12 ธันวาคม 2552 06:48 น.
สุรศรี
ผญา วันละบท
วันนี้ขอเสนอผญาที่เป็นบทเพ้อรำพันของชายหนุ่มถึงหญิงสาวคนรัก และขออนุญาตไม่แปลนะครับ เพราะความหมายเข้าใจง่าย ๆ ครับ
หล่าเอย........
คันบ่ได้เห็นหน้า โทรมาหากะไคแหน่
ได้ยินเสียงจ้อยจ้อย โตอ้ายกะอุ่นใจ
คันบ่ได้เห็นหน้า จดหมายมากะไคแหน่
เห็นลายมือง่องแง่ง กะปานไก้ต่อนคำ
คันบ่ได้เห็นหน้า ส่งเงินมากะไคแหน่
จักสี่ซ่าห้าล้าน โตอ้ายบ่ว่าหยัง
คันแม่นได้เห็นหน้า เงินเต็มภาช์อ้ายบ่เบิ่ง
เห็นแต่น้องยิ้มแย้ม กะปานได้ขึ้นสวรรค์
คันแม่นได้เห็นหน้า ได้เว้าจากะแห่งคัก
ได้จับมือแจ่มเจ้า บ่กินข้าวกะบ่ตาย
คันแม่นได้เห็นหน้า คันแม่นน้องมาหา
กินช้าวนำกะไคอยู่ คันแม่นได้นั่งเว้า
นำเจ้าอ้ายบ่หนี ซั่นแล้ว
คันแม่นได้เห็นหน้า เงินแสนห้าบ่เหลียวเบิ่ง
อ้ายสิเบิ่งแต่หน้าน้อง อ้ายสิจ้องแต่หน้าเจ้า
บ่กินข้าวให้จ่อยตาย พุ้นแล้ว ....นางเอย
ศัพท์
คันบ่,คันแม่น หมายถึง แม้นว่า
กะไคแหน่,กะไคอยู่ หมายถึง ค่อยยังชั่ว
ภาช์ หมายถึง ภาชนะสำหรับใส่เงิน
กะแห่งคัก หมายถึง ก็ยิ่งดี
เหมิดมื้อ หมายถึง ทั้งวัน
จัก หมายถึง สัก,แค่
ต่อนคำ หมายถึง ก้อนทองคำ
กะปาน หมายถึง เหมือนกับ
โตอ้าย หมายถึง ตัวพี่
10 ธันวาคม 2552 16:06 น.
สุรศรี
ยอม..............
เพราะตัวฉันมันมีกรรม ไม่อาจทำตามใจเธอทุกอย่าง
เหมือนคมมีดกรีดกลาง ระหว่างใจให้เจ็บช้ำ
เพราะตัวฉันดั่งมาร ให้เหตุการณ์เลวร้ายลึกถลำ
ทำได้แค่นี้ระกำ ไม่อาจทำตามใจเธอต้องการ
ไม่อยากให้เธอร้อง ตะโกนก้องทรมาน
เจ็บปวดแสนร้าวราน ทุกข์ใจไปนานกว่านี้
ฝืนเกินไปเสียเวลา เร็วช้าก็ปวดร้าวทวี
เจ็บครั้งเดียวก็ดี ตัวฉันนี้ยอมทรมาน
เพราะตัวฉันเลวระยำ ไม่อาจทำตามใจเธอต้องการ
ชั่วและดีประสาน นานจนเป็นฉันเกินจะเปลี่ยนแปลง
ไม่อยากให้เธอร้อง ตะโกนก้องจนหมดแรง
ปวดใจเกินจะแกร่ง ใจไม่แข็งมันร้าวราน
10 ธันวาคม 2552 09:25 น.
สุรศรี
เมาหนักเพราะรักติ๋ม
ทนหม่นหมองคือบักทองต้องผองเหล้า ดื่มให้เมาเผาความกลุ้มที่สุมหัว
เวลานี้ไม่มีรักมาพันพัว เราเหมือนตัวอยู่คนเดียวเที่ยวหยำเป
รักน้องติ๋มสุดแสนแฟนของข้า แต่ติ๋มมาเบือนบิดคิดหันเห
อิทธิพลเงินหนักรักรวนเร สุดคะเนหยั่งได้ใจของคน
เดี๋ยวนี้ทองผองเหล้าเมาให้แอ่น ติ๋มหรือแต๋นหรือต้อยค่อยไม่สน
นอนกอดขวดไม่ปวดร้าวเหมือนกอดคน ติ๋มเขาสนนายห้างก็ช่างปะไร
ใจทองช้ำเพราะติ๋มทำปี้ป่น บักทองคนต่ำต้อยบุญน้อยค่อยไป
มักบ่ได้กะตามส่างทางติ๋ม เอาสุรามาชิมนั่งผองมองแก้ม
มีหยังแล้วสิใจเดียวสัตย์ซื่อ มันบ่คือน้ำเหล้าที่แสนซื่อตรง
กั๊กแล้วก้งกะสัตย์ซื่อคือกัน มันบ่คือใจติ๋มบ่ซื่อตรงคงที่
เฮาบ่มีหยังดอก นอกจากเมามีน้ำเหล้าสำรอง
มีแต่เหล้าเท่านั้น เป็นเพื่อนมันเพื่อนกันกับบักทอง
ติ๋มเขาเมินไม่มอง ทองต้องเมาทุกวัน
มีเหล้าเท่านั้น เป็นเพื่อนยามเหงา
ทองต้องเมาให้ซื่ม เพื่อจะลืมติ๋มคนหูเบา
ดื่มให้ลืมหน้าติ๋ม และรอยยิ้มที่ติ๋มหลอกลวงเรา
ทองต้องเป็นคนเมา เมาเพราะความเสียใจรัก
ไม่ได้สมใจบักทอง
ติ๋มเขาลืมทองแน่ มีเฒ่าแก่มาขอกินดอง
มีแขกมาเป็นโขยง เขาคงจะมันยกล่อง
เหมือนเฉือนหัวใจบักทอง ผู้คนเขาพากันมอง
ทองดื่มเหล้าจนว่าเดินเซ
ทองบ่มีหยังดอก นอกจากเมามีน้ำเหล้าหยำเป
ติ๋มเขาสุขช่างเขา ทองจะเอาน้ำเหล้าไม่โยเย
เมาแล้วไม่เกเร เซก็เพียงยามเมา
ขอรักเหล้าดีกว่ารักติ๋ม
เป็นไงครับ รูปแบบคงไม่ใช่กลอนสุภาพทั้งหมดครับ เป็นกาย์ยานีบ้าง เป็นกาพย์ของอีสานบ้าง จำนวนคำในวรรคก็ไม่คงที่เป็นรูปแบบกลอนลำทำนองลำเดินกลอนขอนแก่นครับ ภาคอีสานจะมีลำทำนองอุบล ทำนองกาฬสินธุ์ และมีหลายประเภทครับ ช้าเร็ว และแบ่งตามเนื้อหาด้วยครับ
กลอนที่ยกมานี้เป็นของ สุบิน นิลวรรณ ร้องเอาไว้ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน
โด่งดังมาก เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่นำเอาทำนองเพลงมาใส่ลงบทกลอนครับ
9 ธันวาคม 2552 16:26 น.
สุรศรี
ผญา วันนี้เป็นผญาภาษิตครับ
คันหากมีควมฮู้ ฝีมือล้นลื่นคน
เถิงสิอยูฟากฟ้า ในป่าเขาเขียว
กะหากมีคนเห็น พบพาลจนพ้อ
คือจั่งคันคากน้อย ยังได้ฮบพญาแถน
ยังได้ครองนครขวาง นั่งเมืองเป็นเจ้า
ศัพท์
คันคาก หมายถึง คางคก ตัวละครเอกจากเรื่องพญาคันคากที่สามารถรบชนะพญาแถนที่อยู่บน สวรรค์ จนพญาแถนต้องดลบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล โดยสั่งให้นาคไปเล่นน้ำ ที่เป็นอ่างกะทะขนาดใหญ่บนสวรรค์ แต่เมืองมนุษย์ต้องให้สัญญาณ เตือนให้พญาแถนรู้ตัวว่าถึงฤดูฝนตกแล้ว โดยการจุดบั้งไฟขึ้นบนท้องฟ้าเป็นความ เชื่อของชาวอีสานครับ
ฮบ หมายถึง รบ
พญาแถน หมายถึง เทวดาที่มีหน้าที่บันดานให้ฝนตกตามฤดูกาล(พระพิรุณ)
พ้อ หมายถึง พบ เจอ
จั่ง หมายถึง จึง
เป็นเจ้า หมายถึง ได้ครองเมือง
ความหมาย ถึงจะเป็นคนรูปชั่วตัวดำเช่นพญาคางคก ถ้ามีความรู้มีฝีมือก็สามารถครองเมืองได้ เป็นการสอนผู้คนไม่ให้น้อยเนื้อต่ำใจในรูปร่าง ขอเพียงมีความรู้ความสามารถก็เป็นใหญ่ได้ครับ
สุรศรี
8 ธันวาคม 2552 15:32 น.
สุรศรี
บรรยากาศหนาว ๆ แบบนี้ ขอมอบเพลง ๆ ให้ทุกคน
ครับไม่รู้ที่มาและใครแต่งครับ
แต่เพราะมาก ๆ อยากให้ทุกคนได้ฟังครับแต่ลงไม่เป็นครับ
ใครรู้ช่วยบอกที่มาเอามาลงด้วยครับ ขอบคุณมาก
จากยอดดอยแดนไกลใครจะเห็น ยากลำเค็ญเพียงใดใจยังมั่น
จะปกป้องผองภัยชั่วนิรันดร์ สิ้นชีวันก็ยังห่วงหวงแผ่นดิน
ด้วยหน้าที่ชีวิตรับผิดชอบ คือคำตอบที่รบอยู่มิรู้สิ้น
ความภูมิใจลึกล้ำด่ำอาจิณ รักแผ่นดินรักเกียรติศักดิ์นักนบไทย
คิดถึงยอดหฤทัยใจจะขาด แต่ไม่อาจตัดใจทิ้งไปได้
ด้วยหน้าที่ศรัทธาพาใจกาย ส่งความหมายเกินค่ากว่าชีวี
ส่งใจข้ามขอบฟ้าห่วงหาเสมอ หวังเพียงเธอคิดถึงผู้อยู่ที่นี่
ขอให้รอวันรุ่งของพรุ่งนี้ ฟ้าคงมีพรชัยให้กับเรา
สุรศรี