5 กุมภาพันธ์ 2553 07:43 น.
สุรศรี
อ๊อฟแดงแต่งงานนั้น
มีลูกด้วยกันสองคน
อะไรก็หย่อนยาน
เป็นเรื่องสังขารของคน
สะโพกและหน้าอก
มันคล้อยตกดูพิกล
น้ำหนักก็เพิ่มขึ้น
สุดจะฝืนจริงหนอคน
วันวันไม่ทำงาน
ล้างถ้วยล้างจานเอาแต่บ่น
บางวันเล่นแต่ไพ่
หวังรวยไวดูหนอคน
ลูกเต้าไม่ดูแล
มันช่างแย่นะหน้ามล
เรื่องเซ็กนั้นไม่มี
นานเกือบปีมันเหลือทน
ซื้อหวยหวังรวยเร็ว
แต่ก็เหลวมีแต่จน
วันหนึ่งในตอนเช้า
อ๊อฟชี้เข้าที่ตรงก้น
ถ้าเธอฟิตซะหน่อย
มันคงไม่ย้อยคงจะน่าสน
วันใหม่ชี้ที่หน้าอก
ดูตลกและชอบกล
อีกเช้าของวันใหม่
เมียกำกล่องดวงใจเพราะสุดจะทานทน
ถ้าแกฟิตซะหน่อยหนึ่ง
ฉันคงไม่พึ่ง..ช่างไฟ...คนขับรถ..และคนสวนอีกคน ฯ
4 กุมภาพันธ์ 2553 13:23 น.
สุรศรี
เจดีย์ธาตุที่ตั้งริมฝั่งโขง
ที่เชื่อมโยงสายสัมพันธ์ที่มั่นหมาย
ของชาวพุทธที่ยึดมั่นกันมากมาย
ทั้งฝั่งขวาฝั่งซ้ายหลายหลายคน
บุญเดือนสามนมัสการงานพระธาตุ
ต่างมุ่งมาดกราบไหว้ได้สักหน
เพื่อชีวิตจะได้มีศรีมงคล
เป็นกุศลผลบุญคุณอนันต์
วันมาฆบูชาสิบห้าค่ำ
พิธีกรรมเวียนเทียนที่ยึดมั่น
ต้องไปร่วมในพิธีที่สำคัญ
ไปร่วมกันไหว้พระธาตุพนม
จากหนองคายถนนสายริมฝั่งน้ำ
เลาะเรียบลำฝั่งโขงมาวันทาก้ม
สายอุบลมุกดาหารผ่านมาชม
สายสกลก็นิยมกันผ่านมา
จากภาคเหนือภาคกลางอีสานใต้
ต่างมาไหว้พระธาตุกันพร้อมหน้า
รถนับพันคนนับหมี่นล้วนศรัทธา
พวกพ่อค้าแม่ค้าก็มากัน
นับร้อยพันร้านค้าตลาดนัด
เขาต่างจัดแบ่งไว้นอกในนั่น
ใครใคร่ซื้อะไรมีครบครัน
มีนับพันนับร้อยดาษดา
ต่างเบียดเสียดเยียดยัดอัดกันแน่น
คนนับแสนธูปเทียนได้กันพร้อมหน้า
กัลปพฤกษ์พร้อมเครื่องโมทนา
ได้แล้วมาเวียนบรรจบครบสามที
กล่าวถวายบูชาองค์พระธาตุ
เกิดทุกชาติให้พ้นทุกข์อยู่สุขี
อยู่ภายใต้ร่มพระบารมี
ได้ยินดีเป็นพี่น้องผองชาติไทย
อย่าได้มีความโลภและโกรธหลง
อยู่ยืนยงร้อยพรรษาจะหาไหน
สุขภาพกายใจดีอย่ามีภัย
รัตนตรัยเป็นที่พึ่งซึ่งยาวนาน
กลิ่นธูปเทียนควันฟุ้งฝุ่นตรลบ
อากาศร้อนอ้าวอบทั่วสถาน
มาทุกปีอากาศหนาวเหลือประมาณ
เหลือทนทานต้องออกมาหน้าเจดีย์
มองเห็นพระเจดีย์สี่เหลี่ยมสูง
ดั่งยางยูงดูสง่าเป็นราศี
มีลาวดลายบัวงามอร่ามดี
ยอดแหลมมีฉัตรทองมองเห็นไกล
ตั้งอยู่ห่างเมืองนครสักหกสิบ
มองลิบลิบยืนเด่นเห็นใกล้ใกล้
อยู่อำเภอธาตุพนมถิ่นภูไท
ศูนย์รวมใจไทยพุทธนับพันปี
ขอพี่น้องบ้านกลอนรับพรเถิด
อันประเสริฐทั่วหล้าสง่าศรี
ให้ร่ำรวยสวยหล่อและพอดี
อย่าได้มีโพยภัยใจสุขเอย ฯ
4 กุมภาพันธ์ 2553 08:29 น.
สุรศรี
อีเมลถึงนางฟ้า.......
อ้ายนี่คิดฮอดน้อง เปิดอ่านอินเตอร์เน็ต
ได้แต่เขียนจดหมาย ส่งอีเมลเถิงน้อง
มื้อนี้เขียนจากห้อง มอสองอยู่ห้องหนึ่ง
ให้การบ้านเด็กน้อยแล้ว กะเลยเปิดนั่งเขียน
เป็นจั่งได๋นอหล่า ศรีอำคานางฟ้าพี่
เจ้าอยู่ดีอยู่บ่น้อง นางหล่าเป็นจั่งได๋
อ้ายโทรไปมื้อนั่น คือบ่รับสายโทร
รึว่านางมีไผ นั่งนำพะนางน้อง
รึว่าพ่อแม่น้อง หวงนางบ่ให้พี่
คบกับอ้ายผู้นี้ ผู้จนยากกว่าไผ
รึว่าแฟนของน้อง มีสองเทียมผ่าง
นางปิดบังโตอ้าย ตั๋วให้คิดคะนิง
อ้ายนี่คิดฮอดน้อง ละเมอหาบ้าป่วง
ห่วงแต่นำแจ่มเจ้า เห็นข้าวบ่ยากกิน
มื้อนั่นงานวันเกิดน้อง ขอขวัญได้รับบ่
ห่อกระดาษให้เจ้า เห็นแล้วเป็นจั่งได๋
ถืกใจอยู่บ่หล่า ของบ่มีราคา
แต่มันออกจากใจพี่ คันบ่มักแท้แท้
ให้นางหล่าส่งคืน โลดเด้อ...
มือนี้พอส่ำนี้ คนดีอ้ายไปก่อน
เอาไว้ตอนหน้าพุ้น สิส่งหานางฟ้าใหม่
ขอบ้ายบายพอส่ำนี้ ซียูเล็ตเตอร์....เด้อนางเด้อ...
3 กุมภาพันธ์ 2553 15:14 น.
สุรศรี
..........ดาวนั้นมี...ไว้...เบิ่ง
สูงเสียดฟ้า ดารดาษดวงดาว
พราวพรายแสง อยู่เทิงปลายฟ้า
ส่องทางให้ เห็นไกลเฮืองฮุ่ง
ดาวไก่น้อย หลายล้นหลากมี
สวยหยาดฟ้า ลงดินสูงส่ง
งามหยาดย้อย นางฟ้าบ่ปาน
งานการสูง กว่าคนทั้งค่าย
คนส่ำอ้าย ตาน้องบ่เหลียว
คนจั่งอ้าย ซาวนาหน้าก่ำ
ทุกข์ยากไฮ้ เงินไซ้บ่มี
งานการสร้าง วันวันเตะฝุ่น
หลงปองเจ้า นางฟ้าผู้สูง
หงส์หยาดฟ้า สยองหยาดธรณี
โตจั่งกา บ่เจียมโตน้อย
ฝันสืบมื้อ คิดนำหน่ำหน่ำ
กากับหงส์ ฮ่วมคอนบ่มีได้
สูงเสียดฟ้า มีแต่เดือนดาว
มือบ่ยาว เอื้อมเถิงโตน้อง
ได้แต่แหงน เหลียวมองยามค่ำ
พอหลับฝัน นับมื้อสืบเว็น ..น้องเอ้ย...ฯ
.................................
อิบาย
เทิง.....ข้างบน
เฮืองฮุ่ง.....รุ่งเรือง
ลื่นคนทั้งค่าย...เกินคนทั้งหมด
ส่ำ....เท่า ประมาณ
ไฮ้....ยากไร้
จั่ง...อย่าง
ก่ำ...ดำคล้ำ
โต...ตัว
คิดนำ....คิดถึง
หน่ำหน่ำ....ประจำ..เรื่อย ๆ ตลอด
ฮ่วมคอน...ร่วมชีวิต
เถิง..ถึง
แยง..ส่อง
นับมื้อสืบเว็น...อยู่ไปวัน ๆ
2 กุมภาพันธ์ 2553 15:50 น.
สุรศรี
ปีขาลเข้า โลกาไหวหวั่น
สนั่นพื้น ตีน้ำฟาดฟอง
แผ่นดินปี้น เฮติพังย่าว
คนตายเกลี้ยง เกินล้นอนาถนอง
เฮือนเพม้าง มุ่นปานค้อนทับ
ตึกใหญ่กว้าง จมพื้นเหมบดิน
เสียงคนฮ้อง ครวญครางเจ็บปวด
อ้ายพรากน้อง ลุงป้าอยู่ไส
นองนันไห้ น้ำตาย้อยยั่ง
ใหลปานน้ำ ทะเลท่วมบ่ปาน
ซุมพี่น้อง ซาติอื่นมองเห็น
ซ่อยเหลือกัน ข้าวปลาเงินพ้อม
หมอแพทย์พ้อม พยาบาลน้อยใหญ่
ทหารกล้า ดีล้นซ่อยกัน
คนอดอยาก บ่มีเฮือนอยู่
ข้าวและน้ำ กินใซ้บ่มี
อาหารให้ โภชนังปันแจก
เกิดเดือดฮ้อน ดันยู้ยาดกัน
เหม็นอืดพ้อม ศพหมู่คนตาย
เหม็นสาบปาน แฮ้งกุยเหลือฮ้าย
ซุมซาวโลก เงินทองบริจาค
ฝากข้าวน้ำ ของต้อนผ่องกัน
ฮักกันไว้ ซุมหมู่มวลมนุษย์
น้ำใจงาม โพดดีเหลือฮ้าย
ไปภายหน้า โลกเฮาฮักแก่น
เกิดเดือดฮ้อน ดีฮ้ายซ่อยกัน
โพยภายหน้า สุดตาแนมส่อง
ไผบ่ฮู้ ดินฟ้าเปลี่ยนแปลง
บาดหนึ่งฮ้อน คอนคอนหนาวหน่วง
พายุฮ้าย เกิดได้หากมี
ฟากหนึ่งฮ้อน ซีกหนึ่งมีหิมะ
เกิดเภทภัย โลกเฮาระวังไว้ ...พี่น้องเอ้ย ฯ
................................
อธิบาย
ปี้น.......กลับ พลิก
พังย่าว.....พังทลายลงอย่างเร็ว
อยู่ไส....อยู่ไหน
นองนัน....ร้องไห้ฟูมฟาย
ซุม....พวก
มุ่น...แหลกละเอียด
พ้อม...ด้วยกัน
โพด...เกินพอดี
ฮ้าย....ร้ายกาจ
ดันยู้....ผลักดัน
ยาด...ยื้อแย่งกัน
ซ่อยกัน....ช่วยกัน
โภชนัง....ข้าวปลาอาหาร
แฮ้งกุย....เหม็นสาบอีแร้ง
บาดหนึ่ง...ประเดี๋ยวเดียว
แนม....มองเห็น
คอนคอน...ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว
....................
ผมลองแต่งกาพย์อีสานครับ สัมผัสไม่ค่อยเน้น
เน้นเฉพาะเสียงสูงต่ำท้ายวรรคแต่ละวรรคครับ
เพื่อน ๆ ช้วยติชมด้วยครับผม