........ปราชญ์เปรื่อง
บูรณะกรุงไกรแก้ว.........เทียบฟ้าเมืองสวรรค์
...........................
หวีดดัครับ
นำเสนอเป็นข้อคิดยามที่มีภัย
เราคนไทยช่วยกัน
ด้วยรัก
สุรศรี
..........................
13 กันยายน 2554 14:07 น.
สุรศรี
....น้ำท่วม....
โอ้นอพี่น้องเอย
เสียงทีวีประกาศก้อง พี่น้องไทยถูกน้ำท่วม
ได้รับควมเดือดฮ้อน คราวนี้เฮ็ดจั๋งได๋
มรสุมพัดเข้า เหนือกลางตะวันออก
ภาคอีสานกะโหลดพ้อ นำคะเจ้าผ่องเดียว
ฝนตกตั้งแต่กี้ น้ำเต็มเขื่อนคูหนอง
น้ำเต็มคลองคู่สาย ระบายนำออกสู่มื้อ
มรสุมมาพัดซ้ำ ฝนบ่เซาตกมาตื่ม
ยากสิลืมทุกข์ฮ้อน แนวนี้กะส่างเป็น
ข้าวในนาหาก่อนแล้ว แตกกอเขียวจ่วนห่วน
น้ำท่วมขาวอากลาก บ่เห็นก้านกิ่งไป
เหลียวไปเห็นแต่น้ำ เฮือนซานบ่ได้อยู่
เสื้อคาคีงอ้อนต้อน หนีไปซ่นอยู่หลังคา
พวกข้าวของเสื้อผ้า น้ำมาบ่ฮู้เมื่อ
ฮ้องหาลูกและเต้า ลุงป้าอยู่จั่งได๋
บางเฮือนน้ำพัดซ้ำ ดินถล่มจ่มแพพัง
ลางคนเสียชีวิต ค้นหาศพบ่ทันพ้อ
รัฐบาลบ่ได้ซ้า ฟ้าวฝั่งทางซ่อยเหลือ
ข้างของสัมภาระ น้ำในขนไปพร้อม
เทิงข้าวสารอาหารแห้ง ของจำเป็นเร่งด่วน
ทหารหาญบ่ได้ซ้า นำเรือเข้าซ่อยสู่เฮือน
จบข่าวพอส่ำนี้ สุรศรีประกาศข่าว
สิรายงานสู่เจ้า ความคืบหน้าเว้าสู่ฟัง
ทางเอฟบีเด้อพี่น้อง รายงานด่วนออนไลน์
โปรดติดตามกันเอา เด้อพี่น้องอย่าได้ลืม......ซั่นแหล่ว...
........................
กลอนผญาอีสานครับ
ร่วมส่งกำลังแงใจ
น้ำท่วมพ่ายน้ำใจครับ
ด้วยรัก
สุรศรี
3 กันยายน 2554 17:15 น.
สุรศรี
๏ ขุนเขายังตระหง่าน
สายธารยังเอื่อยไหล
ดอกไม้ยังเบ่งบาน
๏ ตะวันยังเจิดจ้า
นกกายังขับขาน
เพลงหวานยังบรรเลง
๏ พายุยังคงพัด
คลื่นซัดเพียงบทเพลง
กระทบหาดดาษดา
๏ แสงดาวยังพราวพร่าง
จันทร์สว่างกลางนภา
หิ่งห้อยกระพริบพราย
๏ ขั้วโลกยังเหน็บหนาว
หิมะขาวยังละลาย
โลกร้อนยังระทม
๏ ทะเลสวยเพราะคลื่น
ชีพฟื้นเพราะทุกข์ตรม
ผิดพลาดเป็นบทเรียน
๏ ชีวิตต้องฟันฝ่า
ปัญญาต้องพากเพียร
เพื่อชีพต้องดำรง
๏ โลกนี้ยังหมุนไป
ดวงใจต้องมั่นคง
ยืนหยัดอย่าสั่นคลอน.....
...................................
หวัดดีครับ
คิดถึงทุกคนครับ
มีกาพย์ใหม่มานำเสนอยังไม่ได้ตั้งชื่อครับ
ช่วยติชมหน่อยละกัน
.......................
บทหนึ่งมีสามวรรค วรรคละ ๕ คำ คำสุดท้ายวรรคแรก สัมผัสกับคำที่สองของวรรคต่อไป ส่วนวรรคที่สามไม่บังคับสัมผัสครับ
..........................
ด้วยรัก
สุรศรี