18 กุมภาพันธ์ 2553 08:14 น.

ผญา (8/53)

สุรศรี

ผญา
    เว้าซู้ต่างบ้าน       คือฝากไข่ไว้นำกา
ฝากปลาไว้นำแมว   บ่แม่นแนวสิเหลือค้าง
มีแต่มันสิย้ำ	         กลืนลงในขี้โผ่น
กินให้ท้องแตกโป้ง  เสียแล้วจั่งสิเซา
    เว้าซู้ต่างบ้าน      ย่านแต่เพิ่นปันใจ
บ่จักไผสิมาซม        บ่จักไผสิมาฮัก
ยาดเอาไปซ้อน .....
.....................
.อธิบาย
ซู้...........คนรัก   แฟน  (คนละความหมายกับชู้ครับ)
บ่แม่นแนว......ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ
สิหลือค้าง........ไม่เหลือ
ย้ำ............ขย้ำ.  เคี้ยว
ขี้โผ่น........ท้อง  พุง
เพิ่น...........ท่าน   
ปันใจ........มีใจให้
ย่าน...........กลัว  เกรง
ไผ.............ใคร
ซม............ชื่นชม
ฮัก............รัก
ยาด..........แย่งเอา
ซ้อน........กกกอด   เชยชม
.............................
ความหมาย
            การไปจีบสาวต่างถิ่น  ต่างบ้านต่างเมืองก็เหมือนกับการไข่ไว้กับกา  ฝากปลาไว้กับแมว กาก็คงกินไข่  แมวก็คงกินปลาไม่เหลือ   
             การไปจีบสาวต่างบ้าน  กลัวแต่ฝ่ายสาวจะมีใจให้คนอื่น ไม่รู้ใครต่อใครจะมาจีบบ้าง  กลัวคนอื่นเขาจะแย่งเอาไปกอดเท่านั้นเอง				
16 กุมภาพันธ์ 2553 16:12 น.

ผญา (8/53)

สุรศรี

ผญา  วันนี้
	ตกกะเทิน ว่าได้ปล้ำ   สินำฮอนเหมิดคู่หง่า
	พร้าบ่บ่าน	            ขวานบ่เป้ จำบ้อง  ข่อยบ่เซา
                      ตกกะเทิน  ว่าได้จ้ำ    สิเป็นแกงหรือป่น กะตามถ่อน
	            มีตั้งแต่สิคุ้ย   เหมิดถ้วยจั่งสิเซา.......
        
	อธิบาย
             ตกกะเทิน....ตกลงใจ  ได้ตั้งใจแล้ว
             ปล้ำ.............ตัดต้นไม้ 
            ฮอน.............ริดรอน ตัด กิ่งไม้
        เหมิด...........ทั้งหมด
            คู่.................ทุกอัน คู่หง่า.....ทุกกิ่ง
            หง่า.............กิ่งไม้
            บ่าน ...........บิ่น 
        จำบ้อง........ปลอกมีด  พร้า  ทำด้วยเหล็ก
            เป้...............บิดเบี้ยว
            เซา.............หยุด
            จ้ำ.............การปั้นข้าวเหนียวเป็นก้อนพอคำจิ้มลงไปบนอาหาร
         คุ้ย..........คล้ายกับจ้ำ ครับ แต่ปริมาณอาหารที่ติดมากับก้อนข้าวเหนียวนั้นปริมาณจะมากกว่า
            ป่น,..แจ่ว..........อาหารอีสานชนิดหนึ่ง เช่นป่นปลา ก็หมายถึงนำปลาไปต้มให้สุกแล้วนำเนื้อมาโขลกกับน้ำพริก  รับประทานกับผักครับ
        กะตามถ่อน....ก็ช่างเถอะ
        ข่อย.....ข้อย  ฉัน  ผม  เป็นคำแทนตัวผู้พูดที่สุภาพครับ(ตรงข้ามกับ กู)
.................................
 ความหมาย
          - ตกลงใจว่าจะตัดต้นไม้แล้วก็จะตัดให้หมดทั้งกิ่งก้าน จนกว่าพร้าจะบิ่น  ขวานจะบิดเบี้ยว
          - ตกลงใจว่าจะกินแจ่ว กินป่นแล้ว  ก็จะทานให้หมดถ้วย
          หมายถึงว่า   การกระทำที่ได้ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะทำ ต้องทำให้ถึงที่สุดให้จงได้  จนกว่าจะสำเร็จผล
     ไม่ยอมรามือง่าย  ๆ  ประมาณนั้นครับ  ใช้ได้ทั้งเป็นผญาเกี้ยว   และบริบท หรือสถานการณ์ทั่วไปครับ				
14 กุมภาพันธ์ 2553 07:27 น.

ควมฮัก...บ่ฮู้โฮย....

สุรศรี

ในมือนี้	สิบสี่กุมภา
	วันแห่งฮัก	ของซุมซาวโลก
	มวลดอกไม้	หอมไกลบานแบ่ง
	เหลืองขาวแดงมอบให้แก่กัน
	ยามมื้อเซ้า	ทำบุญตักบาตร
	หยดหยาดน้ำ	เมตตาเผื่อแผ่
	มวลหมู่สัตว์	กับคนเทิงโลก
	ดลดานให้	สดใสกันทั่ว
	เวรโพยภัย	อย่ามีมาต้อง
	เก็บดอกไม้	มาลาบานแบ่ง
	ห้อยมาลัย	คล้องใจซุมเจ้า
	เฮาพี่น้อง	บ้านหนึ่งเมืองเดียว
	เกลียวกลมมักฮักแพงกันไว้
	ดวงจิตให้	น้ำใจพะไมมิตร
	ยืนยาวหมั้น	พันปีบ่ฮู่เบื่อ
	คือจั่งน้ำ	ทะเลกว้างบ่จาง    พุ้นแล้ว ฯ

..........................
        อธิบาย
       ฮัก  มัก........รัก
ฮักแพง.........รักใคร่
ซุม...............พวกเรา
เฮา...............เรา
  พะไมมิตร.....ผูกมิตรไมตรี
บ่ฮู่เบื่อ.........ไม่รู้เบื่อ
บานแบ่ง......เบ่งบาน
ส้าง......สร้าง
ฮ่วม.....ร่วม
โฮย....โรย
..
ขอมอบควมฮักให้ซู่คน  ขอเก็บมาลัยดอกไม้  คล้องใจฮ่วมกัน
ผูกไมตรีบ่ฮ้าง    ส้างไมตรีบ่โฮย   คือจั่งน้ำทะเล  บ่เคยจืดจางจักเทื่อ พุ้นแล้วเด้อ...				
12 กุมภาพันธ์ 2553 16:49 น.

สุขสันต์วันเกิด นางฟ้าซาตาน...13 กุมภา 53

สุรศรี

สุขสันต์วันเกิด  นางฟ้าซาตาน
	        ใบ...บุญบ่งบอกเนื้อ	นาบุญ
	บัว....คู่ธรรมพุทธคุณ	ค่าล้ำ
	ฉัตร...แก้วช่วยเกื้อหนุน	นำส่ง
	บงกช....ปริ่มเหนือน้ำ	เลิศล้ำจะหาไหน
	       พระเจ้ากำเนิดเจ้า	ตะวันฉาย
	ขับกล่อมโลกให้หาย	หม่นไหม้
	เคียงฟ้าคู่ดินทลาย	โลกดับ
	มอบอุทิศชีวิตให้	คู่บ้านวรรณศิลป์
             ............
	....ใบบุญบ่งบอกเนื้อ	นาบุญเกื้อแก่ชีวี
	สุขสดใสทวี		ให้รุ่งเรืองประเทืองปัญญา
	....บัวคู่ธรรมพุทธคุณ	อุทิศบุญให้ศาสนา
	ดอกไม้ไหว้บูชา		คุณพระรัตนตรัย
	....ฉัตรแก้วคุมเกศา	คุ้มชีวาให้พ้นภัย
	ชีวีเรืองวิไล		เจริญดีศรีมงคล
	....บงกชปริ่มเหนือน้ำ	ประเสริฐล้ำในกมล
	บริสุทธิ์และหลุดพ้น	อวิชาไร้ราคิน
	....พระเจ้ากำเนิดมา	ในโลกาไร้มลทิน
	ตะวันฉายให้ชีวิน	ให้ฟ้าดินกำเนิดกาย
	....เคียงคู่อยู่บนฟ้า	ตราบโลกหล้าถล่มทลาย
	ชีพนี้มิวางวาย		ขอมอบใจให้บ้านกลอน
	....สรรสร้างอักษรศิลป์	ให้ยลยินมิขาดตอน
	วรรณกรรมล้ำอักษร	เคียงคู่กันนิรันดร์เอย...ฯ
.......................
                    ช่วยมอบเค็กให้เธอด้วยครับผม  ขอบคุณมากครับ				
12 กุมภาพันธ์ 2553 08:06 น.

ผญา (7/53)

สุรศรี

ผญาวันนี้  (7/53)
แม่นสิมี   ควมฮู้เต็มพุงเพียงปาก      กะตามถ่อน
               สอนโตเองบ่ได้		  ไผสิย้องว่าดี
	คันเฮาทำความดีแล้ว	  ไผสิหยันกะตามส่าง
	คันเฮาเฮ็ดแม่นแล้ว	  สิหยันหย่อกะส่างตาม ฯ
.......................
อธิบาย
คันแม่นสิ   ........ถ้าแม้นว่า
ควมฮู้..............ความรู้
พุง.................  กระพุง
กะตามถ่อน.,กะตามส่าง.,กะส่าง......ก็ช่างเถอะ    ไม่เป็นไร
โตเอง...............ตัวเอง
ไผ....................ใคร
ย้อง...................ยกย่อง
คันเฮา...............ถ้าเรา
หย่อหยัน,   หยัน................เยาะหยัน   หัวเราะเยาะ
เฮ็ดแม่น.......ทำดีแล้ว  ทำถูกแล้ว
.......................
ความหมาย
-    ถึงแม้จะมีความรู้ท่วมหัวมากมายสักปานใด  สอนตัวเองไม่ได้แล้วก็ไม่มีประโยชน์อันใดนักปราชญ์ไม่ยกย่องสรรเสริญแต่ประการใด
-    ถ้าเราแน่ใจว่าเราทำถูกต้องแล้ว   ดีแล้ว  จะไปกลัวคนเขาเย้ยหยันทำไมกัน
      เป็นคำพูดที่เฉียบคมและเป็นจริงที่สุดครับ ยากที่จะปฏิเสธครับ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุรศรี