20 เมษายน 2553 08:34 น.

เมื่อพ่อลั่นกลองรบ

สุรศรี

พ่อฉันนั้นยังแกร่ง	ยังแข็งแรงและมีไฟ
ข่าวคราวในเมืองใหญ่	พ่อสนใจและติดตาม
เขาบอกมีการรบ	พ่ออยากพบไม่เกรงขาม
ประเทศมีสงคราม	ลูกอย่าห้ามพ่อจะไป
สงครามในเมืองหลวง	มันหนักหน่วงกว่าศึกไหน
ผุ้คนจากบ้านไกล	เข้าเมืองใหญ่ไปประท้วง
พ่อจ๋าจงอย่าไป	ลูกห่วงใยแม่เป็นห่วง
อันตรายในเมืองหลวง	ภัยทั้งปวงมันมากมี
ลูกเอ๋ยจงอย่าห้าม	แม่อย่าปรามเลยครั้งนี้
พ่อไปปราบไพรี	จงอยู่ดีอย่าห่วงใย
สังคมมีชนชั้น		เอาเปรียบกันอยู่ร่ำไป
ยุติธรรมอยู่ที่ไหน	ประชาธิปไตยจะต้องมี
สังคมมีเอาเปรียบ	ถูกย่ำเหยียบถูกขยี้
อ่อนแอถูกย่ำยี	ถูกกดขี่ถูกบีทา
สังคมต้องแยกแตก	ถูกแบ่งแยกเพราะปัญหา
เบื้องหลังใครบัญชา	ใครชักนำใครบงการ
แม่หยิบกระติบข้าว	กล่องสีขาวที่พ่อสาน
น้ำพริกปลาทอดจาน	เอาไว้ทานระหว่างทาง
หยิบสร้อยมาห้อยคอ	เชิญหลวงพ่อประทับวาง
ตะกรุดเป็นเครื่องราง	ให้แคล้วคลาดปราศโพยภัย
หยิบบัตรประชาชน	ไว้ติดตนต้องนำไป
โทรศัพท์ที่ต้องใช้	จดเบอร์ไว้โทรหากัน
ไม่มีมีดดาบดอก	ไม่มีหอกไปโรมรัน
พร้าขวานจะฟาดฟัน	โล่เขนดั้งนั้นไม่มี
ไร้ม้าช้างกรำศึก	ที่โลดคึกฝึกมาดี
สมรภูมิเข้าราวี	ในครั้งนี้ต้องเปลี่ยนไป
ลมทุ่งฝากแม่ด้วย	ชีพไม่ม้วยจะนำชัย
ลมฝนฝากทรายวัย	ลูกของข้าเจ้าจงคอย
ฝากดินดูแลด้วย	ทั้งสวนกล้วยแลไร่อ้อย
ฝากฟ้าเมตตาหน่อย	ช่วยโปรยฝนพรมไร่มัน
พลรบจะไปศึก	 ต่างคักคึกพร้อมประจัน
เสียงแตรดังสนั่น	ลั่นกลองรบจะยกทัพ.....
...........................................................................................
....ดอกเอ๋ยดอกราตรี	ค่ำนี้ทีวีออกข่าว
รัฐบาลมีหลายเรื่องราว	เรื่องเศร้าเรื่องร้าวโปรดฟัง
เนื่องจากมีการชุมนุม	ของกลุ่มเสื้อแดงแข็งขัง
ก่อความเดือดร้อนเสียงดัง	บ้านเมืองต้องพังวุ่นวาย
กองทัพจำเป็นต้องรุก	ต้องบุกให้แยกแตกสลาย
เมื่อมีบาดเจ็บล้มตาย	เลวร้ายแต่ก็จำเป็น
มีมือที่สามแอบแฝง	ปะปนเสื้อแดงดั่งเห็น
ซุ่มยิงทำร้ายซ่อนเร้น	นี่คือประเด็นความจริง
รัฐบาลมีความเสียใจ	ต้องขออภัยทุกสิ่ง
ขอเสียสละไม่ทิ้ง	ไม่นิ่งทำงานต่อไป
.............................................................................................
....ลมเอยเจ้าลมร้อน	ละลิ่วปลิวว่อนไฉน
หรือนำข่าวคราวเมืองไกล	บอกว่าพ่อไม่กลับมา
หรือสงครามยังไม่จบ	พันธกิจนักรบแกร่งกล้า
เมื่อไม่มีชัยคืนนา	ตัวข้าจะไม่หวนคืน.......				
18 เมษายน 2553 10:13 น.

เพียงคำเดียว.....

สุรศรี

เพียงคำเดียว
        ....... เมื่อทำการสิ่งใดลงไปแล้ว
       ย่อมไม่แคล้วส่งผลที่ตนก่อ
       จะดีร้ายอย่างไรในต้นตอ
       เหตุย่อมส่งผลต่อที่ก่อนั้น
      ...... เมื่อทำการสิ่งใดแล้วได้ผล
      ที่ผู้คนได้คุณประโยชน์นั่น
      ความดีย่อมส่งผลต่อตนพลัน
      เขาพากันสรรเสริญเจริญคุณ
       ....... เมื่อทำการสิ่งใดแล้วไร้ผล
      เสียงผู้คนวอนหยุดไม่อุดหนุน
      ความชั่วย่อมปรากฏหมดใบบุญ
      ว่าโง่เง่าเต่าตุ่นเขาด่าทอ
      .......จะทำการสิ่งใดทำไปเถิด
      ขอเพียงเกิดผลดีที่ตนก่อ
      ถ้าเกิดผลเสียหายร้ายแรงพอ
      เพียงแต่ขอหยุดทำกรรมไม่ดี
      ....... เพียงเอ่ยคำคำหนึ่งซึ่งปรากฏ
      ได้ประโยชน์มากมายหลายวิถี
       ผมขอโทษ ที่ทำไปไร้ปรานี
        เผื่อบางทีเขาอาจให้อภัยคุณ....				
12 เมษายน 2553 18:39 น.

สงกรานต์บ้านเฮา

สุรศรี

สงกรานต์บ้านเฮา
ฮอดสงกรานต์ยามเดือนห้า........เถิงเวลาเล่นสาดน้ำ
ซุมหมู่เจ้าพี่น้อง.........................โฮฮ้องม่วนแซว
ลูกหลานมาเยี่ยมบ้าน.................ไปทำงานอยู่บางกอก
เก็บกำเอาเงินคำ..........................สิ่งของมาต้อน
ผ้าป่าพ้อม...................................เงินทองมาสร้างวัด
คนละเล็กละน้อย........................พอได้ตื่มกัน
สู่ขวัญซุมผู้เฒ่า...........................ฝ้ายผูกแขนพ้อมไข่หน่วย
ต้มไก่น้อย..................................เทิงซั่วตื่มนำ
ยามกลางคืนลงเล่น....................ฟ้อนรำวงเล่นลัดด่าน
พากันเล่นลักลี้...........................มอญซ่อนผ้าม่วนหลาย
หดน้ำตายายเฒ่า........................ขอขมาอย่าให้บาป
ให้อยู่สุขลื่นล้น.........................ยาวหมั่นหมื่นปี
พากันเด็ดดอกไม้......................ไหว้พระยามมื้อแลง
พากันตบพระทราย...................ใต้ห่มโพธิ์จั่งดีล้น
ซ่อยกันรักษาไว้.........................ประเพณีไทยให้คงอยู่
ซ่อยกันสานสืบสร้าง.................แปลงบ้านให้ฮุ่งเฮือง....พี่น้องเอย
.
ซุม.......หมู่  พวก
ต้อน......ของฝาก
พ้อม.......ด้วย  พร้อม
ตื่ม.........แถม   ด้วย
ซั่ว........อาหารชนิดหนึ่ง นำเนื้อไก่ที่ต้มสุก ฉีกเอาเนื้อมาปรุงด้วยข้าวคั่ว หอม พริกป่น   คั่ว   น้ำปลา
ลัดด่าน.....การเล่นชนิดหนึ่ง  คล้ายตีจับของภาคกลาง
ลักลี้......การเล่นซ่อนหา
หดน้ำ....รดน้ำ
แปลงบ้านให้ฮุ่งเฮือง....สร้างบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง
...............
ขอพี่น้องมีความสุขในวันสงกรานต์ปีใหม่ไทยครับ				
11 เมษายน 2553 15:15 น.

แตกหัก

สุรศรี

เมื่อเมฆเริ่มก่อเค้า...........มืดหม่น
              อากาศร้อนระคน...................อบอ้าว
              พายุฤดูฝน.............................บ้าคลั่ง
              หญ้าแพรกก็แหลกร้าว...........เจ็บช้ำเพราะฝน ฯ
       ....................................................................
      เมื่อเมฆได้ตั้งก้อน........อากาศร้อนเริ่มอบอ้าว
พายุฝนได้ตั้งเค้า...............แล้วสายฝนก็หลั่งริน
      เมื่อฝีได้กลัดหนอง......จนผุพองก็แตกสิ้น
เหวอะหวะก็แหว่งวิ่น..........เป็นรอยแผลให้แก้ไข
      เมื่อไฟใกล้น้ำมัน.........ก็มีอันลุกเป็นไฟ
คุโชนจนลามไหม้..............จนวอดวายเป็นถ่านดำ
      เมื่อแก็สมีเต็มถัง.........ไม่ระวังกระแทกซ้ำ
ระเบิดก็เกิดกระหน่ำ..........สุดแก้ไขช่วยได้ทัน
      เมื่อจุดประกายไฟ.......ก็แล้วใครที่จุดมัน
แล้วใครจะช่วยกัน............ไม่ให้ไฟมันไหม้ลามฯ				
7 เมษายน 2553 06:31 น.

Talking without speaking

สุรศรี

Talking  without  speaking
    Hearing  without  listening.

    ประวัติศาสตร์จารึกไว้........สักวัน
ต่างฝ่ายต่างสีกัน.....................พูดได้
หวังให้สมานฉันท์..................หยุดแยก
จับเข่าคุยกันให้.......................พบได้ครึ่งทาง
     ประดาบเลือดสาดถ้วม .......เวที
ต่างฝ่ายมิใยดี...........................อ่อนง้อ
ต่างฝ่ายต่างทำที่.......................ฉันบอก
ฉันไม่ทำตามข้อ......................เรียกร้องเธอเสนอ
      ฉันพูดเรานั้นพูด...............ด้วยกัน
พูดสิ่งที่ใจฉัน..........................อยากได้
พูดในสิ่งเพ้อฝัน......................หวังวาด
ฟังแค่ฟังกันไว้........................ออกซ้ายทะลุขวา
      ถอยหลังคนละก้าว...........ได้ไหม
ลดทิฐิในใจ.............................ออกบ้าง
คงจะไม่มีใคร.........................เสียเปรียบ
แข็งก็แข็งกระด้าง..................สุดท้ายใครเสีย ฯ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุรศรี