6 กุมภาพันธ์ 2553 17:32 น.

ห้วงรำพึง....

สุรศรี

.....จากบ้านนาไกลใจถวิล
ทิ้งถิ่นท้องทุ่งมุ่งฝัน
ผ่านปีลับเดือนเลื่อนวัน
ผ่านผันหลายฝันพานพบ
.....คิดถึงท้องนาเคยไถหว่าน
วันวานเคยคราดไถกลบ
เคยปักเคยดำจนค่ำพลบ
เหนื่อยแทบสลบจึงได้นอน
.....นั่นต้นตาลเดี่ยวยืนเด่น
ที่ข้าเคยเห็นเมื่อก่อน
นั่นจามจุรีที่นาดอน
แดดร้อนใต้ร่มลมเย็น
.....หนองน้ำสีขุ่นกลางนา
แดดร้อนข้ามาลงเล่น
ไล่ทุยอาบน้ำยามเพล
ย่ำเลนคว้าโคลนโยนกัน
......กระท่อมมุงฟางข้างจอมปลวก
มีกอไผ่รวกข้างข้างนั่น
คอกควายข้างล่างหว่างนั้น
สุมควันไล่ยุงจนฟุ้งไป
.....หน้ากระท่อมลอมฟางข้างหน้า
ลานข้าวขนมากองไว้
กลางคืนรีบตื่นตีทันใด
รอข้าวมัดใหม่ขนเข้ามา
.......ดองข้าวสาโทใสไห
เตรียมไว้ลงแขกพร้อมหน้า
ต้มไก่ลาบงัวคั่วปลา
เฮฮาตามประสาบ้านเรา
.......ขนข้าวใส่รถอีแต๊ก
หัวสั่นด๊อกแด๊กขึ้นเล้า
หนุ่มสาวช่วยกันคนบ้านเฮา
ดื่มเหล้าต้มไก่ใส่ยาดอง
......จากบ้านนาไกลใจถวิล
ทิ้งถิ่นญาติพี่น้อง
สู่กรุงมุ่งฝันตามครรลอง
น้ำตาไหลนองยามคิด
.....ตามฝันหาฝันเจอไหม
ฝันที่หัวใจลิขิต
ตามหามาครึ่งชีวิต
มิ่งมิตรอย่าถามได้ไหมฯ
...........				
6 กุมภาพันธ์ 2553 09:29 น.

ผญา (2/53)

สุรศรี

ผญาเกี้ยว
เห็นว่าพลูลามค้าง  ปลายซานเหี่ยวแดด
เจ้าบ่ตักน้ำพรม     เจ้าบ่อมน้ำพูด
พลูสิแห้งเหี่ยวตาย
หรือสิแพงน้ำ	       ไว้หดผักซียามเดือนสี่
ผักกาดเจ้าบ่หดน้ำไว้  สิตายแห้งอยู่หนาน
................
อธิบาย
ลาม....เลื้อยตามค้างพลู
ซาน...ชานบ้าน ระเบียงหน้าบ้าน
เหี่ยวแดด...เฉาแดด
พรม...รด
พูด....อมน้ำแล้วไปเป่า
แพง...หวง
ผักซี...ผักชี
หนาน....แปลงผัก
.
ความหมาย
ผู้ชายคนข้างบ้าน  ทำไมน้องไม่สนใจ  จะปล่อยให้แห้งเหี่ยวตายเช่นนั้นหรือ
จะหวงน้ำไว้ทำไม  หรือจะปล่อยให้เหี่ยวตายเหมือนพลูเหมือนผักกาด
เป็นคำตัดพ้อจากฝ่ายชายครับ  เปรียบตนเองเหมือนพลู ที่ปลูกไว้ที่หน้าระเบียงบ้านแต่ผู้หญิงไม่สนใจครับ  แสดงให้เห็นว่าเมื่อก่อนคนอีสานก็นิยมเคี้ยวหมากเหมือนคนไทยทั่วไปครับ				
5 กุมภาพันธ์ 2553 08:14 น.

ฮิมฝั่งหนองหาร

สุรศรี

ฮิมฝั่งหนองหาร
อ้ายนี่นั่งเบิ่งฟ้า  กอดเข้ายามมื้อแลง
อยู่ฮิมฝั่งหนองหาร  บ้านเฮายามนี้
มาคิดพ้อแต่หน้า     คำแพงน้องของพี่
งานธาตุเชิงชุมปีนี้    นางฟ้าเจ้าอยู่ใส
เขาภูพานได้แต่เศร้า กะยังคอยถามข่าว
บ่ยอมกินข้าวน้ำ     คอยถ่าแต่พะนาง

ฝนไหลรินจากฟ้า  คือจั่งน้ำตาไหล
ย้อนเจ้าไกลบ้านเฮา ข่าวคราวบ่มีฮู้
คือจั่งปลาซิวสร้อย  ไหลลงแม่น้ำก่ำ
บ่ยอมคืนต่าวโค้ง   คืนบ้านเก่าหลัง

บ่มีมนต์ดอกหล้า  อ้ายบ่แม่นผาแดง
สิไปแปลงมนต์ขลัง  ให้พะนางคืนบ้าน	
ย้านผู้เขียวใบหม่อน  ศรีออนซอนน้องของพี่
หลงเมืองกรุงแล้วห่านี้  จั่งลืมบ้านบ่ต่าวคืน

อ้ายนี่นั่งเบิ่งฟ้า      กอดเข่ายามมื้อแลง			
ฟังแต่เสียงลมพัด  ฟาดฟองเป็นคลื่น
ให้เจ้าคืนกลับห้อง  เมืองสกลคือเก่า
วานสายลมบอกเจ้า  ให้คืนบ้านเก่าหลัง
อ้ายศรียังอยู่ยั้ง   ถ่านางอยู่คือเก่า
ฮิมหนองหารหม่องนี้  ให้โงโค้งต่าวคืน...เด้อหล่าเด้อ...ฯ
...........................................
อธิบาย
ฮิม.....ริม
อยู่ใส.....อยู่ไหน
คอยถ่า....คอยท่า
ต่าวคืน,โงโค้ง,คืนบ้าน....ขอให้กลับมา รีเทิน 
คือจั่ง...เหมือนดั่ง
แม่น้ำก่ำ...แม่น้ำสายหนึ่งที่น้ำจากหนองหารไหลลงครับ
คำแพง ....มายเดียร์ สุดที่รัก
      ต้องขออภัยครับ  บางคนบอกว่าสุรศรีไม่แปลให้เลย
เปิดดิกชันนารีก็ไม่เจอ.....ไม่ยากหรอกแปลง่าย  ๆ  ครับ
                  ด้วยรักจากใจครับ				
5 กุมภาพันธ์ 2553 07:43 น.

เรื่องของผัว ๆ เมีย ๆ

สุรศรี

อ๊อฟแดงแต่งงานนั้น
มีลูกด้วยกันสองคน
อะไรก็หย่อนยาน
เป็นเรื่องสังขารของคน
สะโพกและหน้าอก
มันคล้อยตกดูพิกล
น้ำหนักก็เพิ่มขึ้น
สุดจะฝืนจริงหนอคน
วันวันไม่ทำงาน
ล้างถ้วยล้างจานเอาแต่บ่น
บางวันเล่นแต่ไพ่
หวังรวยไวดูหนอคน
ลูกเต้าไม่ดูแล
มันช่างแย่นะหน้ามล
เรื่องเซ็กนั้นไม่มี
นานเกือบปีมันเหลือทน
ซื้อหวยหวังรวยเร็ว	
แต่ก็เหลวมีแต่จน
วันหนึ่งในตอนเช้า
อ๊อฟชี้เข้าที่ตรงก้น
ถ้าเธอฟิตซะหน่อย
มันคงไม่ย้อยคงจะน่าสน
วันใหม่ชี้ที่หน้าอก	
ดูตลกและชอบกล
อีกเช้าของวันใหม่	
เมียกำกล่องดวงใจเพราะสุดจะทานทน
ถ้าแกฟิตซะหน่อยหนึ่ง
ฉันคงไม่พึ่ง..ช่างไฟ...คนขับรถ..และคนสวนอีกคน ฯ				
4 กุมภาพันธ์ 2553 13:23 น.

ไปไหว้พระธาตุพนมกันไหม

สุรศรี

เจดีย์ธาตุที่ตั้งริมฝั่งโขง
ที่เชื่อมโยงสายสัมพันธ์ที่มั่นหมาย
ของชาวพุทธที่ยึดมั่นกันมากมาย
ทั้งฝั่งขวาฝั่งซ้ายหลายหลายคน
บุญเดือนสามนมัสการงานพระธาตุ
ต่างมุ่งมาดกราบไหว้ได้สักหน
เพื่อชีวิตจะได้มีศรีมงคล
เป็นกุศลผลบุญคุณอนันต์
วันมาฆบูชาสิบห้าค่ำ
พิธีกรรมเวียนเทียนที่ยึดมั่น
ต้องไปร่วมในพิธีที่สำคัญ
ไปร่วมกันไหว้พระธาตุพนม
จากหนองคายถนนสายริมฝั่งน้ำ
เลาะเรียบลำฝั่งโขงมาวันทาก้ม
สายอุบลมุกดาหารผ่านมาชม
สายสกลก็นิยมกันผ่านมา
จากภาคเหนือภาคกลางอีสานใต้
ต่างมาไหว้พระธาตุกันพร้อมหน้า
รถนับพันคนนับหมี่นล้วนศรัทธา
พวกพ่อค้าแม่ค้าก็มากัน
นับร้อยพันร้านค้าตลาดนัด
เขาต่างจัดแบ่งไว้นอกในนั่น
ใครใคร่ซื้อะไรมีครบครัน
มีนับพันนับร้อยดาษดา
ต่างเบียดเสียดเยียดยัดอัดกันแน่น
คนนับแสนธูปเทียนได้กันพร้อมหน้า
กัลปพฤกษ์พร้อมเครื่องโมทนา
ได้แล้วมาเวียนบรรจบครบสามที
กล่าวถวายบูชาองค์พระธาตุ
เกิดทุกชาติให้พ้นทุกข์อยู่สุขี
อยู่ภายใต้ร่มพระบารมี
ได้ยินดีเป็นพี่น้องผองชาติไทย
อย่าได้มีความโลภและโกรธหลง
อยู่ยืนยงร้อยพรรษาจะหาไหน
สุขภาพกายใจดีอย่ามีภัย
รัตนตรัยเป็นที่พึ่งซึ่งยาวนาน
กลิ่นธูปเทียนควันฟุ้งฝุ่นตรลบ
อากาศร้อนอ้าวอบทั่วสถาน
มาทุกปีอากาศหนาวเหลือประมาณ
เหลือทนทานต้องออกมาหน้าเจดีย์
มองเห็นพระเจดีย์สี่เหลี่ยมสูง
ดั่งยางยูงดูสง่าเป็นราศี
มีลาวดลายบัวงามอร่ามดี
ยอดแหลมมีฉัตรทองมองเห็นไกล
ตั้งอยู่ห่างเมืองนครสักหกสิบ
มองลิบลิบยืนเด่นเห็นใกล้ใกล้
อยู่อำเภอธาตุพนมถิ่นภูไท
ศูนย์รวมใจไทยพุทธนับพันปี
ขอพี่น้องบ้านกลอนรับพรเถิด
อันประเสริฐทั่วหล้าสง่าศรี
ให้ร่ำรวยสวยหล่อและพอดี
อย่าได้มีโพยภัยใจสุขเอย ฯ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุรศรี
Lovings  สุรศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุรศรี