11 กุมภาพันธ์ 2553 08:13 น.
สุรศรี
(ชาย) .... อ้ายนี่อยากถามข่าวน้ำ ถามข่าวเถิงปลา ถามข่าวนา อยากถามข่าวเถิง เข้า อ้ายอยากถามข่าวเจ้าว่ามีผัวแล้วหรือบ่ หรือว่ามีแต่ซู้ ผัวสิซ้อนหากบ่มี
(หญิง) .... โอนอ อ้ายเอย น้องนี้ปอดอ้อยซ้อยเสมอดั่งตองตัด ผัดดแต่เป็นหญิงมาบ่มี ซายสิมาเกี้ยว ผัดแต่สอนลอนขึ้น บ่มีเครือสิเกี้ยวพุ่ม ผัดแต่เป็นพุ่มไม้เครือสิเกี้ยวกะบ่มี
(ชาย) ..ว่าบ่มีเครือเกี้ยว คือจั่งเป็นหยับหย่าง ว่าตะล่างบ่กว้างสังมาได้ผูกควาย
...........
อธิบาย
เถิง...ถึง
เข้า....ข้าว
ชู้....หมายถึงคนรัก แฟน (คนละความหมายกับชู้ของภาษากลางครับ)
สอนลอน....สาวรุ่น
หยับหย่าง.....เป็นพุ่มเป็นพวง ในที่นี้คือมีคนมายุ่งมากมาย มีคนรักมากมาย
ตะล่าง....ใต้ถุนบ้าน คนอีสานมักทำคอกวัวควาย ไว้ใต้ถุนบ้าน
ผัด...ตั้งแต่
ปอดอ้อยส้อย....บริสุทธิ์ผุดผ่อง
ตองตัด.....ใบตองกล้วยที่ตัดเฉือนโดยมีดมีคม (บางครั้งคนอีสานจะใช้มือฉีกเอาครับ จึงอาจจะฉีก ขาดได้ ไม่เหมือนใช้มีดตัด ตองตัดแสดงว่าต้องไม่ฉีก ไม่ขาด) เป็นคำพูดเปรียบเปรยที่คมมากครับ
...............
ความหมาย
.....พี่อยากถามข่าวถึงนาที่ทำว่าได้ข้าวเท่าไร ถามตัวน้องว่ามีคู่หรือยัง ไม่ได้พูดตรง ๆ ครับ ถามเลียบ ๆ เคียง ๆ ฝ่ายหญิงต้องรู้ทันทีครับว่าเขาหมายถึงอะไร
.....น้องนี่ตั้งแต่เป็นสาวมายังบริสุทธิ์อยู่ยังไม่มีใครมายุ่งเกี่ยวด้วย
.....ปากว่าไม่มีแฟนทำไม มีคนมายุ่งเกี่ยวมากมายหละ ฝ่ายชายไม่เชื่อครับ
.....
10 กุมภาพันธ์ 2553 08:11 น.
สุรศรี
ผญาวันนี้เป็นการเเปรียบเปรยครับ
...อย่ามาติแถลงเว้า เอาเลามาปลูก
บ่แม่เซื้อซาติอ้อย กินได้กะบ่หวาน
...อย่ามาติแถลงหล่ม เอาลมมาปั้นฮูป
เอาแดดเฮ็ดตอกกิ้ว สิไปหมั้นบ่อนจั๋งได๋...
...................
อธิบาย
ติแถลงเว้า....แกล้งพูดดี ทำเป็นพูดดี
เลา....พืชจำพวก อ้อ แขม หน่อนำมาแกงเป็นอาหารได้
เซื้อซาติ...ประเภท ชนิด
ฮูป....รูป
เฮ็ด...สร้าง ทำ
ตอก....ไม้ไผ่เส้นเล็ก ๆ นำมามัดสิ่งของได้
กิ้ว....บิด หมุน
หมั้น....มั่นคง แน่นหนา
จั๋งได๋....อย่างไร
....................................
ความหมาย
1...อย่าทำเป็นพูดดี ทำทีเอาเลามาปลูกแทนอ้อย จ้างมันก็ไม่หวานหรอก
2...อย่าทำเป็นพูดดี ทำทีเอาลมมาปั้นรูป เอาแสงแดดมาเป็นตอกมัด จ้างมันก็ไม่แน่น
คนบางคนแม้จะแกล้งทำเป็นพูดดี แต่กับคนที่รู้ทันกันแล้วมันไม่มีประโยชน์อันใดเลย...นับเป็นคำพูดที่เฉียบคมมากครับ เอาลมมาปั้นรูป ( ทำนองปั้นน้ำเป็นตัวของภาคกลาง) เอาแดดมาเป็นตอกมัด ไม่รู้คิดได้ยังไง คนโบราณนี่เหลือเกินจริง ๆ
มิตรภาพหมั้นยืน
จากใจสุรศรี
9 กุมภาพันธ์ 2553 16:34 น.
สุรศรี
....วันเอ๋ยวันนี้ เป็นวันที่สำคัญกว่าวันไหน
ขอให้เป็นวันที่มีสุขใจ ทำอะไรขอให้สุขทุกทุกวัน
จะวันนี้วันหน้าหรือวันไหน ขอให้เป็นวันสุขใจได้ไหมนั่น
ขอให้เป็นวันแห่งรักทุกวี่วัน ให้รักกันทุกวันสุขสันต์เอย....
...................
ขอให้วันแห่งความรักตรงกับวันสุข
ขอให้ทุกวันเป็นแห่งความรัก
ขอให้ปีหนึ่งมี 2 วัน
คือวันแห่งความรักและวันสุข
และอย่าได้รอให้ถึงวันนั้นถึงจะบอกรัก
บอกวันนี้แหละครับ...
เพราะว่าวันนี้เป็นวันแห่งความรัก
และวันนี้ตรงกับวันสุขครับ
....................
ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันแห่งความรักของวันนี้และทุก ๆ วัน ครับ
จากใจสุรศรี
9 กุมภาพันธ์ 2553 12:33 น.
สุรศรี
คืนกำไรให้ผู้อ่าน......
......มิตรรักเพื่อนักกลอน ผมไหว้วอนให้อ่านกัน
อ่านแล้วได้รางวัล โปรดอย่าช้าจะเสียการ
.....คุณคือผู้โชคดี ที่ได้เปิดเข้ามาอ่าน
นี่คือเทศกาล คืนกำไรให้ผู้ชม
....ได้โปรดโพสข้อความ ที่เห็นตามความเหมาะสม
ทั้งติและนิยม ทางเรานี้มีรางวัล
....ท่านโพสเป็นคนแรก ทางเราแจกของกำนัล
จักรยานได้สองคัน ช่วงน้ำมันราคาแพง
....ท่านโพสคนที่สี่ เราแจกฟรีร่มสีแดง
สิบคันไม่ต้องแย่ง กันแสงแดดไม่เปียกฝน
....ท่านโพสคนที่ห้า เป็นวาสนาท่านเหลือล้น
เอาเลยจักรยายนต์ สวยเฉียบหรูดูอินเทรน
....ท่านโพสคนที่เก้า รายการเราจัดให้เป็น
โทรศัพท์ใหม่เห็นเห็น เล่นเน็ตได้พร้อมโทรฟรี
....ท่านโพสคนที่สิบ จะได้กิ๊ฟเซ็ตดีดี
ท่องเที่ยวเกาะพีพี สองที่นั่งหนึ่งสัปดาห์
.....ท่านโพสที่สิบสอง จะได้ของมีคุณค่า
สร้อยทองมีราคา หนักหนึ่งบาทได้หนึ่งเส้น
....ท่านโพสที่สิบเจ็ด อันนี้เด็ดของเห็นเห็น
ห้าคิวเป็นตู้เย็น ของแบรนด์เนมประหยัดไฟ
....ท่านโพสยี่สิบห้า เป็นเงินตราที่จะได้
หมื่นแสนรับทันใด อย่าตกใจเมื่อรับมัน
....ท่านโพสที่ห้าห้า ของมีค่าอเนกอนันต์
รถยนต์ใหม่หนึ่งคัน เติมน้ำมันให้เต็มถัง
...เพื่อนเพื่อนอยากโชคดี รีบเร็วรี่พร้อมหรือยัง
อย่าแย่งเดี๋ยวคอมพัง โปรดระวัง...เอ้าเร็วไว...ปี๊ด......ฯ
................
ของฟรีไม่มีในโลก ผมคิดบ้า ๆ คนเดียว ต่อไปนี้
การรณรงค์ให้คนไทยหันมาอ่านหนังสือ เราต้องมีทั้งเทคนิคและแทกติก
เพื่อจูงใจให้คนหันมาอ่านหนังสือกันวะแล้ว
...นี่เป็นกลเม็ดอย่างหนึ่งครับ....อย่าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ถ้าคุณยังไม่ลงมือกระทำมัน.....555 หวัดดีครับ
9 กุมภาพันธ์ 2553 08:12 น.
สุรศรี
...คันแม่นได้นั่งซ้าง กั้งคันฮ่มเป็นพญา
อย่าสุลืมคนพลอย ผู้ขี่ควายคอนกล้า
...คันแม่นหัวหน้า นายคนอย่าเว้าใหญ่
คันกินลาบไก่โจ้น อย่าลืมก้อยขี้กะปอม...
..............
อธิบาย
คันแม่น.....แม้นว่า
ซ้าง.....ช้าง
กั้งคันฮ่ม....กางร่ม (คันฮ่ม..ร่ม)
พญา....กษัตริย์
สุลืม...อย่าลืม
คนพลอย....คนยากจน
คอน....เอาสิ่งของห้อยไม้คานไว้บนบ่าให้อยู่ข้างหลัง(ถ้าหาบต้องห้อยข้างหน้าและข้างหลังด้วย)
กล้า...ต้นข้าวที่จะนำไปปักดำ
เว้าใหญ่....พูดอวดดี
ไก่โจ้น...ไก่กระทง ไก่หนุ่ม
ก้อย...อาหารคล้ายลาบ
กะปอม...กิ้งก่า
...............
ความหมาย
ถ้าแม้นคุณได้เป็นใหญ่เป็นโต (เมื่อก่อนได้นั่งช้างกางฉัตรหลายชั้น)อย่าได้ลืมคนผู้ยากไร้ชาวไร่ชาวนา ...ถ้าแม้นได้กินลาบไก่ ก็อย่าลืม ก้อยกะปอม (สมัยนี้อาจกลับกินครับเพราะก้อยกะปอมหากินยากมากครับ ลาบไก่ ง่ายกว่าครับ ยังกะสั่งก๋วยเตี๋ยว) สอนไม่ให้คนลืมตัวครับโดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้า เป็นเจ้านาย (เจ้านาย...ผมชอบคำคำนี้มากครับมันมีความหมายลึกซึ้งเหลือเกิน...นายหัว...พ่อเลี้ยง..ด้วยครับ)
.......
ปล. หนูขนมโพสเข้ามาอ่าน ทำให้ผมอึ้งเลยครับ แกบอกว่าลุงสุรศรีพูดไม่ชัด
ไม่รู้พูดอะไรขนมไม่เข้าใจเลย...555